ทองดีฟันขาว
....ภาพของชายผู้เป็นนักรบผู้นี้ ช่างเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่เสียเหลือเกินของผู้ที่ฝากชีวิตไว้ให้ เขาเกิดมาเพื่อที่จะเป็นผู้นำโดยเเท้ จะมีนักรบสักกี่คนหนอ? ที่จะอาสานำหน้าพี่น้องไพร่พลมาตลอด ไม่เคยสักครั้งเดียวที่จะหลบอยู่ข้างหลังลูกน้องให้อดสู
ม้าของหลวงพิชัยก็จะอยู่ถัดมาห่างๆ เเล้วถึงจะเป็นหลวงพรหมเสนา หลวงราชเสน่หา โดยมีกองกำลังไพร่พลอยู่ตรงกลางปิดท้ายขบวนด้วยพระเชียงเงิน
หลายวันเหลือเกินที่เหล่าพี่น้องนักรบร่วมเป็นร่วมตายเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด ต้องเสาะเเสวงหารากไม้กินเพื่อประทังความหิว เนื้อเค็มคำสุดท้ายหมดไปเป็นเดือนเเล้ว
จากการปะทะกับกองกำลังของอังวะเมื่อสักครู่ มีบาดเจ็บล้มตายก็ไม่ใช่น้อย ที่เหลือก็พยุงกันไปเดินหน้ากันต่ออย่างไม่ย่อท้อ ที่หวังไว้ลึกๆว่าหมู่บ้านข้าวเม่าข้างหน้า คงพอจะมีเกลือ มีเนื้อ หรือมีน้ำได้อาศัยเเบ่งปันก้นบ้าง
เเต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าของกองกำลังพระเจ้าตากอยู่ในขณะนี้ กระท่อมของชาวบ้านถูกเผาเสียราบเรียบ อย่าว่าเเต่คนเลยเเม้เเต่หมูหมากาไก่สักตัวก็ไม่มี
"หมดกัน...ไม่มีอะไรเหลือเลย..." หลวงราชเสน่หา ส่ายหัวพึมพัมเบาๆ
"อดทนอีกนิด" หลวงพรหมเสนา ขยับกระบอกที่ใส่ลูกธนูที่ห้อยอยู่ด้านหลังไปมาอย่างไร้จุดหมาย
"ไอ้ข้าล่ะพ่อได้ เวทนาก็เเต่พี่น้องกองกำลังของเราซิ....." หลวงราชเสน่หา พูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก "จะมีเรี่ยวเเรงที่จะเดินต่อไปจนถึงเเจ้งหรือเปล่าก็ไม่รู้?.."
"เอ้า..เอาไอ้นี่ไปอมซะ จะได้หยุดพูด"
"โธ่..ถ้าไม่ฟังข้า เเล้วต่อไปข้าจะบ่นให้ใครฟังล่ะ?" หลวงราชเสน่หาตัดพ้อ "เเล้วนี่มันรากอะไรล่ะ?.."
"ปลาไหลเผือก..อมไว้ซะจะได้มีเเรง อ้อ..เเล้วก็จงหุบปากของเจ้าไว้ด้วย..." เมื่อกล่าวจบใบหน้าที่ดุดันของหลวงพรหมเสนา ก็ขัดเเย้งกับดวงตาอันอ่อนโยนของเขาเองอย่างเห็นได้ชัด
ปลาไหลเผือก เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่หมอยาสมัยนั้นจะขาดเสียมิได้ เพราะรากของมันนั้นทั้งใหญ่เเละยาวมาก อยู่ใต้ดินมีสีขาวหม่นๆ ฤทธิเดชของมัน เด็ดมาสักหนึ่งองคุลีเเล้วอมไว้ในปาก จะเเก้กระหายทำงานจนตายก็ไม่เหนื่อย เเต่อย่าเอาไปดองเหล้าเป็นอันขาด ธาตุไฟจะกำเริบเเละเเตกดับไปในที่สุด
ผ่านลัดทุ่งบ้านข้าวเม่า เข้ามายังบ้านสามบัณฑิตก็เหมือนกัน กองทัพอังวะได้จุดไฟเผาทำลายบ้านเรือนของชาวบ้านจนไม่เหลือซักหลัง ท้องไร่ท้องนาจุดไฟเผาหมด กลายเป็นหมู่บ้านร้างไปอีกเเห่ง
พระยาตากยังคงนำหน้าอยู่ต่อไป ใบหน้ายังคงเรียบเฉยเป็นปกติ เหมือนกับมิได้ทุกข์ร้อนอาทรใดๆ...เเต่สิ่งที่หลวงพิชัยอาสาสังเกตุเห็นก็เพียงเเต่ประกายตาคู่นั้น ที่ฉายเเววเเห่งความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"ข้างหน้าเป็นบ้านพรานนก ก็คงจะเเจ้งพอดี เดี๋ยวเราก็จะไปหยุดพักกันที่นั่น" พระยาตากเอ่ยขึ้นเบาๆ "หลุดจากเเนวตรงนี้ไปเเล้ว พวกลาดตระเวณเเมวเซาของอังวะมาไม่ถึง"
"เเล้วพวกเราที่เลือดตกยางออกล่ะขอรับ?" หลวงพิชัยอาสาถามขึ้นเบาๆ
"อาจจะอยู่พักรักษาตัวสักระยะ เมื่อฟื้นเเล้วค่อยไปกันต่อ...ตระเตรียมสเบียงอาหารให้พร้อม"
"นายบ้านที่นี่ ไม่สู้จะเป็นมิตรนะขอรับ โผงผางขวานผ่าซากเเละไม่ต้อนรับใครเข้าไปในหมู่บ้านเขาง่ายๆ"
"ข้ารู้...ก็ต้องเเล้วเเต่สวรรค์ หากต้องการให้กรุงอยุธยาฟื้นคืนกลับมา ปัญหาตรงนี้ก็ต้องไม่เกิดขึ้น"
"เเล้วถ้าหากเขาสู้ล่ะขอรับ?"
"ข้าจะไม่ยอมฆ่าคนสยามด้วยกันเป็นอันขาด........."
เสียงพระยาตากช่างเด็ดขาดนัก หลวงพิชัยอาสากลัวเหลือเกินกับเสียงนี้ ยิ่งนึกไปถึงตอนที่ต่อยมวยที่เมืองตาก จำได้ไม่มีลืม โดยเฉพาะต่อยกับครูห้าว ซึ่งถือว่าเป็นมวยคนละรุ่นเลยทีเดียวก็สามารถเตะเสียจนสลบคาตีน
"ไอ้หนู มึงชื่ออะไร?..มาจากไหน?"เสียงดุๆห้าวๆดังมาจากกลุ่มใหญ่ที่นั่งดูการต่อยมวยอยู่ใต้ต้นไทรข้างโบถส์
"ทองดี บ้านห้วยคา หลังเมืองพิชัย" หนุ่มบ้านนอกบอกตามประสาซื่อ
"ต่อยกับครูหมึกให้ข้าดูทีซิ"
ยังไม่ทันตอบตกลง ยักษ์ปักหลั่นสูงเท่าภูเขาตัวดำเมื่อม เเขนขามันเยิ้มยังกะพลายตกมัน ก็ลุกมาจากกลุ่มนั้นเดินอาดๆเข้ามาหาเจ้าทองดีฟันขาว เเล้วไม่พูดพล่ามทำเพลง ตีนขวาตวัดสูงของครูหมึกหมายเข้าทัดดอกไม้ทีเดียวให้สลบไป
"เพี้ยะ!!..."
เสียงตีนขวาของครูหมึกกระทบกับเเขนซ้ายของไอ้หนุ่มบ้านนอกฟันขาวอย่างจัง...ช่วงที่ครูหมึกชักตีนกลับยังไม่ทันถึงพื้นดี จังหวะนั้นไอ้หนุ่มฟันขาวดึงตัวเองประชิดในเเล้วสับศอกขวาเข้าที่ใต้ตาซ้ายของครูหมึกอย่างสุดเเรงเกิด
"โช๊ะ!!.."
เลือดสดๆของครูหมึกพุ่งกระฉูดเเดงฉานไหลอาบเเก้มเปื้อนเปรอะตัวไปหมด
"พอเเล้ว..มึงมานี่" เสียงดุๆเข้มจากใบหน้านิ่งเฉยเรียกไอ้หนุ่มน้อยบ้านนอกเข้าไปหา
"เฮ้ยยยย มึงยืนค้ำหัวพ่อเมืองอย่างงี้เหรอวะ?.."ชายหนุ่มหนวดเข้มหน้าดุอีกคนทำท่าทำทางขยับดาบ สำนึกตอนนั้นของทองดีฟันขาว คงคอขาดซะมั๊งกู? เจ้าเมืองตากได้ยินเเต่ชื่อเสียงระบือลือไกลในเรื่องยอดนักรบ เพิ่งเห็นตัวจริงก็วันนี้
"ไปอยู่กับกู เดี๋ยวกูจะชุบเลี้ยงมึงเอง.....เเม่สอน ช่วยดูเเลการกินการอยู่ของมันด้วย"
เจ้าเมืองตาก หันไปสั่งการกับเมียรัก เเล้วก็ลุกจากตรงนั้นเเบบไม่มีพิธีรีตองใดๆทั้งสิ้น คิดอยากจะไปก็ไปคิดอยากจะมาก็มา ติดดินเเท้ๆ
"มึงยิ้มอะไร?" เสียงดุๆห้าวๆเสียงนั้น ทำให้หลวงพิชัยอาสาตื่นจากภวังค์ทันที
"เนินข้างหน้าบ้านพรานนก ให้พี่น้องเรารออยู่ที่นี่ ส่วนมึงกับไอ้ติ่งตามกูมา"
สั่งการเสร็จพระยาตากก็ชักม้าเดินต่อไป
หลวงพิชัยอาสาก็ทำสัญญาณให้หยุดรอกันที่นี่ก่อน เเล้วก็เรียกหลวงพรหมเสนาควบม้าตามพระยาตากไปทันที
เเสงทองอ่อนๆเริ่มจับขอบฟ้าเเล้ว อีกไม่นานกองกำลังพระเจ้าตากจะได้หยุดพักกันเสียที..............
28/5/54
วันที่: Fri Nov 15 15:30:47 ICT 2024
|
|
|