1... ปลุกขวัญ
.....ในคืนอันอบอ้าวไร้ซึ่งเเรงลมที่จะช่วยให้ผ่อนคลายความร้อมรุ่มในหัวอกของคนกรุงศรีอยุธยาในเวลานั้น ณ.วัดเก่าเเก่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เลียบริมเเม่น้ำใหญ่ เสียงกระซิบกระซาบคุยกันเบาๆ โดยมีเเสงจากไต้ที่จุดไว้ไม่กี่อัน ทำให้เเลเห็นภาพของชายกลุ่มหนึ่งประมาณห้าร้อยคน มารวมกลุ่มกันเงียบๆที่ลานต้นโพธิ์หน้าโบถส์เก่าๆ
มีทั้งผมสั้นเกรียนเเบบชายหนุ่มอยุธยา หรือไว้ผมเปียยาวๆเเบบชาวจีน อีกทั้งขุนนางเก่าที่เสื้อผ้าอาภรณ์ล้วนบ่งบอกว่าเปี่ยมล้นไปด้วยราคาที่ทำหน้าตาสะอิดสะเอียนกับการที่จะต้องมายืนปะปนกับไพร่ที่ตีนเปรอะไปด้วยขี้โคลน...
เหล่าทหารไพร่พลเลว ใส่เสื้อผ้าขาดวิ่นมอซอ ยืนผอมจนเห็นโหนกเเก้มทั้งสองข้างเพราะยังไม่ได้มีอะไรลงท้องเลยตลอดทั้งวัน เหล่าศัตราวุธที่ประจำกายก็มีเพียงปืนคาบศิลาเก่าๆที่ยึดได้จากพวกอังวะไม่กี่กระบอกทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันจะยังคงใช้งานได้อยู่หรือไม่...ส่วนดาบนั้นก็ใช้ดาบที่ใช้ออกงานตามพิธิต่างๆมาเป็นอาวุธสังหาร นอกนั้นก็จะเป็นเเหลนหลาว
ม้าผอมๆขนสีซีดเซียวประมาณร้อยกว่าตัว โขกกีบเปล่าๆด้วยอาการหงุดหงิด ปราศจากช้างเเม้เพียงเชือกเดียว เเละเเล้วเสียงที่กระซิบกระซาบกันเบาๆก็พลันเงียบกริบ เมื่อพระยาตากกับนักรบคู่ใจในชุดของนักรบกรุงศรีรวมสามคนเดินออกมาจากภายในโบถส์หลังเก่านั้น
พระยาตากกวาดสายตามองผู้ที่อยู่ในที่นั้นเป็นเวลานาน ก่อนทีหลวงพิชัยอาสาจะก้าวออกมาข้างหน้าเเล้วยกมือให้ทุกคนอยู่ในความเงียบ
พระยาตากหลับตาสักครู่เเล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
"พี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของข้า...ณ.บัดนี้ พระเจ้าอยู่หัวเเละกรุงศรีอยุธยาได้จบสิ้นเเล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสิ้นบุญญาธิการเเล้ว..."
เสียงพึมพัมอื้ออึงกันอย่างตกใจ ต่างก็สอบถามเรื่องราวกันจ้าละหวั่น จนพระยาตากต้องยกมือขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
"ใช่เเล้ว...บัดนี้ ข้าพระยาตาก ขอประกาศพระองค์มิได้เป็นธรรมิกราชอีกต่อไป เนื่องจากทรงพอพระทัยเวทย์มนต์คาถายิ่งกว่าความกล้าหาญ โปรดปรานความฟุ้งเฟ้อยิ่งกว่าคุณธรรม ทรงทอดทิ้งทศพิศราชธรรม จึงต้องทรงชดใช้ เเต่มันจะไม่เป็นการยุติธรรมที่ราชอาณจักรจะต้องสูญสิ้นตามพระองค์ ดังนั้น ขอให้ผู้ที่จะพร้อมจะต่อสู้เพื่อกรุงศรีอยุธยา....จงตามข้ามา!!......"
"เราจะออกจากกรุงมุ่งไปตะวันออก เพื่อรวบรวมผู้คน เเล้วจะกลับมาบดขยี้พวกอังวะให้ย่อยยับ...
วันที่: Fri Nov 15 15:36:16 ICT 2024
|
|
|