เสือสมิง เป็นผีตามความเชื่อของชาวไทยและชาวกะเหรี่ยง ที่เกี่ยวข้องกับป่าและภูติผีวิญญาณสิ่งชั่วร้าย
ด้านความเชื่อ
? ถือว่าเป็นเสือชนิดหนึ่ง ที่มีคำสาปอาถรรพ์สถิตอยู่ในตัว สามารถแปลงกายเป็นคนได้ เพื่อหลอกผู้ที่พบเห็นทั้งชายหญิง โดยเฉพาะนักเดินป่า หรือนายพราน ผู้ที่เป็นเสือสมิงอาจเป็นได้หลายแบบ คือ
? เกิดจากดวงวิญญาณของเสือที่ตายแล้วมาสิงสู่ร่างคน หรือวิญญาณคนที่ตายแล้วยังไม่ไปเกิด จึงได้สิงสถิตและจองจำในร่างของเสือร้าย เป็นลักษณะการเกิดซึ่งเรียกว่า โอปปาติก
? เกิดจากเสือที่อาละวาดกินคนเข้าไปมาก จนมีวิญญาณคนสิงอยู่ในร่างเสือ
? ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า สามารถแปลงกายเป็นเสือแต่อาจจะทำผิดครูจึงทำให้เวทมนตร์เข้าหาตัว หรือ ผู้ที่มีวิชาอาคมแก่กล้าแต่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ของเข้าตัวกลายเป็นเสือได้ เสือสมิงพวกนี้จะเรียกว่า สมิงอาคม
ลักษณะและพฤติกรรม
? เสือสมิง คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า ต้องเป็นเฉพาะผู้หญิง แต่ในความจริงเสือสมิงเป็นได้ทั้งชายและหญิง
? เสือสมิงที่มีฤทธิ์แรง สามารถควบคุมตนเองให้แปลงกายเป็นเสือตัวใหญ่ในช่วงเวลาไหนก็ได้ ทั้งกลางวันและกลางคืน มีแรงอาฆาตพยาบาทมาก
? เสือสมิงที่มีฤทธิ์ปานกลาง จะแปลงกายได้ในช่วงที่ควบคุมตนเองไม่ได้ เมื่อตอนมีอาการหวาดกลัวสุดขีด หรือในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงแล้วกลายเป็น เสือลายพาดกลอน
? ผู้ที่เป็นเสือสมิง จะมีพฤติกรรมลึกลับในส่วนลึกของจิตใจ ทั้งบุคลิกท่างการแสดงออก จะมีลักษณะคล้ายกับเสือโคร่ง ชอบกินเนื้อสัตว์แบบสุกๆดิบๆและมีกลิ่นคาว ถ้าสัตว์อื่นที่ได้พบเห็นจะต้องหวาดกลัวทันที
? บางรายก็ไม่ปรากฏอาการแต่จะมีอากัปกิริยาเหมือนเสือในบางครั้ง เช่น การเดิน การตะครุบเหยื่อ สัมผัสการได้ดมกลิ่นในระยะไกล การมองด้วยสายตาดุที่น่ากลัวคล้ายเสือ ผู้คนทั่วไปน้อยคนไม่ค่อยกล้าสบตา
? เสือสมิง เป็นความเชื่อลึกลับ ที่อาจคล้ายคลึงกับความเชื่อของชนชาติอื่น อาทิ มนุษย์สิงโต (นรสิงห์), มนุษย์หมาป่า , มนุษย์เสือดาว มนุษย์เสือดำ (สาง), มนุษย์จระเข้, สกินวอร์คเกอร์
วิธีจัดการ
? โยนกล่องไม้ขีดไฟให้ลองจุดดู ถ้าไม่สามารถจุดไม้ขีดไฟได้ แปลว่าเป็นเสือสมิง เพราะเสือสมิงไม่มีนิ้วแบบมนุษย์ มีแต่อุ้งเท้าเป็นเสือตรงบริเวณมือ มีฟันเขี้ยวแหลมคมสามารถงอกยาวและหดเล็กได้ รูปแบบที่พบเห็นทั่วไป มักปรากฏตัวออกมาในรูปร่างเหมือนคนปกติทุกประการ แม้กระทั่งนายพรานและผู้อื่นไม่สามารถล่วงรู้ได้เลย จึงจำเป็นต้องสังเกตพฤติกรรมของคนๆนั้นให้ดี
? ใช้อาวุธที่มีอาคมอย่างดาบ กริช หรือมีดหมอลงอาคมแทงลงบนร่างเสือสมิง เพื่อทำลายอาถรรพ์ให้สูญสลาย
? ใช้กระสุนปืนศักดิ์สิทธิ์สำหรับฆ่าเสือสมิง เป็นการทำลายวิญญาณของมันให้ไปเกิดใหม่ และไม่ให้วิญญาณไปสถิตร่างเสือตัวอื่น
ตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยง
เสือสมิงตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยง เชื่อว่าเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาหรือพระภูมิเจ้าที่ ที่ดูแลรักษาปกป้องป่า จึงมีความเชื่อและข้อปฏิวัติว่า ห้ามล่าสัตว์หรือตั้งห้างบริเวณที่เป็นโป่ง ซึ่งเป็นแหล่งที่เป็นที่ชุมนุมของสัตว์ป่า มีผู้ที่เคยพบเห็นเจ้าของโป่งในเวลากลางคืน อ้างว่า มีดวงตาสามดวง ตาดวงที่สามอยู่กลางหน้าผากและเป็นสีเขียวเรืองแสงในความมืด มีเรื่องเล่ากันของชาวกะเหรี่ยงว่า ผู้ที่พบเจอกับเสือสมิง มักจะปรากฏเป็นผู้หญิงหรือเมียเข้ามาตามถึงในป่าแจ้งว่า ลูกป่วยให้กลับบ้าน เป็นต้น ถ้าลงไปก็จะถูกฆ่าตาย บ้างถึงกับว่า เมื่อมีผู้ไม่ยอมลงไป สักพักก็กลับมาใหม่พร้อมด้วยคนอีกสี่คนหามคานใส่ศพของลูกหรือเมียมาก็มี มีบางคนที่ยิงปืนใส่ เช้ามาเมื่อลงจากห้างพบว่า มีรอยเท้าเสือขนาดใหญ่เพ่นพ่านอยู่บริเวณนั้น โดยเชื่อว่าคนสี่คนที่เห็นว่าหามคานนั้น คือ ขาทั้งสี่ข้างของเสือ เป็นต้น
ที่มา : http://www.punica.co.th/bbs/viewthread.php?tid=10627&extra=page%3D6
ความเชื่อเรื่องการลอดประตูชุมพล อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
ประตูชุมพล ตั้งอยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองนครราชสีมา เป็นเมือง หน้าด่านเมื่อ พ.ศ. 2199 อันเป็นปีที่พระองค์เสด็จขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา และสร้างกำแพงประตูเมืองอย่างแข็งแรง โดยมี ช่างชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นมิตรประเทศกับกรุงศรีอยุธยาในขณะนั้น เป็นผู้ออกแบบผังเมือง เมืองนครราชสีมาในขณะนั้นมี ลักษณะ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 1,000 x 1,700 เมตร เดิมมีประตูเมืองทั้งหมด 4 ประตู ได้แก่ ประตูพลแสนด้านทิศเหนือ ประตูพลล้านด้านทิศตะวันออก ประตูไชยณรงค์ด้านทิศใต้ และประตูชุมพลด้านทิศตะวันตก
ปัจจุบันเหลือเพียงประตูชุมพล เท่านั้นที่เป็น ประตูเมืองเก่า ส่วนอีกสามประตูได้สร้างขึ้นใหม่ ลักษณะประตูชุมพลเป็นประตูเชิงเทิน ก่อด้วยหินก้อนใหญ่และอิฐ ฉาบด้วยปูน ส่วนบนเป็นหอรบสร้างด้วยไม้แก่นหลังคามุงกระเบื้อง ประดับด้วยช่อฟ้า กระจังและนาคสะดุ้ง กำแพงต่อจากประตูทั้งสองข้าง ก่อด้วยอิฐ ส่วนบนสุดทำเป็นรูปใบเสมา
เชื่อกันว่าหากลอดประตูนี้ 1 ครั้ง จะได้กลับ มาโคราชอีกในไม่ช้า ถ้าลอด 2 ครั้งจะได้ทำงานหรือมาอยู่ที่โคราช แต่ถ้าลอดถึง 3 ครั้งก็จะได้คู่ครองเป็นคนโคราช ประตูชุมพล ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมืองนครราชสีมามีผังเมืองเป็น รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ล้อมรอบด้วยคูน้ำและกำแพง มีการสร้าง ประตูเมือง 4 ประตู โดยปัจจุบันคงเหลือแต่ประตูชุมพลทางทิศตะวันตก ของเมือง เท่านั้นที่เป็นประตูเดิม ส่วนอีกสามประตูคือ ประตูพลล้านด้านทิศตะวันออก ประตูพลแสนหรือประตูน้ำด้านทิศเหนือ และประตูชัยณรงค์หรือประตูผีด้านทิศใต้ ได้มีการสร้างขึ้น ใหม่แทนประตูเดิม
ความพิเศษของประตูชุมพล คือ ตรงเหนือช่องประตู จะมีเรือนไม้หลังเล็ก ๆ เป็นเรือนแบบไทยมีหลังคามุง กระเบื้อง ประดับด้วยช่อฟ้าใบระกา เรียกว่า ?หอรบ? เอาไว้สำหรับ บัญชาการรบ ส่วนของกำแพงที่ต่อไปทั้งสองข้างส่วนบน ทำเป็น รูปใบเสมา ใต้ใบเสมาเจาะช่องเป็นรูปกากบาท เพื่อใช้ลอบดูข้าศึก ด้านนอก และมีบันไดขึ้นหอรบ กำแพงเมืองนี้แต่เดิมได้สร้าง ล้อมรอบเมืองโคราชโดย มีคูน้ำคู่ขนานกันไปเป็นรูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าเป็นปราการอันแข็งแกร่ง เพื่อปกป้องเมืองโคราชจากข้าศึก ศัตรูมาหลายยุคหลายสมัย
วิทยุชุมชนเตรียมเฮ กสทช.เตรียมเสนอ คสช.ปลดล็อกให้สถานีวิทยุชุมชนออกอากาศได้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (25 มิ.ย. 57) เวลา 15.30 น. สำนักงาน กสทช.ได้เข้าชี้แจงต่อพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้นำเสนอ คสช. ออกประกาศในการปลดล็อกให้สถานีวิทยุชุมชนดำเนินการออกอากาศได้
ทั้งนี้กสทช.เสนอว่า วิทยุชุมชนที่จะกลับมาออกอากาศได้ จะต้องมีเงื่อนไขในการที่จะออกอากาศ ดังนี้
1.เป็นสถานีที่ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
2.จะต้องผ่านการตรวจเครื่องส่ง สายอากาศ ให้เป็นไปตามประกาศ กสทช. กำหนด คือ กำลังส่งไม่เกิน 500 วัตต์ ความสูงเสาไม่เกิน 60 เมตร และเมื่อออกอากาศแล้ว จะต้องมีรัศมีการให้บริการไม่เกิน 20 กิโลเมตร
3. หนึ่งนิติบุคคล ต่อหนึ่งใบอนุญาต
4. เนื้อหาในการออกอากาศจะต้องสอดคล้องกับประกาศของ คสช.
5.จะต้องมาทำข้อตกลง MOU ในการปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดกับทางสำนักงาน กสทช.
นายฐากร กล่าวว่า หากประกาศ คสช. ที่ทางสำนักงานฯ ได้เข้าไปชี้แจงสามารถประกาศได้ในสัปดาห์นี้ สำนักงาน กสทช. ก็จะสามารถเริ่มที่จะให้ สถานีที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้างต้นทยอยออกอากาศได้ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถออกอากาศได้ในทันที 377 สถานีก่อน ส่วนสถานีอื่นที่จะต้องเข้ารับการตรวจเครื่องส่ง สายอากาศ สำนักงานฯ ได้ชี้แจงต่อหัวหน้าฝ่ายกฎหมายฯ คสช. แล้วว่าการดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ ในการดำเนินการตรวจสอบด้านเทคนิค และด้านเนื้อหาที่ไม่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ทางกองทัพภาคที่ 1-4 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะร่วมกับสำนักงาน กสทช. ภูมิภาคทั้ง 14 เขต อำนวยความสะดวกให้กับสถานีวิทยุชุมชนในพื้นที่ด้วย“หากประกาศ คสช. ได้ประกาศปลดล็อกการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนแล้ว เรื่องนี้จะกลับมาอยู่ในความรับผิดชอบของ กสทช. ที่จะมีการพิจารณาให้สถานีวิทยุดังกล่าวทยอยออกอากาศต่อไป”
ป.ป.ช. ครับ เรื่องนี้คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องไปสองปีแล้วนะครับ ทำไมยังเงียบอยู่ จนต้องร้องซ้ำ
โฆษกคสช. ปฏิเสธ - "ประยุทธ" ไม่เคยหารือลับกับ "สุเทพ" แกนนำกปปส.
วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธกรณีหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เสนอข่าวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. มีการสื่อสารในลักษณะแบบส่วนตัวกันในช่วงที่ผ่านมา ว่า ยืนยันไม่เคยมีการพูดคุยหรือสื่อสารเป็นการส่วนตัว หรือส่งข่าวใดๆ ทั้งสิ้น ข่าวที่ออกมาอาจมีความคลาดเคลื่อนไป
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์มีเพียงรับมอบหมายจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการในฐานะหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อสื่อสารแจ้งกับทุกกลุ่มทางการเมืองเพื่อหาทางเจรจากัน แต่ก็ไม่เคยสำเร็จผล และการสื่อสารเพื่อแจ้งเตือนทุกกลุ่มหลีกเลี่ยงการกระทำการอันผิดกฎหมาย และให้ดำเนินการใดๆ อย่างระมัดระวัง เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งขณะนั้นกองทัพคงไม่สามารถทำในลักษณะดังกล่าวได้ เพราะเป็นด้วยงานความมั่นคง ต้องปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย และดำเนินการทุกอย่างไปตามกระบวนการที่เหมาะสมของภาครัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนื้อหาที่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ตีพิมพ์ ฉบับวันที่ 23 มิ.ย. รายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่ม กปปส. เปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการชุมนุม ที่แปซิฟิก คลับ ในกรุงเทพมหานคร ว่า หารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ถึงยุทธศาสตร์ในการถอนรากถอนโคนอำนาจทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่ปี 2553 พร้อมย้ำว่า จะไม่กลับไปเล่นการเมืองอีกต่อไป
นายสุเทพกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีการวางแผนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วงเวลาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหมด้วย พร้อมระบุกับแขกที่มาร่วมงานราว 100 คน ว่า ตนได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์และทีมงานผ่านทางการแชท “ไลน์” โดยเปิดเผยว่า ก่อนจะมีการประกาศกฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์ได้บอกกับตนว่า “คุณสุเทพและมวลมหาประชาชนอ่อนล้าเกินไปแล้ว ตอนนี้เป็นหน้าที่ของทหารที่จะรับงานต่อ”
ขณะเดียวกัน นายสุเทพระบุว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.นั้น ใช้เงินเกือบ 1,400 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 400 ล้านบาทจากครอบครัวและผู้สนับสนุนของแกนนำ กปปส. ขณะที่อีก 1,000 ล้านบาท มาจากเงินบริจาคของมวลชน ภายในงานเดียวกัน นายสุเทพยังระบุเหตุผลที่เลื่อนการจัดระดมทุนออกมาจากกำหนดเดิมว่า ไม่ต้องการสร้างความวุ่นวายให้กับ คสช.ระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก
นอกจากนั้นกลุ่มกปปส. ได้จัดตั้งสถาบันเพื่อผลักดันการปฏิรูปประเทศ และช่วยเหลือผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บและเสียชีวิตขึ้น โดยใช้เงินจากผู้บริจาค และนายสุเทพระบุว่า จะจัดงานเลี้ยงอาคารค่ำทุกวันเสาร์ และจะใช้สถานที่ของแปซิฟิก คลับ เป็นสำนักงานต่อไป โดยระบุว่าสถาบันดังกล่าวจะมีรูปแบบเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและทำงานด้านการวิจัย พร้อมย้ำว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น
ทั้งนี้ นายสุเทพเรียกร้องให้ผู้สนับสนุน กปปส.ให้การสนับสนุนกองทัพต่อไป โดยระบุว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา กองทัพเข้าใจจุดมุ่งหมายของกลุ่ม กปปส.ดี และภายหลังจากการยึดอำนาจ คสช.ได้นำข้อเสนอหลายประการของกลุ่มกปปส.ไปใช้ เช่น มาตรการช่วยเหลือชาวนา เป็นต้น
ทูตอียู ปฎิเสธคว่ำบาตรไทย ???
รัฐบาลสหรัฐฯ ลดอันดับประเทศไทยไปอยู่กลุ่ม 3 ตามรายงานปัญหาการค้ามนุษย์
วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ข่าวสดออนไลน์
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. รอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานการค้ามนุษย์ประจำปี 2557 จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีเนื้อหาระบุว่า ประเทศไทยถูกจัดอันดับไปอยู่ในกลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มล่างสุดของประเทศที่มีปัญหาการค้ามนุษย์ อันเป็นกลุ่มเดียวกับ ซีเรีย เกาหลีเหนือ ซิมบับเว สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ฯลฯ
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เห็นว่าไทยไม่มีความก้าวหน้าในเรื่องนี้เพียงพอที่จะได้รับการจัดอันดับในกลุ่ม 2 โดยสภาคองเกรสของสหรัฐกำหนดไว้ว่า ประเทศหนึ่งได้รับการยกเว้นให้อยู่ในกลุ่มที่ 2 ตามบัญชีรายชื่อที่ต้องจับตามอง ได้เป็นเวลาสองปี เมื่อครบกำหนด จะต้องได้รับการเลื่อนอันดับมาอยู่ในกลุ่มที่ 2 ปกติ หรือไม่ก็ต้องถูกลดไปอยู่กลุ่มที่ 3 ดังนั้น การลดระดับครั้งนี้ สะท้อนสถานการณ์ในกรณีนี้เท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา
สหรัฐตระหนักดีว่ารัฐบาลไทยมีความก้าวหน้าในการจัดการกับปัญหาการค้ามนุษย์ และหวังที่จะดำเนินความร่วมมืออันใกล้ชิดกับไทยสืบไป เพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
ใครเตะตัดขารัฐบาลไม่ให้ขายข้าว แอบปล่อยข่าวข้าวปนเปื้นสารพิษจนดังไปทั่วโลก จนต่างชาติระงับการสั่งซื้อ สั่งจองทั้งหมด
ใครไปตั้งกรวยดักตีข้าราชการไม่ให้ทำงานอยู่ 6 เดือน จนไม่สามารถตั้งเรื่องเบิก ประชุมซื้อขายแก้ปัญหาไม่ได้
ใครไปปลุกปั่น บีบบังคับธนาคาร และสถาบันการเงินไม่ให้ปล่อยกู้ให้ชาวนา
ใครไปกลั่นแกล้งเอกชนจีน ที่มาซื้อข้าว จีทูจี กล่าวหาใส่ร้ายขอหลักฐานโน่นนี่วุ่นวายจนเอกชนต้องถอนตัว
ใครไปประท้วงสถานฑูต จีน อังกฤษ อเมริกา ฯลฯ เพื่อไม่ให้ซื้อข้าวจากไทย
ใครไปแหถอนเงินจากธนาคาร เพียงแค่รู้ว่าแบงค์นี้จะปล่อยเงินให้ชาวนา
จำนำข้าว - ชาวนาได้ - รัฐขาดทุน ------- ประชาชนชื้อขาวถูก
ประกันข้าว - โรงสีได้ - ชาวนาขาดทุน ----- ประชาชนซื้อขาวแพง
คุณจะเอาแบบไหน ถ้าไม่เอาทั้งสองอย่าง กรุณา แนะนำหรือหาวิธีที่ดีกว่าด้วยครับ อย่าได้แต่วิจารณ์
มือถือเเพงที่สุดในโลก
อันดับ 1
Goldvish “Le million”
ราคา $1,000,000
อันนี้เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ครับ มีลักษณะคล้ายรูปปลา ประดับด้วยเพชรแท้ แม้แต่ปุ่มกด ยังเป็นเพชรแท้เลย ตัวเครื่องจะมีให้เลือก 2 สี คือสีทองและเงิน ถ้าเป็นสีทองจะทำด้วยทองคำแท้ ส่วนสีเงินจะทำด้วยเงิน รุ่นนี้มาพร้อมกับกล้อง 5 ล้าน หน่วยความจำขนาด 16GB ที่เพิ่มไม่ได้ และยังมี Motion Sensor ตรวจจับการเคลื่อนไหวอีกด้วย แล้วยังมีจุดเด่นอีกคือ ตามด้านข้างและปุ่มกดรวมทั้งด้านหลัง จะมีหลอดไฟ LED สีขาว จำนวน 34 หลอด ซ่อนอยู่ใต้บริเวณที่เป็นเพชร และจะทำงานเมื่ออยู่ในที่มืด ทำให้เห็นเป็นแสงวูบวาบสวยงาม หรือจะตั้งให้เป็นไฟกะพริบสวยงามก็ได้ ถือเป็นอีกรุ่นที่ออกแบบได้อลังการมากทีเดียว และ หากคำนวณราคา 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐให้เป็นเงินไทยแล้ว ราคาของมันคือ ราวๆ 35 ล้านบาท
คลังเสนอ"คสช."รื้อโบนัสรัฐวิสาหกิจ สูงสุดได้ถึง 11 เดือน
กราฟิกมติชน แสดงการจ่ายโบนัสของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในปัจจุบัน นายรังสรรค์ ศรีวรศาตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลัง เสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ทบทวนการจ่ายโบนัสของรัฐวิสาหกิจให้มี ความเป็นธรรมและเหมาะสมมากขึ้น เพราะมีรัฐวิสาหกิจจ่ายโบนัสให้พนักงานสูง เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. จ่ายโบนัสปี 2556 ให้พนักงานสูงถึง 11 เดือน ถือว่าสูงเกินไปแม้ว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็ ตาม