Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

พ.ท ยี่เซ มันเป็นใคร?

ArjanPong | 17-03-2557 | เปิดดู 3462 | ความคิดเห็น 0

 

 

 

 

 

 

 

ป.ป.ส.ประกาศจับ 25 นักค้ายารายสำคัญ ตั้งค่าหัว 12 ล้านบาท นักค้ายาเสพติดรายใหญ่หัวละ 2 ล้าน จากทั้งหมด 60,000 รายที่มีการเคลื่อนไหวในขณะนี้ มีผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA และนายหน่อคำ โจรสลัดน้ำโขง และอดีตลูกน้องขุนส่ารวมอยู่ด้วย ....

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 55 เวลา 13.30 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ เป็นประธานในการแถลงข่าว “ประกาศจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ” (Most Wanted) ผู้ต้องหาจำนวน 25 ราย รวมเงินรางวัลนำจับทั้งสิ้น 12 ล้านบาท โดยค่าหัวมีตั้งแต่ 1 แสน ถึง 2 ล้านบาท

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การประกาศจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญทั้ง 25 รายครั้งนี้มาจากการบูรณาการร่วมกันในหลายหน่วยงาน เพื่อหวังทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด โดยได้จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับป.ป.ส. และร่วมกับ บช.ปส.ออกเป็น 36 ชุด ในการไล่ล่าจับกุมกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดตามประกาศจับ ซึ่งต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมเป็นหูเป็นตาและต้องการทำลายเครือข่ายแกนนำสำคัญที่มีประวัติหลายครั้งและมีความเคลื่อนไหวในประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับเงินรางวัลเพื่อเป็นแรงจูงใจ สร้างแรงกดดัน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ทั้งยังจัดทำเป็นโปสเตอร์ภาพนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ และแปลเป็นภาษา 4 ภาษา ไทย อังกฤษ พม่า และยาวี เผยแพร่โดยการติดประกาศตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดผ่าน ศพส.ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับรายชื่อนักค้า 25 ราย และรางวัลนำจับประกอบด้วย

รางวัลนำจับ 2,000,000 บาท มี 2 ราย ได้แก่ นายอุสมาน สะแลแมง อายุ 34 ปี นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ พื้นที่ จ.นราธิวาส เครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างภาคเหนือ-ภาคใต้-ประเทศมาเลเซีย มีอิทธิพลในพื้นที่ ต้องสงสัยเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันหลบหนีหมายจับไปอยู่ที่ สปป.ลาว และยังคงจัดหายาบ้าส่งมาจำหน่ายในประเทศไทย

นายหน่อคำ (NUO KANG) สัญชาติพม่า อดีตทหารไทยใหญ่กองทัพเมืองไต (MTA) ลูกน้องขุนส่า หลังขุนส่ามอบตัวกับทางการพม่า นายหน่อคำเข้าเป็น อส.ทหารพรานพม่า มีบทบาทสำคัญในการค้ายาเสพติดพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก เป็นเจ้าของโรงผลิตยาบ้า และเป็นนายหน้าจัดหายาเสพติดเข้าไทย ร่วมกับ พ.ท.ยี่เซ ค้ายาเสพติด นอกจากนี้ยังรับจ้างทวงหนี้ใน จ.ท่าขี้เหล็ก คุ้มกันของหนีภาษี เก็บภาษียาเสพติดและภาษีสินค้าทุกประเภทที่ผ่านเขตอิทธิพลของตนเอง

นายหน่อคำ มีฉายา โจรสลัดแม่น้ำโขง เรียกเก็บค่าคุ้มครอง ค่าผ่านแดน และปล้นชิงยาเสพติดจากเรือในแม่น้ำโขง ใกล้พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซุ่มโจมตีเรือเจ้าหน้าที่ทางการพม่าและจีน ตั้งแต่ปี 2551-ปัจจุบัน รวม 15 เหตุการณ์ เสียชีวิต 29 ราย บาดเจ็บ 11 ราย


รางวัลนำจับ 1,000,000 บาท มี 3 ราย ได้แก่ นายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล อายุ 68 ปี เป็นทหารของขุนส่า คุมพื้นที่ด้านตรงข้ามบ้านผาฮี้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นหัวหน้าอาสาทหารพม่า เชื้อสายมูเซอร์ พื้นที่อิทธิพลและแหล่งผลิตยาเสพติด บ้านสามปีพม่า ตรงข้าม ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

นายเมธี แดนชุติมาพาณิชย์ หรือ ประยุทธ หรือ เมธี หงษาคำ อายุ 47 ปี คนกลางจัดหายาเสพติดระหว่างผู้ผลิตกับนักค้าในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

พ.อ.นะคำมวย หรือ คำมวย ไม่มีนามสกุล เชื้อชาติกะเหรี่ยง ผบ.พัน (พิเศษ) 907 กกล.ทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) ลักลอบนำเข้ายาเสพติดฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เชื่อว่าเป็นเจ้าของยาบ้า 9.4 ล้านเม็ด ซึ่งตรวจยึดได้เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2546

รางวัลนำจับ 500,000 บาท มี 4 ราย คือ นายชินวัชร์ หรือ บอส หรือ เอส นัยตรีมิตร นางฟอง ปทุมณี นายสุดเขตร์/สมศักดิ์/ศักดิ์ ปัญจขันธ์ และ นายรอดี หรือ ดี ยะโกะ

รางวัลนำจับ 300,000 บาท มี 6 ราย คือ นายไพรัช แดนชุติมาพาณิช หรือ แซ่หลี่ หรือ ประชา บัวเทศ, นายจายมูล ท้าวมูลละ, นายบุญเจริญ ระจา, นายสุรพล ประทุมตะ, นายจะเดาะ แอแส , นางสุภาพร คำศรีระภาพ

รางวัลนำจับ 200,000 บาท มี 2 ราย คือ นายเล่าหลู่ แซ่เจ๋า หรือ นายบุญรัตน์ จิรเมธีวัฒนกุล หรือ เสมี, นายยงศิลป์ แซ่ม้า

รางวัลนำจับ 100,000 บาท มี 8 ราย คือ นายอรรถพล พญาวงษ์, นายเด่น หรือ ใจ๋ พรมมาลี, นายศักดา หรือ ต๊อด หรือ แบงค์ เลิศรัศมิทัศน, นางสาวไรดา จาโก, นายมูฮำหมัดนูรี หะยีบากา, นายชาญไชย โจเวลลานอส, นายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา,นายสุธรรม คุณดอย

 

 

เลขาฯ ป.ป.ส. เตรียมร่วมมือพม่า จับ พันโทเซ ผู้ผลิตยาบ้าส่งเข้าไทย ไม่ว่าเป็นหรือตาย พร้อมจ่าย 5 ล้าน ตามหมายจับให้พม่า

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงข่าวการจับกุมยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด ของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ว่า ยาบ้าในปัจจุบัน พบว่าเป็นของโรงงานผลิตของ พ.ท.ยี่เซ ซึ่งมีเงินที่สามารถซื้อหัวเชื้อผลิตยาบ้าได้เอง ทั้งสั่งนำเข้าจากจีน อินเดีย ทำให้มียาบ้าจำนวนมากส่งเข้ามาในประเทศไทย และจากข้อมูล พ.ท.ยี่เซ หัวหน้ากองกำลังมูเซอ ถือเป็นผู้ที่มีส่วนในการผลิต และขนยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทยรายใหญ่ ปัจจุบันยังคงอาศัยอยู่ในเขต จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงกันข้าม อ.แม่สาย

 

ดังนั้น ทางการไทย จึงได้ตั้งค่าหัวนำจับบุคคลนี้เอาไว้แล้วจำนวน 5 ล้านบาท และในปีนี้ คาดว่าทางการไทยและพม่าจะร่วมมือกันเข้าไปทำการจับกุมให้ได้ โดยไม่ว่าจะทำการจับกุมเป็นหรือตาย ทางการไทย ก็พร้อมมอบเงินจำนวนนี้ให้กับพม่าอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจุดที่ พ.ท.ยี่เซ อยู่จะเป็นจุดที่มีกำลังมากก็ตาม ซึ่งทางพม่าเองก็พร้อมที่จะเข้าจับกุมเพราะขณะนี้ทางพม่าเองก็เปลี่ยนหัวตำรวจ และหัว ป.ป.ส. ใหม่แล้ว จึงสามารถประสานงานกันได้อย่างดี

 

ทีมข่าวไทยพีบีเอสยังติดตามเรื่องราวของพันโทยี่เซ ผู้ต้องหาตามหมายจับ และมีรางวัลนำจับสูงสุดของป.ป.ส.ถึง 2 ล้านบาท เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) การติดตามข้อมูลนอกจากประเด็นการค้ายาเสพติด ยังพบข้อพิรุธ ขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ที่พันโทยี่เซใช้ชื่อนายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล และจากการลงพื้นที่ติดตามข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์ พบว่าผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร์เดียวกัน มีชื่อพ่อแม่เดียวกัน ยืนยันว่าไม่มีพี่น้องที่ชื่อนายชัยวัฒน์ ซึ่งนี่อาจเป็นการเชื่อมโยงนำไปสู่ประเด็นการเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์โดยมิชอบจากข้อมูลพบว่านายชัยวัฒน์มีการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านครั้งแรกเมื่อปี 2526 โดยมีชื่อเดิมคือนายจะลือ ที่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 19 ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย หรือบ้านมูเซอป่ากล้วย อำเภอแม่ฟ้าหลวงในปัจจุบัน

 

จากนั้นปี 2533 ย้ายไปบ้านเลขที่ 139 หมู่ 16 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน หรือ อ.แม่ฟ้าหลวงในปัจจุบัน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่นายชัยวัฒน์ทำบัตรประชาชนครั้งแรก ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตุจากเจ้าหน้าที่ทะเบียนว่า เหตุใดนายชัยวัฒน์จึงไม่ทำบัตรประชาชนในช่วงปี 2526 แต่กลับเว้นระยะเวลา นาน 7 ปี แต่ทั้งนี้ต้องตรวจสอบระเบียบช่วงเวลาของการได้สัญชาติไทย ตามพ.ร.บ.สัญชาติ เมื่อพบข้อพิรุธ แต่ยังไม่สามาถตรวจสอบได้ชัดเจน ถึงการมีชื่อในทะเบียนราษฎร์ของนายชัยวัฒน์ พนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง ดีเอสไอ และไทยพีบีเอส นำเอกสารมาที่บ้านหลังนี้ นายประเสิรฐ พรสกุลไพศาล เป็นบุคคลที่เราต้องการพบ เพราะนายประเสิรฐเป็นบุคคลที่จะสามารถยืนยันว่า นายชัยวัฒน์มีตัวตนจริงในทะเบียนราษฎร์หรือไม่

 

จากข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ปี 2526 นายประเสิรฐมีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร์เดียวกับนายชัยวัฒน์ และมีชื่อบิดา มารดาเดียวกัน เอกสารที่ปรากฎน่าเชื่อได้ว่าทั้งสองคน อาจเป็นพี่น้องกัน แต่เมื่อนำรูปของนายชัยวัฒน์ หรือพันโทยี่เซ ในปัจจุบันให้นายประเสิรฐดู กลับได้รับคำตอบว่า ไม่รู้จัก และเพื่อตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยการสอบถามข้อมูลของครอบครัว โดยเฉพาะจำนวนพี่น้อง กลับได้รับคำตอบว่า พี่น้องของนายประเสิรฐเสียชีวิตแล้วทั้งหมดตั้งแต่เด็กทั้ง 3 คน และไม่มีคนชื่อจะลือ หรือนายชัยวัฒน์ ผู้หญิงคนหนึ่งถูกเรียกตัวมาทันที เพื่อสนับสนุนข้อมูลของนายชัยวัฒน์ หรือพันโทยี่เซให้ชัดเจน หลังผู้มีชื่อในทะเบียนบ้านเดียวกันปฏิเสธ เธอเป็นภรรยาคนแรกของนายชัยวัฒน์ ขณะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านห้วยอื้น ต.เทอดไท จ.เชียงราย

 

เธอยืนยันว่ารูปพันโทยี่เซ ก็คือนายชัยวัฒน์ ซึ่งแม้จะไม่ได้ติดต่อมานานกว่า 10 ปี แต่เมื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวของนายชัยวัฒน์ เธอบอกว่ารู้จักกับบริเวณบ้านมูเซอป่ากล้วย ระหว่างที่ใช้ชีวิตคู่ ไม่รู้รายละเอียดครอบครัว ทราบเพียงว่านายชัยวัฒน์มีน้อง 1 คน ชื่อนายเยาะละ หรือนายพงษ์พันธ์ แม้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า นายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล หรือพันโทยี่เซ ที่มาของการเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ จนนำไปสู่การทำบัตรประชาชนคนไทย นั้นถูกต้องหรือไม่ แต่จากข้อเท็จจริงในการสอบพยานเบื้องต้น ทำให้เชื่อได้ว่านายชัยวัฒน์ อาจใช้ช่องโหว่ของการขอสัญชาติไทยในอดีต เข้ามามีชื่อเป็นคนไทย ในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) ไทยพีบีเอสยังนำเสนอการพบข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎร์ของนายชัยวัฒน์ หรือพันโทยี่เซ

 

 

 

 

 

 

วิธีการเลี้ยงสุนัขอย่างถูกต้อง

 
 
 

 

 

 เทคนิคและวิธีการเลี้ยงสุนัขอย่างถูกต้อง

 

 

 

โดย http://www.petheng.com/index.php/dealer/dog-article/item/57-dog

 

การดูแลสุนัข

ที่อยู่ที่นอน

 

สุนัขควรมีที่อยู่ที่นอนเป็นที่เป็นทางแลเป็นสัดเป็นส่วน อาจจะใช้ผ้าเก่า ๆ หรือเศษผ้านุ่ม ๆ หลายๆชั้นทำเป็นที่นอนขนาดเล็กใหญ่แล้วแต่ความเหมาะสม ส่วนการจะเลี้ยงดูสุนัขไว้ในบ้านหรือไม่นั้นคงแล้วแต่ความพร้อมของสมาชิกในครอบครัว ส่วนใหญ่แล้วหากมันยังเล็กอยู่ก็นิยมเลี้ยงไว้ในบ้านเพื่อคอยดูแลและทำให้มันสนิทสนมกับคนในบ้านได้ง่าย แต่ต้องคอยดูแลเรื่องการขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทางหากมีบริเวณบ้านมากพอ ควรเลี้ยงไว้นออกบ้าน โดยสร้างกรงที่ขมีขมันความแข็งแรง กว้างขวางตามขนาดของสุนัขควรมีมุ้งกางให้สุนัขด้วย มีหลังคากันแดดกันฝนได้ และมีฝากันลมในทิศทางที่ถูกต้อง บริเวณที่ตั้งกรงควรเลือกเอาที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น เวลากลางวันต้องมีแสงแดดส่องผ่านเข้าได้บ้างเพื่อฆ่าเชื้อโรคและให้กรงแห้งพื้นกรงควรจะสะดวกในการทำความสะอาด ไม่เป็นที่หมักหมดของสิ่งปฏิกูลต่าง ๆมีที่ระบายของเสียได้สะดวก

 

การตัดหาง

 

สุนัขบางพันธุ์นิยมตัดหาง ให้เหลือความยาวตามลักษณะในพันธุ์นั้นนิยม ซึ่งก็ควรตัดในขณะที่ยังมีอายยังน้อย ๆ อยู่เพื่อที่จะไม่มีเลือดออกมามาก สุนัขไม่เจ็บปวด แผลหายเร็วและทำได้ง่ายโดยไม่ต้องวางยาสลบ ฉะนั้นสุนัขพันธุ์ที่ต้องตัดหางหลังคลอดควรนำลูกสุนัขไปทำการตัดหางภายในหนึ่งสัปดาห์หากจะตัดหางเองต้องทำในระยะไม่เกิน 7 วันลังคลอด โดยการบูรป่าลิบขนบริเวณหางที่ต้องการตัดออกให้ถึงผิวหนังแล้วทำความสะอาดด้วยการใช้แอลกอฮอล์ หรือทิงเจอร์ไอโอดีน ทาให้ทั่ว ต่อจากนั้นก็รูดผิวหนังขึ้นมาทางโคนหางแล้วใช้เชือกหรือยางรัดไว้ให้แน่นตรงข้อที่ 2 ของกระดูกโคนหาง ใช้กรรไกรที่ฆ่าเชื้อแล้วตัดตรงระหว่างข้อของกระดูกที่จะตัด แล้วแต้มด้วยทิงเจอร์ไอโอดีน ทิ้งไว้ 4-5 ชั่วโมง จึงค่อยเอาเชือกหรือยางรัดออกปล่อยให้แผลหาย โดยมากผิวหนังของหางที่รูดขึ้นไปก็จะรูดลงมาเอง หรืออาจจะเย็บปิดก็ได้ถ้าต้องการ

 

การตัดหู

 

สุนัขบางพันธุ์นิยมตัดหู เช่น บ็อกเซอร์, โดเบอร์แมน, มินิเจอร์ พินเซอร์ และเกรท เดน ซึ่งก็ควรทำการตัดหูเมื่อลูกสุนัขอายุระหว่าง 12-14 สัปดาห์ เพราะขนาดโตพอที่จะทำการผาตัดได้ง่าย ทนต่อการวางยาสลบหลังจากตัดแล้วหมอจะต้องดามหูไว้จนกว่าหูจะตั้งตรงตามต้องการ ซึ่งกินเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ระหว่างนี้เจ้าของจะต้องคอยดูและอยู่ให้สุนัขเกาแผลจนไหมที่เย็บหลุด หรือแผลสกปรก เพราะจะทำให้รูปทรงของหูไม่เป็นไปตามต้องการ

 

การอาบน้ำ

 

สุนัขก็เหมือนคนที่จะต้องดูแลรักษาความสะอาดและตกแต่งให้ดูสวย น่ารักอยู่เสมอ เนื่องมาจากมันไม่สามารถจะทำความสะอาดและเสริมสวยให้ กับตนเองได้ ผู้เลี้ยงจึงจะต้องทำหน้าที่ สนใจในตัวของมันเสมือนหนึ่งเป็นตัวของมันเองเลยทีเดียวการอาบน้ำต้องใช้แชมพู และสบู่ควบคู่ไปด้วย ควรเลือกซื้อแชมพูหรือไม่ก็สบู่ที่ผลิตขึ้น

สำหรับใช้กับสุนัขเท่านั้น อย่านำแชมพูหรือสบู่ของคนมาใช้กับสุนัขโดยเด็ดขาด เพราะผิวหนังของสุนัขบางชนิดบอบบางมาก หากอาบน้ำด้วยแชมพูหรือสบู่ของคน จะทำให้มีปัญหาเรื่องขนแห้ง หยาบ และมีสะเก็ดรังแคขึ้นบนผิวหนัง บางตัวเป็นหนักถึงอาจจะขนร่วงไปเลยก็มี

ปัจจุบันแชมพูสุนัขมีให้เลือกหลายสูตร มีทั้งแบบผสมครีมในตัว ประเภททูอินวัน หรือทรีอินวัน ชนิดที่มีสารฆ่าเห็บ ฆ่าหมัด เยอะแยะมากมายไปหมด ก่อนซื้อควรอ่านดูฉลากข้างขวดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง บรรจุเท่าใด หมดอายุวันไหน แล้วจึงเลือกซื้อมาใช้ให้ถูกกับลูกสุนัขของเรา

 

วิธีอาบน้ำให้สุนัข

อุปกรณ์ต้องเตรียม คือ แชมพูสำหรับสุนัข ผ้าเช็ดตัว อ่างน้ำ หรือสายยาง ที่ต่อจากก๊อกน้ำ เครื่องเป่าผม

 

ขั้นตอนการอาบน้ำให้สุนัขทำได้ดังนี้ คือ

 

จับสุนัขให้อยู่ในอ่างนิ่งๆ โดยการจับที่ปลอกคอ เป็นไปได้ควรอุดหูทั้งสองข้าง ของสุนัขด้วยสำลีเพื่อป้องกันมิให้น้ำเข้าหู แล้วจึงค่อยเทน้ำลงบนตัวสุนัขให้ทั่วทั้งตัว

 

ใช้แชมพูสุนัขเทลงบนตัวสุนัข แล้วจึงใช้มือถูนวดแชมพูให้ทั่วในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งยังจับปลอกคอสุนัขอยู่เพื่อจะให้มันอยู่นิ่งๆ

 

ล้างแชมพูที่ส่วนหัวของลูกสุนัขก่อน จากนั้นจึงล้างแชมพูที่ลำตัวให้สะอาด แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้งทั้งตัว

 

เอาสำลีที่อุดหูออก แล้วเป่าขนให้แห้ง พร้อมกับแปรงขนให้ได้รูป

ทรงตามที่ต้องการ

 

การแปรงและหวีขน

 

สุนัขทุกพันธุ์ต้องการแปรงขนเหมือนกัน ไม่จำเป็นว่าสุนัขตัวนั้นจะ ต้องมีขนยาวเพียงเท่านั้น การแปรงหวีขน ของสุนัขบ่อยๆ นอกจากจะ ทำ ให้ขนสวย ขนไม่พันกันแล้ว ยังจะเป็นการทำความสะอาดตัวของสุนัขได้

เพราะเวลาเราแปรงขน สิ่งสกปรกจะถูกกำจัดออกมารวมทั้งบรรดาขนเก่า ที่หลุดออกมา นอกจากนั้นผิวหนังที่ได้รับการ กระตุ้นจากการ หวีหรือแปรงก็จะขับน้ำมันมาเคลือบขนสุนัขทำให้ขนนุ่ม และเป็นเงางาม โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินไปซื้ออาหารเสริมมาให้มันกินให้สิ้นเปลืองเปล่า ๆ

ควรฝึกหวี และแปรงขนสุนัขแต่เล็ก ๆ เพื่อจะได้เคยชินและยอมให้เรา เสริมสวยแต่โดยดี

 

เทคนิคการหวีและแปรงขนสุนัข

การแปรงขนสุนัขทุกวันจะทำให้สุนัขมีสุขภาพดี ขนเป็นเงางาม ไม่มีสิ่งสกปรกหมักหมอยู่ ในขนสุนัข พันธุ์ขนยาว เช่น อาฟกัน ฮาวด์ ชิสุ ควรหวี ทุกวัน ส่วนสุนัขพันธุ์ขนสั้น เช่น บลูด็อก เกรดเดน แปรงขนเพียง

2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ก็พอ ส่วนสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลต้องใช้การตัดแต่งขน จะหวีให้ตรงแบบสุนัขพันธุ์อื่นไม่ได้

 

การหวีขนสุนัขพันธุ์ขนสั้น

อุปกรณ์ที่ใช้มีแปรงบิสเทิล แปรงหวีสลิดเกอร์ หวีตรง ขั้นตอนการหวี มีดังนี้

- ใช้หวีแปรงสลิดเกอร์หวีก่อน เพื่อจำกัดเอาขนที่พันออกไม่ให้เกิดก้อน สังกะตัง ออกแรงหวีเพียงเบาๆนุ่มๆ หวียาวๆ จากคอถึงลำตัวทำเช่นนี้ทั่วตัว

- ใช้หวีบิสเทิลแปรง เพื่อเอาขนที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากขนของสุนัขทั้งตัว

- ใช้หวีตรง หวีบริเวณที่ยาว เช่น ส่วนของหาง เท้า ขา ถ้าพบว่าขนพันกันให้ใช้กรรไกรตัดออกสุนัขจะได้ไม่เจ็บ

 

การหวีขนสุนัขที่สั้นเกรียน

อุปกรณ์ที่ใช้มี แปรงรับเบอร์ หนังชามัวร์ แปรงบิสเทิล

- ใช้แปรงรับเบอร์ เพื่อแปรงย้อนขนสุนัขจะทำให้ขนตาย และสะเก็ด ผิวหนัง สิ่งสกปรกหลุดออกโดยง่าย

- ใช้แปรงบิสเทิล แปรงขนตัวสุนัขอีกครั้งให้ทั่วทั้งตัว เพื่อเอาขนที่ตายและสะเก็ดออก

- เช็คขนสุนัขด้วยหนังชามัวร์ เพื่อให้ขนเป็นมันเงางาม

 

การหวีขนสุนัขที่ขนตรงยาว

อุปกรณ์ที่ใช้มีแปรงสลิดเกอร์ แปรงบิสเทิล หวีตรง กรรไกร

- ใช้แปรงสลิดเกอร์หวีขนก่อน เพื่อทำให้ขนที่พันกันอยู่คลายตัวออก

- ใช้แปรงบิสเทิลหวีตามอีกครั้ง เพื่อทำให้ขนมันเงา และหวีง่ายขี้นไปอีก

- ใช้หวีตรง หวีจัดให้ขนของสุนัขตกลงไปข้างลำตัว ด้านซ้ายและด้านขวาตามแนวขน

- ใช้กรรไกรตัดแต่งบริเวณเท้าและหู เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยดูสวยงาม

 

การดูแลหู

 

หูมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง สุนัขที่มีหูปกติจะต้องมีสีชมพูเรื่อๆ สะอาด ไม่มีกลิ่นผิดปกติ หูควรสะอาดไม่มีขี้หูมากจนเกินไป ไม่มีเห็บ หรือหมัด ไม่เป็นแผล หนอง สุนัขบางพันธุ์รวมทั้งพวกพุดเดิ้ล มักมีขนขึ้นที่บริเวณช่องหู ขนเหล่านี้จะเป็นตัวเพาะเชื้อโรค และหมักหมส่งสกปรกทั้งหลายได้เป็นอย่างดี พวกหูยานก็เก็บสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ง่ายจึงต้องหมั่นเอาใจใส่เช็ดถูสิ่งสกปรกในช่องหูออกให้หมด พวกหูตั้งนี้รักษาง่าย เพราะช่องหูสามารถถ่ายเทกับอากาศภายนอกได้โดยธรรมชาติ ฉะนั้นสิ่งสกปรกต่าง ๆ จึงไม่สามารถหมักหมจนเกิดโรคได้มากนัก ถ้าหูสุนัขสกปรกมากก็ควรใช้สำลีหรือผ้านุ่มๆ เช็ดบริเวณใบหูและรูหูส่วนนอก ๆ เป็นประจำทางที่ดีหลังการอาบน้ำ เพราะสามารถตรวจสอบว่ามีน้ำหลงเหลือเข้าไปในรูหูหรือไม่ ถ้ามีจะได้เช็ดออกให้แห้ง เป็นการป้องกันหูอักเสบได้ด้วย แต่อย่าได้พยายามทำความสะอาดลึกเข้าไปในรูหูเป็นอันขาด บริเวณอ่อนไหวดังกล่าวควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแพทย์

 

การดูแลตา

 

ตาของสุนัขที่มีสุขภาพดีจะมีแววตาแจ่มใส ไม่ขุ่นมัวหรือมีสีแดง หรือมีขี้ตา รวมทั้งน้ำตาไหลเป็นคราบอยู่เสมอก็แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติเข้าตา ถ้าเป็นโรคตาอักเสบธรรมดาเพราะผงเข้าตา ก็ควรใช้น้ำยาล้างตา 4-5 หยด ใส่เพื่อให้สิ่งสกปรกออกก่อน แล้วใช้ผ้าที่สะอาดเช็ดเบา ๆ รอบ ๆ ขอบตาออกได้ ถ้าเป็นมากกว่านี้ควรจะนำไปพบสัตวแพทย์สุนัขบางพันธุ์ เช่น พวกพุดเดิ้ล มักมีรอยด่างสีน้ำตาลที่ขนใต้ตาเสมอ ที่เป็นเช่นนี้เพราะขนบริเวณนั้นเปียกแฉะเนื่องจากหยาดน้ำตาของสุนัข คราบน้ำตานี้จะติดแน่นที่หัวตาย้อยลงมา การกำจัดรอยด่างนี้ทำได้โดยการหมั่นเช็ดถูให้บ่อยๆครั้งทุกวัน เพื่อให้ขนที่ติดคราบน้ำตานี้ค่อย ๆหลุดร่วงหมดไปสุนัขบางตัวตาแฉะ อาจจะเป็นเพราะขนตาขึ้นผิดปกติ แยงเข้าไปในลูกตา การรักษาอาการนี้ควรเป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์

 

การดูแลฟัน

 

โดยปกติแล้วสุนัขฟันผุได้ยากมาก แต่ที่เห็นบ่อยคือ เหงือกอักเสบ เกิดจากฟันสุนัขไม่สะอาด ขี้ฟันหมักหมมจนจับเป็นคราบสีเหลืองเกาะติดที่ผิวฟัน คือ หินปูนนั่นเอง บางทีหินปูนมีมากและลุกลามไปจนถึงเงือก ทำให้เหงือกอักเสบ มีกลิ่นปาก จนกระทั่งฟันหลุดไปในที่สุดวิธีป้องกันการจับตัวของหินปูน ควรให้สุนัขกินอาหารสำเร็จรูปที่เป็นเม็ดแห้ง หรือให้แทะกระดูกเสียบ้างเพื่อขัดฟัน แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ ควรให้สัตวแพทย์ตรวจฟันทุกปี สุนัขบางพันธุ์ก็มีการจัดเรียงตัวของฟันที่แย่มาก มีเหงือกเป็นหนองและฟันหลุดเสมอการให้แทะกระดูกไม่อาจช่วยได้เลย พวกนี้ต้องตรวจฟัน และทำความสะอาดเสมอโดยสัตวแพทย์

 

การดูแลเล็บ

 

เล็บสุนัขจะงอกจิกลงดิน มันจะสึกไปเองโดยธรรมชาติ แต่ถ้าเป็นสุนัขที่เลี้ยงบนพื้นไม้หรือพื้นซีเมนต์ มักจะพบปัญหาเล็บไม่สึก มีเล็บยาวเร็วกว่าปกติทำให้เดินไม่สะดวก และเมื่อทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้นิ้วคด หรือแยกห่างออกจากกัน บางทีก็ถอนหรือฉีกแตกจนเกิดหนองได้ จะทำให้สุนัขเจ็บปวดมากเวลาเดิน ฉะนั้นจึงต้องหมั่นตรวจดูแลตัดเล็บเท้าให้สั้นอยู่เสมอการตัดเล็บสุนัขควรใช้กรรไกรสำหรับการตัดโดยเฉพาะ จะทำได้โดยง่ายและปลอดภัย ได้รอยตัดที่กลมโค้ง การตัดควรตัดที่ปลายเพียงเล็กน้อย ระวังอย่าตัดให้ถูกปลายประสาทสีชมพูในเล๋บได้สุนัขที่มีเล็บดำไม่สามารถมองเห็นปลายประสาทนี้ได้ ฉะนั้นตัดเล็บจึงทำได้แค่คลิบปลายเพียงเล็กน้อย หรือตัดตรงตำแหน่งต่ำจากบริเวณที่มีเลือดมาเลี้ยงสัก 3มิลลิเมตร การตัดเล็บควรทำทุกเดือน โดยหลังการอาบน้ำ เพราะเล็บที่เปียกน้ำจะอ่อนตัดง่ายกว่าธรรมดา

-------------------------------------------

 

 

วิธีดูแลสุขภาพสุนัขในช่วงอายุต่างๆ

 

1.การดูแลสุนัขแรกคลอด

 

ลูกสุนัขเกิดใหม่จะมีอุณหภูมิร่างการค่อนข้างต่ำ จึงควรกกไฟเพื่อเพิ่มความร้อนให้แก่ร่างกาย

ให้ลูกสุนัขได้รับน้ำนมเหลืองจากแม่ภายใน 24 ชั่วโมง

สังเกตอยู่เสมอว่าแม่สุนัขมีน้ำนมให้ลูก

สุนัขจะเริ่มลืมตาหรือได้ยินเสียงต่างๆ เมื่ออายุประมาณ 2 สัปดาห์

หากลูกสุนัขไม่ดูดนมแม่หรือแม่มีน้ำนมไม่พอควรให้นมผงสำหรับสุนัขโดยใช้ syringe ค่อยๆหยอดเข้าปาก ไม่ควรให้นมโคลูกสุนัข เพราะจะทำให้ท้องเสีย

ปริมาณแคลลอรี่ที่ลูกสุนัขต้องการคือ 22-26 Rcal/100 gm. ของน้ำหนักตัว

ในช่วงอายุ 2-3 สัปดาห์ น้ำหนักควรเพิ่ม 10-15 % ต่อวัน

 

2. การดูแลสุนัขช่วงวัยเด็ก วัยเจริญพันธุ์

 

การดูแลผิวหนังและขน

สุนัขที่มีสุขภาพดี ขนจะเป็นเงางาม ไม่แห้งและมันจนเกินไป

ผิวหนังไม่หยาบแห้ง ไม่มีรังแคและปรสิตภายนอก

สุนัขที่มีความผิดปรกติที่ผิวหนังจะมีอาการคัน ขนร่วงบางตำแหน่ง หรือร่วงเป็นบริเวณกว้าง ผิวหนังเป็นตุ่มหนองหรือเป็นผื่นแดง

สุนัขที่มีหูปรกควรเช็ดหูอย่างสม่ำเสมอ

สุนัขที่มีขนสั้นหรือเรียบติดผิวหนัง ควรแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

สุนัขที่มีขนยาว ควรแปรงขน 1-2 วัน/ครั้ง และควรเล็มขนที่เท้า นิ้วเท้า และหูออกอย่างสม่ำเสมอ

ขนที่ยาวเหนือตาควรเล็มออก หรือรวบด้วยริ้บบิ้นหรือโบว์

 

การอาบน้ำ

ระหว่างการอาบน้ำควรใส่ปลอกคอให้สุนัขเพื่อใช้จับและป้องกันการกระโดดของสุนัข

หลังจากแปรงขนแล้วให้ใช้ก้อนสำลีอุดหูสุนัขแล้วใช้น้ำสะอาดราดตัวสุนัข

ใช้แชมพูสำหรับสุนัขฟอกให้ทั่ว ยกเว้นบริเวณหัว

ถูนวดย้อนขนจนแชมพูเกิดฟอง

บริเวณหัวใช้แชมพูที่ไม่ระคายเคืองตาเทลงมือแล้วนวดขนสุนัข

ระวังอย่าให้ฟองแชมพูกระเด็นเข้าตาและปากสุนัข

ล้างแชมพูบริเวณหัวออกและเช็ดให้แห้งก่อน แล้วจึงล้างแชมพูบริเวณลำตัวออก วิธีนี้จะป้องกันสุนัขสะบัดน้ำกระจายไปทั่ว

บีบไล่น้ำที่ติดค้างตามขนออกให้มากที่สุด แล้วใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดตัวให้แห้ง

ใช้เครื่องเป่าผมเป่าขนให้แห้ง และแปรงขนไปในทิศทางออกจากตัว

ไม่ใช้เครื่องเป่าผมกับสุนัขที่มีปัญหาโรคผิวหนัง

 

การตัดเล็บ

จับนิ้วสุนัขให้แยกออกจากกัน และตรวจผิวหนังระหว่างนิ้ว

เช็ดสิ่งสกปรกระหว่างนิ้วออกด้วยสำลีชุบน้ำ

ตัดเล็บในบริเวณที่มีสีเล็บเป็นสีขาว

บริเวณสีชมพูเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทและเส้นเลือดฝอยมาเลี้ยงมาก

ตะไบปลายเล็บให้เรียบ หากสุนัขมีนิ้วติ่งให้ตัดเล็บที่นิ้วติ่งออกด้วย

 

การทำโปรแกรมวัคซีน

วัคซีนรวม 5 โรค เข็มแรก ตอนอายุ 2 เดือน เข็มที่สอง ตอนอายุ 2 เดือนครึ่ง

วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เข็มแรก ตอนอายุ 3 เดือน เข็มที่สอง ตอนอายุ 6 เดือน

วัคซีนทุกชนิดกระตุ้นซ้ำปีละครั้ง

ฉีดยาป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ เริ่มตอนอายุ 3 เดือน และฉีดป้องกันทุกๆ 2 เดือน (ยาป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ ไม่ใช่วัคซีน)

 

การดูแลสุนัขตั้งท้องและก่อนคลอด

สุนัขเป็นสัด ( heat) ปีละประมาณ 2 ครั้ง

วงรอบการเป็นสัดแบ่งเป็น 4 ระยะ

- Proestrus (9 วัน) อวัยวะเพศบวมขยายใหญ่ มีเลือดหยดออกมา

- Estrus (9 วัน) ยอมให้ตัวผู้ผสม ไม่มีเลือดหยดออกมาแล้ว

- Diestrus (60 วัน) เป็นช่วงที่สุนัขตัวผู้ไม่สนใจอีกแล้ว หากผสมติดจะเกิดการตั้งท้องนานประมาณ 63 วัน (บวก ลบ 1 วัน)

- Anestrus (ประมาณ 4.5 เดือน) อวัยวะเพศเป็นปรกติ

ในช่วงกลางของการตั้งท้องควรเพิ่มปริมาณอาหารขี้น 10 %

ก่อนครบกำหนดคลอด 2-3 วัน แม่สุนัขจะนอนพักเพื่อสงวนพลังงาน จึงไม่ควรให้ออกกำลังกาย

ควรให้แม่สุนัขคุ้นเคยกับสถานที่ที่จัดไว้ให้คลอด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนคลอด

สถานที่คลอดควรเงียบสงบ อาจใช้กล่องไม้เรียบหรือกล่องกระดาษขนาดใหญ่ก็ได้

แม่สุนัขจะเบื่ออาหาร 1-2 วันก่อนคลอด และจะกระวนกระวายชัดเจน

 

การสังเกตภาวะคลอดยาก

ตั้งท้องนานผิดปรกติ พิจารณาจากตั้งท้องนานเกิน 65 วัน

ตรวจพบจำนวนลูกในครรภ์น้อยเกินไป เช่น มีเพียง 1-2 ตัว

แม่สุนัขได้รับสารอาหารไม่เพียงพอในช่วงการตั้งท้อง โดยเฉพาะแม่สุนัขที่มีลูกดก

แม่สุนัขมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง นอนร้องครวญคราง ช่องท้องการขยายใหญ่ขึ้น แสดงถึงการเกิดมดลูกบิด หรือฉีกขาด

แม่สุนัขแสดงอาการเบ่งอย่างรุนแรงติดต่อกันเกิน 30 นาที แต่ไม่พบลูกสุนัขออกมา

แม่สุนัขเบ่งคลอดเป็นระยะๆ นานถึง 4 ชั่วโมงแล้วแต่ไม่พบลูกสุนัขออกมา

ลูกสุนัขแต่ละตัวคลอดห่างกันเกิน 2 ชั่วโมง

เมื่อพบน้ำคร่ำ (สีเขียวดำ) ออกมาแล้ว ปรกติลูกตัวแรกจะออกภายใน 1-2 ชั่วโมง หากไม่มีลูกสุนัขออกมาภายใน 24 ชั่วโมง ให้รีบนำไปพบสัตวแพทย์ทันที

 

3. การดูแลสุนัขชรา

 

ลักษณะของสุนัขชรา

มีขนหงอกสีขาวแซมมากขึ้น ฟันหลุด ประสาทสัมผัสและการตอบสนองช้าลง

ขนหลุดร่วง และแห้งลง

กล้ามเนื้อลีบลงและไม่แข็งแรง

น้ำในข้อต่อลดลง ทำให้ข้ออักเสบและเคลื่อนไหวลำบาก

ดวงตาขุ่นมัว

ควรจำกัดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เครื่องในสัตว์

ควรจำกัดอาหารที่มีปริมาณเกลือแร่มาก เช่น กระดูกไก่ , การเพิ่มซอสปรุงรสในอาหาร เป็นต้น

ให้อาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม หมูสับ เป็นต้น

เลือกอาหารสำเร็จรูปสูตรสำหรับสุนัขชราโดยเฉพาะ

ควรเช็ดขี้ตาและขี้หูอยู่อย่างสม่ำเสมอ

หากไม่มีโอกาสพาสุนัขออกกำลังกายควรช่วยนวดกล้ามเนื้อ และขยับข้อต่อโดยการพับขางอขึ้นลง

---------------------------------------------------------------

 

 

9สัญญาณบอกเหตว่าน้องหมาป่วย

 

1.กินอาหารได้น้อยลง อาการไม่อยากอาหาร หรือกินอาหารไม่อร่อยนี้ เรียกได้ว่า เป็นสัญญาณพื้นฐานของโรคต่างๆ เลยก็ว่าได้ เมื่อลองสังเกตดูแล้ว พบว่าไม่ได้มาจากสภาพแวดล้อมภายนอกที่ทำให้เจ้าตูบไม่อยากกินอาหาร เช่น อากาศร้อนจัด หรือมีสิ่งล่อใจอื่นที่ทำให้น่าสนใจมากกว่าอาหารตรงหน้า สิ่งเหล่านี้ก็อาจทำให้สุนัขไม่กินอาหารได้ ซึ่งก็ถือว่า ไม่ได้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ กรณีนี้ก็เพียงปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมขึ้น แต่ถ้าการไม่กินอาหารของเขา ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่กล่าวมา ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เขาต้องป่วยเป็นอะไรสักอย่างแน่นอน เราควรพาไปพบสัตวแพทบย์เพื่อวินิจฉัยโรคให้แน่นอนอีกครั้ง

 

2.กระฉับกระเฉงน้อยลง สุนัขที่รู้สึกไม่สบายตัวจะลดความกระฉับกระเฉงลง บางครั้งก็เป็นการสับสนระหว่างอาการป่วย กับชราลงตามวัยด้วยเหมือนกัน กรณีนี้คนที่จะสังเกตและรับรู้ได้ดีที่สุด คงจะเป็นตัวเจ้าของนั่นเอง และหลายๆ ครั้งที่พบว่าอาการนี้เกิดจากการได้รับการเอาใจใส่จากเจ้าของน้อยลงขาดการทำกิจกรรมร่วมกันซึ่งก็เป็ผลพวงจากจิตใจของสัตว์เลี้ยงนั่นเอง

 

3. ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอน / เฉื่อยชา อาการนี้เป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่าสุนัขตัดขาดความสนอกสนใจจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวไปหมด ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ในการนอนนับเป็นสัญญาณที่มักจะเกิดขึ้นได้ทั้งก่อนและหลังของอาการป่วย

ซึ่งขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการป่วยนั้นๆ อีกต่างหาก ดังนั้น สังเกตให้ดี แล้วอย่าละเลย ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพจะดีกว่า

 

4.น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว สัญญาณบอกเหตุอันนี้มักจะต่อเนื่องมาจากข้อที่ 1 และจะเป็นอาการที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อสุนัขป่วย แต่บางครั้งสัญญาณบอกเหตุนี้อาจจะสังเกตได้ยาก ถ้าสุนัขมีขนพองฟู หรือน้ำหนักเบาอยู่แล้ว ซึ่งข้อนี้ถือเป็นปัญหาที่เจ้าของต้องสังเกตอย่างใกล้ชิด

 

5.ดื่มน้ำในปริมาณที่มากขึ้น การที่สุนัขดื่มน้ำมากขึ้นกว่าปกติ มักจะเป็นสัญญาณบอกเหตุของโรคบางชนิด เช่น โรคที่เกี่ยวกับไต และโรคเบาหวาน ดังนั้น เมื่อคุณสังเกตเห็นความผิดปกติในข้อนี้ อย่านิ่งดูดาย ควรรีบพาสุนัขของท่านไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อการรักษาที่ได้ผล ก่อนจะสายเกินแก้นะครับ

 

6.หายใจขัด ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องคำนึงถึง อาการนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับปอด และหัวใจ สัญญาณเตือนอันนี้ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องพบสัตวแพทย์แบบเร่งด่วนที่สุดทีเดียว

 

7.อาเจียน สัญญาณนี้อาจพบเห็นได้ไม่ยาก สำหรับการอาเจียนและขย้อนนี้ มักจะเกิดขึ้นได้แม้สุนัขไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ดังนั้นควรสังเกตว่าเมื่อไหร่ที่สุนัขอาเจียนบ้าง นาน ๆ ครั้ง หรืออาทิตย์ละครั้ง หรือน้อยกว่านั้น ก็จะถือว่าไม่เป็นปัญหาอะไร โดยเฉพาะสุนัขที่ยังมีสุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงอยู่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่สุนัขอาเจียนบ่อยๆ เช่น วันละครั้ง และมีน้ำหนักลดลงตามไปด้วย อันนี้จะถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องพาไปพบสัตวแพทย์อย่ารอข้าทีเดียวครับ

 

8.ท้องเสีย ปัญหาท้องเสียถือเป็นสัญญาณเตือนว่าสุนัขป่วยที่จะสังเกตได้ไม่ยาก และปัญหาส่วนใหญ่มักเกี่ยวกับอาหารการกินและลำไส้ ซึ่งถ้าเกี่ยวกับลำไส้ก็นับว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนอีกกรณีหนึ่งที่ต้องรีบพาไปพบสัตวแพ

ทย์ ซึ่งบางครั้งก็อาจเกิดขึ้นเมื่อสุนับเป็นโรคเกี่ยวกับภูมิแพ้หรือการย่อยอาหารได้เช่

นกัน ซึ่งก็ไม่ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนนัก แต่การรักษาแต่เนิ่นๆ ก็จำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดเป็นปัญหาเรื้อรังในอนาคต จนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

 

9.อาการไอ สัญญาณเตือนนี้ถือเป็นปัญหาสำคัญอีกข้อหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง เมือสุนัขไอต้องสังเกตดูลักษณะของการไอ ซึ่งสามารถเกิดเป็นอาการของโรคร้ายแรงได้หลายๆ โรค โดยเฉพาะโรคพยาธิหัวใจ สุนัขมักจะไอแห้งๆ และไอบ่อยๆ เหมือนพยายามคายอะไรออกมา อาการนี้ไม่ควรปล่อยไว้ ต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยเร็ว

 

สัญญาณอันตรายที่กล่าวมาทั้ง 9 ข้อนี้ เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของการเกิดโรคต่างๆ ของสุนัขเลยทีเดียว ดังนั้นเจ้าของสุนัขต้องไม่ละเลย ที่จะดูแลสุนัขของตัวเองอย่างใกล้ชิด และทำความเข้าใจข้อที่ใกล้เคียงกันของอาการต่างๆ เหล่านี้ได้ ว่าเป็นอาการหนึ่งของโรคร้ายแรง หรือว่าเป็นเพียงอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อย เพื่อที่ว่าขั้นตอนต่อไปในการรักษาจะได้ทันท่วงที ไม่ล่าช้าจนเกินไป แล้วเจ้าตูบก็จะมีชีวิตที่ยืนยาวอยู่กับเราได้นานๆ และก็อยู่อย่างมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์อีกด้วย ดังนั้น อย่ากลัวหรือเบื่อหน่ายกับการพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เลยครับ

 

 

 

 

 

                      

 

 

 

 

 

 

 

 

 


ศาลแพ่ง..นำหมายศาลกรณีนายสาธิต เซกัล
ฟ้องยิ่งลีกษณ์และพวกรวม3คนกรณีเนรเทศ
ติดแจ้งที่ประตู8 ทำเนียบรัฐบาล
ให้กบฏฟ้องผู้นำประเทศ(นายกตกเป็นจำเลย).!!

 

[​IMG]

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 [​IMG]

  1.  

 

[​IMG]

 

[​IMG]

  •  

[​IMG]

 

  •  

 

 

 [​IMG]


 

 

ข่าวด่วน.....


ตร.ภาค 2 ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม ไม่ปล่อยให้ทหารทำอะไรได้ตามใจชอบ ยกกำลังเข้าจับกุมทหารค่ายนวมินทร์ ทหารเสือราชินี ค้ายาบ้าได้ยาบ้า 40,000 กับยาไอช์ 300 กรัม แต่กว่าจะจับได้ต้องปะทะกันเดือด ทหารตายไป 1 คน เป็น สห.คนส่งยา ก่อนสิ้นฤทธิ์วิทยุเรียกเพื่อนทหารมาช่วยอีก 50 คน ผบช.ภาค 2 กำลังเคลียร์ปัญหา โดย ผบ.ทบ. พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา สั่งปิดข่าว ห้ามนักข่าวเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด.....

 

 

 [​IMG]

 

 

 

 

 

 

 

 

ช่างหาญกล้า นะ


[​IMG]

 [​IMG]

 

 

 

 

 

 

 

 

[​IMG]

 

 

 

 

[​IMG]
 

 

 

 

 

 

 

 [​IMG]

 

 

 

 [​IMG]

 

 

 

 [​IMG]

 

 

 

 

 

[​IMG]
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                 ตำนานแม่น้ำเจ้าพระยา

 

 

   

                                    

 

 

 

 


ท่านทราบหรือไม่ว่า แม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากเป็นการรวมตัวของ ปิง วัง ยม น่าน อย่างที่เรา ๆ รู้จักอยู่แล้วนั้น ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่น่าสนใจอีกหลายอย่างทั้งวิถีชีวิต อารยธรรม รวมถึงตำนานต่างๆ มีอยู่หลายตำนานด้วยกัน แต่ที่น่าสนใจและใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์ของไทยนั้นมีอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยเริ่มต้นเมื่อประมาณ ปีพุทธศักราช 1893 พระเจ้าอู่ทอง ทรงสร้างกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และได้ขึ้นครองราชย์สมบัติทรงพระนามว่า "สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1" ในขณะที่พระองค์ทรงได้ขึ้นครองราชย์นั้นได้ให้ พระราเมศวร ราชบุตรไปปกครองเมืองลพบุรี และได้ให้ ขุนหลวงพระงั่ว พระเชษฐาไปปกครองเมืองสุพรรณบุรี

พุทธศักราช 1912 พระเจ้าอู่ทอง สวรรคต พระราเมศวร ราชโอรสได้ขึ้นครองราชย์แทน แต่ในเวลาต่อมาก็จำต้องถวายราชสมบัติให้ ขุนหลวงพระงั่ว พุทธศักราช 1913 ขุนหลวงพระงั่วได้ขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1" นับเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ของกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงใฝ่พระทัยในการทำสงครามมาแต่สมัยพระเจ้าอู่ทอง

ในขณะนั้นกรุงสุโขทัยมี พระมหาธรรมราชาลิไท เป็นกษัตริย์ปกครอง พระองค์ทรงอ่อนแอมาก ประเทศราชต่างก็แข็งเมือง ทางกรุงสุโขทัยไม่สามารถไปตีคืนมาครอบครองเหมือนดังเดิมได้

พุทธศักราช 1915 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 พระองค์ทรงยกกองทัพเข้าตีแคว้นสุโขทัยตอนใต้ โดยยกกองทัพเข้าตีเมืองจำปา (ชัยนาท) ได้ก่อนแล้วยกทัพมาตั้งมั่นล้อมเมืองพระบางไว้ ซึ่งเมืองพระบางนั้นเป็นเมืองหน้าด่านตอนใต้ของสุโขทัย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำใหญ่มี เจ้าพระยาอนุมานวิจิตรเกษตร เป็นเจ้าเมืองในขณะนั้นมีเมืองในการปกครองอีก 4 เมือง คือ

1. เมืองไตรตรึงษ์ อยู่ทางเหนือเมืองพระบาง มี เจ้าพระยาอัษฎานุภาพ เป็นเจ้าเมือง (ปัจจุบันอยู่ในเขต อ.เมือง จ.กำแพงเพชร)
2. เมืองไพศาลี อยู่ทางทิศตะวันออก มี เจ้าพระยาราชมณฑป เป็นเจ้าเมือง (ปัจจุบันคือบ้านหนองไผ่ ต.หนองไผ่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์)
3. เมืองการุ้ง อยู่ทางทิศตะวันตก มี พระยาวิเศษสรไกร เป็นเจ้าเมือง (ปัจจุบันคือ บ้านการุ้ง ต.วังหิน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี)
4. เมืองจำปา อยู่ทางทิศใต้ (ปัจจุบันคือ จ.ชัยนาท)


เจ้าพระยาอนุมานวิจิตรเกษตร มีทหารเอกอยู่ 2 คน คนหนึ่งชื่อ สมบุญ อีกคนหนึ่งชื่อ ศรี แต่ทว่า ศรีไปขึ้นกับฝ่ายกรุงศรีอยุธยา เพื่อหวังจะได้เป็นใหญ่ในพระบาง ทางด้านเมืองหน้าด่านของเมืองพระบางทั้งสาม (เว้นนครจำปาซึ่งถูกกรุงศรีอยุธยายึดไปแล้ว) จึงได้ยกทัพมาช่วย อยุธยาล้อมเมืองพระบางอยู่ถึง 5 เดือนเต็ม และแล้ว ศรีผู้ทรยศ ก็สามารถนำกองทัพอยุธยาเข้าตีเมืองพระบางไว้ได้ เจ้าพระยาทั้งสี่พร้อมด้วย สมบุญ ทหารเอกถูกจับได้ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ให้ทหารนำตัวเจ้าพระยาทั้งสี่และสมบุญเข้าเฝ้าพระองค์ตรัสว่า

"เราได้ทราบว่าพวกท่านกล้าหาญและเข้มแข็งนัก เรายินดีที่ได้พบและรู้จักพวกท่าน เราต้องขอโทษที่ต้องเข้าตีเมืองพระบางเพราะเราเห็นว่าสุโขทัยนับวันจะเสื่อมโทรมลงเป็นช่องทางให้ข้าศึกศัตรูจู่โจมเข้ามาแย่งยื้อถือปกครอง เราจึงคิดรวบรวมไทยไว้ให้เป็นปึกแผ่นเราเห็นว่าพวกท่านทั้งห้าคนนี้เป็นคนซื่อสัตย์กตัญญูมั่นอยู่ต่อพระเจ้าอยู่หัวของท่านยิ่งนัก ยากที่จะหาคนอย่างพวกท่านได้อีก เราจะขอให้ท่านรับราชการกับเราสืบไป"

พระยาอัษฎานุภาพจึงกราบทูลว่า

"นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แต่เสียใจที่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งห้านี้ ได้ถือน้ำพิพัฒน์สัตยาในพระเจ้าอยู่หัวในราชวงศ์สุโขทัยเสียแล้ว มิอาจอยู่ตากหน้ารับความสุขและลาภยศของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ในเมื่อพระเจ้าอยู่หัวของข้าพระพุทธเจ้ากำลังตกอับซ้ำข้าทั้งห้าของท่านกลับมาช่วยพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ชิงราชบังลังก์"

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 จึงตรัสตอบไปว่า

"ท่านเข้าใจผิด เราตั้งใจไว้ว่าหากเราได้กรุงสุโขทัย เราจะไม่ทำให้กรุงสุโขทัยต้องเดือดร้อน คงให้ดำรงพระยศเป็นกษัตริย์ฝ่ายเหนือตามเดิมแต่รวมอยู่กับอยุธยา"

พระยาราชมณฑป จึงกราบทูลต่อไปอีกว่า

"จะมีประโยชน์อะไรที่จะต้องอยู่อย่างผู้แพ้ อยู่อย่างประเทศราช ข้าพระพุทธเจ้ารู้พระทัยของพระเจ้ากรุงสุโขทัยดีว่า พระองค์ไม่พึงปรารถนาที่จะให้พระองค์ทรงชุบเลี้ยง ข้าพระพุทธเจ้าขอยืนยันว่าแม้แผ่นดินยังไม่กลบหน้าตราบใดแล้ว ก็ต้องหาทางกอบกู้กรุงสุโขทัยกลับคืนมาจนได้ และเมื่อนั้นเลือดไทยก็ต้องหลั่งกันอีก"

พระยาวิเศษสรไกร กล่าวเสริมว่า

"ข้าพระพุทธเจ้าขอยืนยันว่า พวกข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่ปู่ย่าตายายมาถึงเจ็ดชั่วโคตร เคยแต่เป็นข้าของพระเจ้ากรุงสุโขทัย ที่จะกลับมาเป็นข้าของอยุธยานั้นอย่าหมาย ชาวเหนือถือเป็นคติประจำสันดานว่าอยู่อย่างผู้แพ้ เมื่อแพ้แล้วอยู่ไปประเสริฐอย่างไรขอให้ประหารข้าพระพุทธเจ้าเสียเถิด"

สมบุญ ทหารเอกพูดด้วยความโกรธแค้น ว่า

"อ้ายบุญก็เหมือนกัน อย่าต้องให้เป็นหมาสองรางอย่างอ้ายศรีเลย ขอให้พระองค์ชุบเลี้ยงอ้ายหมาหัวเน่าไว้เป็นข้าแต่ตัวเดียวเถิด"

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ได้ฟังสมบุญพูดดังนั้นจึงตรัสปลอบว่า

"เจ้าสมบุญเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เราไทยด้วยกัน ค่อยพูดค่อยจากัน ออมชอมกันไว้ไม่ดีกว่าหรือ เป็นข้าคนไทยด้วยกันยังดีกว่าเป็นข้าของคนต่างด้าวท้าวต่างแดน แล้วเจ้าจะเอาอย่างไรต่อไป"

สมบุญ พูดด้วยใจเด็ดเดี่ยว

"อ๋อ ไม่ยาก ข้าพระพุทธเจ้าขออย่างเดียวง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก คือ ฆ่าพวกข้าพระพุทธเจ้าเสียให้หมด"

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 จึงตรัสต่อไปว่า

"เราก็จนใจเมื่อพวกท่านทั้งห้าต้องการเช่นนั้น แต่เราให้พวกท่านเลือกตายตามสมัครใจ"

สมบุญ กราบทูลว่า

"สำหรับข้าพระพุทธเจ้าสมบุญทหารเอกเมืองพระบางเกิดที่หนองสาหร่าย เกิดที่ไหนก็อยากตายที่นั่นเอาร่างถมแผ่นดินมาตุภูมิ ขอให้เอาข้าพระพุทธเจ้าไปฆ่าเสียที่หนองสาหร่ายเถิดจะเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง"

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 จึงตรัสกับทหารทั้งหลายว่า

"ทหารจงดูไว้เป็นเยี่ยงย่างจะหาคนที่ประเสริฐอย่างนี้ได้ยากมาก เพื่อให้ชาวพระบางมีใจระลึกถึงความดีงามและวีรกรรมของเจ้าสมบุญ เราขอประกาศเปลี่ยนชื่อหนองสาหร่ายเสียใหม่ว่า "หนองสมบุญ" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความกล้าหาญของสมบุญทหารเอกแห่งเมืองพระบางทหารพาสมบุญไปได้"

เจ้าพระยาอนุมานฯ จึงกราบทูลว่า

"ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสี่เป็นศิษย์สำนักเดียวกันต่างอยู่ยงคงกระพันไม่มีทางฆ่าพวกข้าพระพุทธเจ้าได้ ขอได้โปรดนำพวกข้าพระพุทธเจ้าไปกดให้จมน้ำตายที่แม่น้ำหน้าเมืองนี้เถิด"

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 เมื่อได้ฟังดังนั้นจึงตรัสว่า

"เราเสียดายท่านทั้งสี่ แต่เราก็จนใจในความตั้งใจของท่าน"

แล้วจึงสั่งทหารให้นำพระยาทั้งสี่ไปกดน้ำให้จมน้ำตายที่หน้าเมืองพระบางตามความประสงค์ ก่อนตายเจ้าพระยาทั้งสี่ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า

"ข้าแต่พระคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตอยู่ ณ วังน้ำอันเยือกเย็นนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสี่ได้เกิดมาในลุ่มอกแม่น้ำนี้ ลูกได้อาศัยดื่มกินมาชั่วลูกชั่วหลาน แม่มิได้เคยเหือดแห้ง บัดนี้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสี่สิ้นวาสนา ขอฝากดวงวิญญาณแห่งชายชาติทหารกรุงสุโขทัยไว้กับพระแม่คงคา ด้วยเดชะความซื่อสัตย์ กตัญญูกตเวทีของข้าฯ ขอให้แม่น้ำสายนี้จงอย่ามีวันใดเหือดแห้งจงเป็นสายธารชีวิตของชาวไทย ได้หล่อเลี้ยงพืชผลแห่งไร่นา พาเอาง้วนดินเหนืออันเกิดจากซากของผู้กล้าหาญ ที่ข้าหลั่งเลือดเนื้อปกป้องปฐพี ไปเป็นอาหารแห่งพืชที่แม่พระคงคาไหลผ่านไป ขอให้ชาวไทยในลุ่มแม่น้ำสายนี้จงวัฒนาสถาพรตลอดชั่วฟ้าดินสลาย"

และแล้วแม่น้ำสายนี้ก็ปรากฏชื่อว่า

"แม่น้ำเจ้าสี่พระยา" แต่บัดนี้ กาลเวลาได้ผ่านมา 500 ปีเศษ คำว่า "สี่" ก็จางหายไป เหลือแต่ "เจ้าพระยา" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งวีรกรรมในความกล้าหาญและซื่อสัตย์ของเจ้าพระยาทั้งสี่ผู้ครองเมืองหน้าด่านตอนใต้ของสุโขทัย
(หมายเหตุ) ตำนานแม่น้ำเจ้าพระยาและหนองสมบุญนี้ นายอ้อม ศรีรอด แห่งโรงเรียนศรีสัคควิทยา ตลาดสะพานดำ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นผู้ประพันธ์ขึ้น ตามเค้าเรื่องจากสมุดข่อย วัดเขื่อนแดง ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ สมุดข่อยดังกล่าวที่วัดเขื่อนแดง ปัจจุบันได้สูญหายและไม่ทราบว่าผู้ใดเอาไป

ที่มา  :  หนังสือ Study ฉบับ แหล่งท่องเที่ยว ; เส้นทางใหม่ของผู้รักธรรมชาติ (Adventure Magazine)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แต่ละตัว  ดูหน้าก็บอกยี่ห้อโหด  การ์ด กปปส.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.คนใหม่ โต้สดๆเย้ย บิ๊กตู่?!!

ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.คนใหม่ โต้สดๆ ออกช่องแดง เย้ยพล.อ.ประยุทธ์ ผบทบ. "กระจอกที่สุด" จับมือ "สุเทพ" ล้มรัฐบาล ยันไม่ปล่อยทีมฆ่า98ศพ หลังผบทบ.ติงไม่มีเกียรติ คุยด้วย ประกาศถ้ารัฐประหารเจอกับผม ติง ตาไม่ดีแล้ว ยังหูไม่ดี อีก ให้เข้าใจ ศาลการเมือง วิจารณ์ ไม่ได้ล้มเจ้า อย่าคิดว่า จงรักภักดีคนเดียว สถาบันกษัตริย์ ไม่ใช่ของ พล อ ประยุทธ์ คนเดียว

พูดแบบนี้ ไม่ใช่ลูกผู้ชาย เผย จะเดินไปให้ยิง ถ้าจะยิงประชาชน แขวะ เก่งทุกเรื่อง ยกเว้นในหน้าที่ แก้ปัญหา 3 จ.ใต้ แนะลงไปอยู่ใต้ ดีกว่ามาเฝ้า นปช. อย่าคิดว่า ตัวเองเก่ง เท่ห์ ถามจะประกาศกาศกฏอัยการศึก หรือ ตั้งบังเกอร์เต็มเมือง แฉจับทหาร 48 ราย มาช่วยม็อบ ผบทบ.รับผิดชอบมั้ย ต่างจาก ผบทร. รับผิดชอบ ย้าย ผบ.หน่วยซีล แต่ ผบทบ.รับผิดชอบ ด้วยการมาด่า ดูถูกเหยียดหยาม ประธาน นปช.

 

 

 

[​IMG]

 

 

 

[​IMG] 

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 16:00:30 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>