วันพุธที่ 25 ธันวาคม 2556 เป็นวันแรม 8 ค่ำ เดือน 1
มุทุลักขณชาดก อำนาจเเห่งความงาม
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภสภาวะธรรมที่ทำให้คนเศร้าหมอง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นฤาษีตนหนึ่งได้อภิญญา บำเพ็ญเพียรอยู่ที่ป่าหิมพานต์ วันหนึ่งได้เดินทางเข้าไปพำนักในสวนหลวง ในเมืองพารณสี รุ่งเช้าครองผ้าเปลือกไม้ ห่มหนังเสือ เกล้าผมทรงบริขาร เที่ยวภิกขาจารไปถึงประตูพระราชวัง พระราชาทรงเลื่อมใสจึงนิมนต์ให้เข้าไปฉันในพระราชวัง และนิมนต์ให้อยู่ในสวนหลวง ฤาษีรับคำนิมนต์อยู่เป็นเวลา ๑๖ ปี
อยู่มาวันหนึ่ง พระราชาเสด็จไปปราบกบฎแถบชายแดน จึงมอบหน้าที่ถวายภัตตาหารแก่พระมเหสีนามว่ามุทุลักขณา ฤาษีมักเข้าพระราชวังตามเวลาที่ตนพอใจเป็นประจำ วันหนึ่งพระนางได้เตรียมอาหารเสร็จแล้ว เข้าใจว่าฤาษีจะมาช้าจึงเอนพระกายรอที่ท้องพระโรง ขณะนั้น ฤาษีได้เหาะมาถึงพอดี พระนางเมื่อได้ยินเสียงเปลือกไม้ก็รีบเสด็จลุกขึ้น ทำให้ผ้าที่ทรงอยู่ซึ่งเป็นผ้าเนื้อเกลี้ยงหลุดลง เป็นเวลาที่พระฤาษีเหาะเข้าทางช่องพระแกลพอดีทำให้เห็นรูปกายของพระนาง อำนาจแห่งความงามเป็นเหตุให้กิเลสภายในฤาษีกำเริบขึ้น ทันใดนั้น ฌานของท่านเสื่อมลงทันที หลังจากรับอาหารแล้วท่านบริโภคไม่ได้ เดินลงจากปราสาทเข้าไปสวนหลวงนอนซมไม่แตะอาหารปล่อยให้ร่างกายซูบผอมถึง ๗ วัน
ในวันที่ ๗ พระราชาเสด็จกลับมาถึงเมืองทำประทักษิณพระนครแล้ว เสด็จตรงไปหาฤาษีทันที เห็นอาการเช่นนั้นแล้วทรงตกพระทัยจึงตรัสถามถึงสาเหตุ ฤาษีได้ตอบว่าเป็นเพราะมีจิตกำหนัดในพระนางมุทุลักขณาเป็นเหตุ พระองค์ทรงยินดีถวายพระนางให้แก่ฤาษี ก่อนถึงเวลาได้สัญญาลับกับพระนางมุทุลักขณาว่า ขอให้พระนางพยายามรักษาตนด้วยกำลัง พระนางได้บอกฤาษีว่าต้องมีเรือนหลังหนึ่ง ฤาษีขอพระราชทานจากพระราชา พระองค์มอบเรือนวัจจกุฏี(ส้วม)ให้หลังหนึ่ง พระนางไม่เข้าไปด้วยความสกปรก ดาบสจึงไปนำตะกร้ามาจากพระราชสำนักมาโกยสิ่งสกปรกและขยะไปทิ้ง พระนางให้ดาบสทำความสะอาดห้องแล้วไปนำเตียงมาและเก้าอี้มาทีละอย่าง และใช้ตักน้ำให้เต็มตุ่ม
เมื่อกำลังนั่งอยู่บนเตียงด้วยกัน พระเทวีจับสีข้างดาบสฉุดให้ก้มลงตรงหน้าพลางตรัสว่า
" ท่านไม่รู้ตัวว่าเป็นสมณะหรือพราหมณ์เลยหรือ "
ดาบสกลับได้สติคืนมาในเวลานั้นเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านไม่รู้ตัวเอาเสียเลย เพราะอำนาจกิเลส จึงนำพระเทวีไปถวายพระราชาแล้วกล่าวคาถาว่า
" ครั้งก่อน เรายังไม่ได้ประสบพระนางมุทุลักขณา ความปรารถนามีอยู่อย่างเดียว
ครั้นได้พบพระนาง ผู้มีเนตรแวววาวเข้าแล้ว ความปรารถนาช่วยให้เกิดความต้องการขึ้นหลายอย่าง "
ฤาษี ได้อำลาพระราชากลับเข้าป่าหิมวันตะด้วยการบำเพ็ญฌานใหม่ เหาะขึ้นสู่อากาศทันที ไม่หวนกลับมาถิ่นของมนุษย์อีกเลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า | |||
|
ที่มา : หนังสือนิทานชาดก เล่มที่ ๑ โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม
|
พระมหาสุนทร สุนฺทรธมฺโม น.ธ.เอก , ป.ธ.๙. เจ้าคณะอำเภอทัพทัน. เจ้าอาวาสวัดสาลวนาราม
*********************************
ประธานรัฐสภา เงินประจำตำแหน่ง+เงินเพิ่ม - 64,000+50,000 = 114,000 บาท
ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร - 63,000+45,500 = 108,500 บาท
รองประธานรัฐสภา - 63,000+45,000 =108,505 บาท
รองประธานวุฒิสภา และรองประธานสภาผู้แทนราษฏร - 63,000+42,500 = 105,500 บาท
ผู้นำฝ่ายค้านในสภา - 63,000+45,500 = 108,500 บาท
ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร - 63,000+42,500 = 105,500 บาท
สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร - 63,000+41,000 = 104,000 บาท
ถ้าท่านเป็น ส.ส. 4 ปี ท่านมีรายได้รวม 4,992,000 บาท อ่านว่า สี่ล้านเก้าแสนเก้าหมื่นสองพันบาท
อันนี้ยังไม่รวมที่เป็นคระกรรมาธิการอีกนะ
ถ้าท่านเป็น ส.ว. 6 ปี ท่านมีรายได้รวม 7,488,000 บาท อ่านว่า เจ็ดล้านสี่แสนแปดหมื่นแปดพันบาท
แล้วเวลาทำงานในสภาชอบมาทะเลาะกัน
เฮอะๆๆๆๆขืดเว้นวรรคก็อดอยากปากแห้งตายกันพอดี
(24 ธ.ค.) ศาลอุทธรณ์ อ่านคำพิพากษาคดีวางเพลิงเซ็นเตอร์วัน ให้บริษัทประกันภัยชดใช้ค่าเสียหายให้ห้างเซ็นเตอร์วันกว่า 122,790,000 บาท ตามคำพิพากษาชั้นต้น จากเหตุการณ์ นปช.บุกขโมยทรัพย์สินและวางเพลิงเผาทรัพย์ แต่แก้อุทธรณ์จากพฤติการณ์ของนปช.จากจลาจล เป็นการก่อการร้าย
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 ศาลอุทธรณ์ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีความแพ่ง ที่บริษัท พีเพิล พลาซ่า หรือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัทแอกซ่า ประกันภัย จำกัด ให้จ่ายค่าเสียหาย 122,790,000 บาท กรณีถูกวางเพลิงเผาทรัพย์และขโมยทรัพย์สินระหว่างการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง (นปช.) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 โดยสรุปคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ได้พิจารณาพยานและหลักฐาน จากข้อมูลดังนี้
หลังเกิดเพลิงไหม้ได้มีรถดับเพลิงพยายามเข้าไปดับไฟแต่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวาง พบลูกธนูที่พันด้วยผ้าตกอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารศูนย์การค้า และพบร่องรอยกระสุนปืนเป็นรูอยู่หลายรูบริเวณเสาด้านหน้าอาคาร
ดังนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าการวางเพลิงเกิดจากฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง รถจักรยานยนต์รับจ้าง และคนขับรถซาเล้งซื้อของเก่า ที่มีเจตนาลักทรัพย์ และเมื่อพิจารณาโดยสรุปจากพยานหลักฐานเกี่ยวกับการวางเพลิงแล้ว พบว่า การวางเพลิงเกิดจากการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. บางส่วนที่ต้องการใช้ความรุนแรงและ/หรือต้องการข่มขู่ เพื่อผลทางการเมือง ด้วยการทำให้รัฐบาลและประชาชนหวาดกลัว ซึ่งการกระทำของกลุ่ม นปช. ที่วางเพลิงนั้น เข้านิยาม "การกระทำการก่อการร้าย"
"พบลูกธนูที่พันด้วยผ้าตกอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารศูนย์การค้า...
และพบร่องรอยกระสุนปืนเป็นรูอยู่หลายรูบริเวณเสาด้านหน้าอาคาร....
เนี่ยนะ หลักฐานและบทสรุป???...
"ถุ๊ยยยส์...ถุ๊ยยยส์...ถุ๊ยยยส์!!!"...
"ผิดกับคดีคนเสื้อแดง ที่ถูกยิงด้วยอาวูธปืนความเร็วสูง แถมบางศพ ยังพบลูกกระสุนปืนขนาดปืน .223 ...
ฝังอยู่ด้วยซ้ำ แต่ "เปาพุงปลิ้น (บางตัว)" มันยังบอกว่า ไม่สามารถระบุ ผู้ที่ทำให้ถึงแก่ความตายได้...
สมเป็น "ตอแหลแลนด์-ดินแดนแห่งอำมาตยาครองเมือง" ซะจริงๆ!!!"...
นายก ขอจับมือขอจับมือหน่อยค่ะ
ทอม "ไม่เป็นไร คุณอย่ามาจับ"
นายกฯ ตอบกลับว่า "โอเคคะ ไม่จับก็ไม่จับ
******************************
ฉันหายเเล้ว..
....ซัดเข้ามา โถมใส่ ยังไหวอยู่
ยังพร้อมสู้ ไม่หลบลี้ หนีไปไหน
เด่นสง่า ประจัญหน้า ไม่ว่าใคร
หนักเเค่ไหน เรื่องจะถอย คอยเลยคุณ
....ใจดวงนี้ ยังคงเเกร่ง เเรงไม่ตก
สะท้านทก มืดสลัว จนหัวหมุน
สะบัดหน้า คว้าใจเเตก เเหลกเป็นจุล
ปัดเปื้อนฝุ่น หัวใจนี้ ดีเหมือนเดิม........
************************
การให้กระเช้าที่ประกอบด้วยอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เป็นหนึ่งในตัวเลือกของขวัญปีใหม่ยอดนิยม โดยเฉพาะการมอบให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ เจ้านายที่นับถือ เพื่อแสดงความเคารพและระลึกถึง ยิ่งพิถีพิถันเลือกแต่ของที่ดีต่อสุขภาพจัดลงในกระเช้า ก็จะยิ่งเป็นการแสดงความใส่ใจและปรารถนาดีที่มีให้แก่ผู้รับ มาดูกันค่ะว่ากระเช้าสุขภาพที่ดี ควรมีและไม่ควรมีอะไรบ้าง
ของควรเลี่ยงสำหรับกระเช้า
• สุรา มีการห้ามนำสุรามาใส่ในกระเช้าของขวัญอยู่แล้ว การมอบกระเช้าที่มีสุราตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางกระเช้านั้น แสดงให้เห็นถึงความไม่ปรารถนาดีต่อผู้รับ เพราะสุราที่หยิบยื่นให้นั้น จะส่งผลให้ผู้รับเสี่ยงต่อโรคภัยต่างๆ เช่น ตับแข็ง ไขมันพอกตับ ความดันโลหิตสูง อ้วนลงพุง ตับอ่อนอักเสบ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ ฯลฯ กระเช้าเหล่านี้จึงจัดได้ว่าเป็น กระเช้าอัปมงคล!
• ผลไม้กระป๋อง ด้วยกรรมวิธีการผลิตต่างๆ มักส่งผลให้ผลไม้กระป๋องสูญเสียวิตามินอย่าง วิตามินซี วิตามินบีไป ไม่ได้คุณค่าอาหารเท่ากับผลไม้สดๆ และผลไม้กระป๋องส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยน้ำเชื่อม เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนลงพุงได้หากรับประทานเป็นประจำ การให้ผลไม้กระป๋องจึงแสดงถึงความไม่ใส่ใจที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ
• คุ้กกี้ ช็อกโกแล็ต ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะเป็นแหล่งของน้ำตาลแล้ว ขนมหวานที่บรรจุหีบห่อทั้งหลายยังเป็นแหล่งของไขมันทรานส์ ไขมันที่อันตรายต่อสุขภาพที่สุด พบว่าไขมันทรานส์เพิ่มระดับของคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือด การให้คุ้กกี้หรือขนมกรุบกรอบจึงไม่ต่างกับการประสงค์ร้ายต่อสุขภาพหัวใจผู้รับ
• ครีมเทียม หรือ กาแฟ 3 in 1 ครีมเทียมเป็นชื่อสมมติ ความเป็นจริงแล้วผงสีขาวๆที่คุณกำลังใส่เข้าไปในกาแฟ คือน้ำมันปาล์มที่ผ่านกรรมวิธีปลอมตัวให้รสชาติเหมือนครีม ด้วยการใส่สารเคมีต่างๆเข้าไป การให้ครีมเทียมจึงเป็นการแสดงถึงความไม่จริงใจที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ
ของควรเลือกสำหรับกระเช้า
• จากขวดสุรา ควรเปลี่ยนเป็น ขวดน้ำมันมะกอก หรือ 100% Extra-virgin olive oil ซึ่งเป็นน้ำมันที่ประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ดีต่อสุขภาพ สามารถนำมาทำน้ำสลัด หรือประกอบอาหารแบบใช้ไฟอ่อนๆได้ ที่สำคัญคือ รูปทรงสีสันของขวดนั้น ดูหรูหราสง่างามไม่แพ้ขวดสุราเลยทีเดียว
• จากผลไม้กระป๋อง ควรเปลี่ยนเป็นผักผลไม้สดๆ ซึ่งมีสีสันที่สวยงาม บ่งถึงความตั้งใจจริงที่มีให้กับผู้รับ
• จากขนมที่ไร้ประโยชน์ ควรเปลี่ยนเป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพ เช่น กระเจี๊ยบมอญอบกรอบ บร็อคโคลี่อบแห้ง งาดำอัดแท่งหวานน้อย ลูกเดือยกล้อง ถั่วเปลือกแข็ง(อัลมอนด์ วอลนัท)อบไม่ปรุงรส ดาร์คช็อคโกแล็ต (มี %cocoa มากกว่า 70%) จะเป็นการสร้างความประหลาดใจและประทับใจให้กับผู้ที่ได้รับกระเช้า
• เปลี่ยนครีมเทียมและกาแฟสำเร็จรูป มาเป็นใบชา เช่น ชาเขียว หรือ ชาอู่หลง ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านมะเร็ง เปรียบได้กับการอวยพรให้ผู้รับสุขภาพดี สดใส ไร้มะเร็ง
ระวังตัวลวง
หลายครั้งที่กระเช้าซึ่งถูกจัดหมวดหมู่อยู่ในกระเช้าสุขภาพ แต่จริงๆแล้วมีผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง แต่ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพเทียบเท่าราคามาปะปน เช่น รังนก ซุปไก่สกัด น้ำผลไม้แบบกล่องสำเร็จรูป ผลไม้ตากแห้งรสหวาน ส่งผลให้กระเช้าเหล่านี้มีราคาสูงเกินความจำเป็น และไม่ใช่ตัวเลือกที่ชาญฉลาด
หลังจากจัดกระเช้าปีใหม่เพื่อสุขภาพที่กิ๊บเก๋ในแบบของคุณได้แล้ว อย่าลืมที่จะเขียนการ์ดอวยพรปีใหม่ด้วยลายมือตัวเอง แม้ลายมือจะหวัดแค่ไหน แต่รับรองได้ว่าคนรับจะประทับใจยิ่งกว่าการ์ดสำเร็จรูปที่พิมพ์มาแน่นอน
พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง)
Twitter, Instagram: @thidakarn
********************************************
เปลี่ยนไปใช้นามสกุลฝ่ายหม่อมแม่
"กฤดากร"
.ผลสะท้อน จะแรงขึ้นกว่าใช้สกุลเดิมหรือเปล่านะ
ที่แท้กลัวยอดขายตก ตามรายงานข่าว...
......................
ขณะเดียวกัน ช่วงเช้าวันที่ 20 ธ.ค. มีรายงานข่าวว่า
นายสันติ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารใหญ่ได้ร่วมประชุมกับพนักงานในเครือบุญรอดฯ
มีช่วงหนึ่งกล่าวถึงข่าวการส่งจดหมายเตือนถึงนายจุตินันท์ บิดาของน.ส.จิตภัสร์
โดยนายสันติระบุว่าเป็นการส่งจดหมายเตือนไปจริงตามข่าวที่ปรากฏ
โดยเฉพาะหลังจากน.ส.จิตภัสร์ไปให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี ตอนหนึ่งว่า
คนไทยขาดความเข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยเฉพาะในชนบท
ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัท
ดังนั้น ในฐานะซีอีโอจึงต้องออกมาปกป้องบริษัท
เพราะมีคนบางส่วนนำไปตีความผิดๆ หรือสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ขณะที่จุดยืนของบุญรอดฯ และสิงห์ คอร์เปอเรชั่น
สำนึกในบุญคุณของประชาชนทั่วประเทศที่ให้การอุดหนุนผลิตภัณฑ์
บริษัทเติบโตขึ้นมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะประชาชนทั่วประเทศ รวมถึงในชนบทให้การสนับสนุน
..........
อ่านเพิ่มเติม ลิ้งข่าวสด click
"จุตินันท์" ขอโทษแทนตั๊น บุตรสาว กรณีพูดพาดพิงคนชนบท - เผยให้เปลี่ยน "นามสกุล" แล้ว
****************************************
เอเอฟพี - ทางการบังกลาเทศเผยเมื่อวันศุกร์ (20) ว่า ในสัปดาห์หน้าจะส่งกำลังทหารหลายหมื่นนายเข้าระงับเหตุความรุนแรง ก่อนศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 กรกฎาคม ท่ามกลางเหตุประท้วงต่อต้านรุนแรง ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วนับร้อยศพ
คณะกรรมการการเลือกตั้งของบังกลาเทศ บอกว่า แม้กองกำลังด้านความมั่นคงได้กระจายกำลังไปตามจุดที่มีปัญหาหลักๆ อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็จะมีการเสริมกำลังทหารเข้าไปอีกทั่วประเทศ และจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมเป็นต้นไป
“เจ้าหน้าที่ทหารจะถูกส่งเข้าประจำการทั่วประเทศระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม ถึงวันที่ 9 มกราคม” คาซี ราคีบุดดิน อาห์หมัด ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งบอกกับผู้สื่อข่าว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เจาะจงถึงจำนวนทหารที่ถูกส่งเข้าประจำการ แต่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าน่าจะมากถึงราวๆ 50,000 นาย
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศแห่งนี้ หลังจากพรรคฝ่ายค้าน และพรรคพันธมิตรประกาศคว่ำบาตรศึกเลือกตั้งทั่วไป แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งตามกำหนด
บังกลาเทศ เนชันแนลลิสต์ ปาร์ตี (บีเอ็นพี) และพันธมิตร ประกาศคว่ำบาตรการเลือกตั้ง หลังจากนายกรัฐมนตรีซีค ฮาซีนา ปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลรักษาการที่มีความเป็นกลางเข้ามาดูแลการเลือกตั้ง ด้วยพรรคบีเอ็นพี เชื่อว่าเลือกตั้งที่ดูแลโดยรัฐบาลของนางฮาซินา จะมีการโกงอย่างกว้างขวาง
ศึกเลือกตั้งครั้งก่อนๆ ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ดำเนินการโดยรัฐบาลรักษาการที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเพื่อให้มีความเป็นอิสระ และยุติธรรม แต่รัฐบาลของนางฮาซินา ยกเลิกขั้นตอนดังกล่าวในปี 2011 โดยอ้างว่า มันไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และอาจเปิดทางสำหรับรัฐประหาร
นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม พันธมิตรฝ่ายค้านจัดชุมนุมมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในความพยายามโค่นล้มนางฮาซินา และกดดันให้เธอยอมรับข้อเรียกร้อง ในนั้นมีทั้งการนัดหยุดงาน ขวางกั้นท้องถนนทั่วประเทศ ปิดสำนักงาน และโรงเรียน ก่อความโกลาหลด้านการสัญจรระหว่างเมือง ปาระเบิดใส่รถบัส และทำรถไฟตกราง ท่ามกลางเหตุรุนแรงรายวัน จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
พรรคสันนิบาตอวามี (Awami League) ของนางฮาซินา ปิดประตูสำหรับการประนีประนอมใดๆ กับพรรคบีเอ็นพีแล้ว ตามหลังการเจรจาระหว่าง 2 พรรคที่มีสหประชาชนเป็นคนกลาง 3 รอบเมื่อสัปดาหห์ที่แล้ว ลงเอยโดยไม่ได้ข้อเห็นพ้องใดๆ ฉุดประเทศเข้าสู่วิกฤตครั้งเลวร้ายสุดในรอบหลายทศวรรษ
เดินทางไปทำงานที่บังกลาเทศสองอาทิตย์ ได้พบได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยได้สำผัสที่เมืองไทย แล้วคุณจะรักเมืองไทยมากกว่าเดิม |
ผมไม่ค่อยได้เขียนบันทึกการเดินทางแบบนี้ ผมเคยไปทำงานที่เวียดนาม ผมรู้สึกแย่กับการจราจรที่นั่น แต่เพียงถ้าไม่ได้มาที่บังกลาเทศจะไม่รู้ว่ามีสุดๆกว่าเวียดนามเยอะ ก้าวแรกที่ผมออกจากสนามบิน คนมารอรับผู้โดยสารก็ไม่มากซึ่งน่าจะปกติ
แต่ผิดถนัดครับ พอออกมารอรถมารับ และมองตรงไปมียืนเกาะลูกกรงด้านนอก ราวๆไม่ต่ำกว่าสามถึงสี่ร้อยคนผมกะด้วยสายตานะครับ โอ้ เขามาดูอะไรกันนี่ พอรถออกจากสนามบิน วิ่งไปเรื่อยฝนตกครับ ท่วมครับน้ำท่วม ปกติบ้านเรามีท่อระบายน้ำริมฟุตบาท ที่นี่ผมว่าผมไม่เห็นนะ พยายามดูแล้ว แล้วจะระบายอย่างไรครับ
เท่านั่นยังไม่พอ ถนนที่นี่ไม่ต้องตีเส้นจราจร ไม่จำเป็น ไอ้ที่แทรกกันตรงไฟแดงหรือวิ่งว้ายแล้วมาหักเข้าขวา ที่นี่ต่างคนต่างจะไปไม่รู้ซ้ายหรือขวาเต็มไปหมด
ไม่สนใจว่าให้คันนี้คันนั้นไปก่อน ค่อยๆต่างคนต่างไป ไม่มีครับข้าต้องได้ก่อน
ที่นี้ถ้าบนถนนมีแต่รถยนต์ก็น่าจะพอไปกันได้ นี่ทั้งสามล้อถีบ ทั้งตุ๊กตุ๊ก ต่างก็มั่วผสมโรงเข้าไป
ยังครับยังไม่หมด เมื่อรถติด คนก็ลงเดินซิครับ แต่ไม่ได้เดินข้างถนนนะครับ
เดินมันเต็มถนนนั่นแหละ เวลาข้ามถนนที่นี่ต่างกับบ้านเรา บางครั้งรถจอดให้สำหรับบ้านเรา แต่ที่นี่ต้องวัดดวง ชนหรือไม่ชนขับอัดเข้าไปเต็มที่ ไม่มีเบรค จนบางครั้งผมต้องร้องตกใจเพราะอยู่เมืองไทยมาก็ไม่เคยเจอวิ่งใส่คนข้ามถนนขนาดนี้ เล้วเวลาเปิดแตร ที่เวียดนามเขาเปิดเื่พื่อให้รู้ กดสั้นๆ แต่ที่นี่กดกันแบบว่าไม่รู้มันจะกดทำไม รถติดก็กด รถไม่ติดก็กด กดแต่ละที่กดยาวๆ ยาวจนรำคาญ กะว่าคราวหน้าถ้ามาอีกจะเอา เอียปลั๊กมาด้วย ตอนนี้เรามาถึงระยะเวลาการเดินทางบ้าง จากโรงแรมที่พักไปโรงงานบ้าง ระยะทาง 42 กิโลเมตร ออกนอกเมืองนะครับ ถนนสองเลนสวน เพื่อนๆลองเดาเล่นดูนะว่าใช้เวลาเท่าไหร่
ถ้าสนใจผมจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ ตอนนี้ขอตัวเก็บขอกลับเมืองไทยก่อนนะครับ
*********************************************
"ผมไม่ได้บ้า" สุเทพ ลั่น มีเลือกตั้ง 2 กพ. จะปิดทุกจังหวัด ทั่วประเทศ
***************************
ความมหัศจรรย์ของการสวดมนต์
*******************************
*************************
ชุมชนชาวมุสลิม
ชาวมุสลิม หรือที่เรียกกันว่า แขก มีหลักฐานว่าได้เดินทางเข้ามาตั้งแต่สมัยต้นอยุธยา โดยมาจากดินแดนอาระเบียและเปอร์เซีย ทั้งนี้ชาวมุสลิมจะมีบทบาททั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า และด้านการปกครอง
ชาวมุสลิมในอยุธยามี 2 นิกายด้วยกัน คือ นิกายชีอะห์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่านและเชื้อสาย ส่วนนิกายสุหนี่ จะเป็นเชื้อสายจากอาหรับ อินโดนีเซีย มลายู และปัตตานี
ชุมชนมุสลิมส่วนใหญ่อยู่ทางตอนใต้ของพระนคร นอกเกาะเมือง มีสุเหร่าแขกที่ปากคลองคูจาม มีพระจุฬาราชมนตรี เป็นเจ้ากรมท่าขวา ผู้ควบคุมดูแลชาวมุสลิม
มัวร์
มัวร์ หรือ แขกมัวร์ เป็นคำที่ใช้เรียกชาวมุสลิมโดยรวมที่มาจากเปอร์เซีย อาหรับ อาณาจักรออตโตมาน และอินเดีย
ในสมัยพระนารายณ์มีพวกมัวร์อยู่กว่า 3,000 คน ในพระนครนั้นมีถนนบ้านแขก ซึ่งเป็นอิฐที่ดีสายหนึ่งของอยุธยา มีอาคารอิฐสองฟากฝั่ง พวกมัวร์ฟั่นเชือกขายแก่พวกเรือกำปั่นและสำเภา ทั้งฟั่นชุดจุดบุหรี่ด้วยเปลือกมะพร้าวขายด้วย ส่วนเชิงสะพานชีกุนตะวันตกเป็นตลาดชีกุน มีพวกแขกนั่งร้านขายกำไลมือกำไลเท้า ปิ่นปักผม แหวนต่าง ๆ และเครื่องประดับที่ทำด้วยทองเหลือง
ในด้านการค้า มัวร์เป็นพ่อค้าที่นำสินค้าจากโลกมุสลิมมายังอยุธยา เช่น น้ำกุหลาบ พรมเปอร์เซีย อัญมณี เครื่องทอง ม้าอาหรับ ส่วนสินค้าออกจากอยุธยา เช่น พริกไทย กำยาน การบูร สำหรับสินค้าราคาดีที่ราชสำนักอยุธยาส่งขายยังอินเดียและเบงกอล คือ ช้าง ในปีหนึ่ง ๆ นั้น มีการส่งออกช้างที่เชื่องแล้วถึง 300 – 400 เชือก
เปอร์เซีย
เปอร์เซีย หรือ แขกมะหง่ล หรือ แขกเจ้าเซ็น เป็นชื่อที่ใช้เรียกชาวอิหร่านและเชื้อสาย เชื่อว่าได้เดินเรือค้าขายกับสยามและดินแดนในแถบนี้มาตั้งแต่ก่อนการสถาปนาอยุธยา พร้อมกับนำศาสนาและวัฒนธรรมแบบโลกมุสลิมมาสู่สยาม
ชาวเปอร์เซียในอยุธยาโดยทั่วไป คือ ชาวอินโด – อิหร่าน เพราะพ่อค้าชาวอิหร่านเริ่มเข้าไปตั้งชุมชนอยู่ตามเมืองท่าในอินเดียก่อน ชาวอิหร่านจำนวนมากได้แต่งงานกับสตรีพื้นเมืองอินเดีย ทำให้ลูกหลานมีเลือดผสมที่เรียกว่า กลุ่มชาติพันธุ์อินโด – อิหร่าน คนเหล่านี้ได้ขยายชุมชนและสถานีการค้าไปสู่ตอนใต้ของพม่า อยุธยา มลายู เรื่อยไปจนถึงเมืองจีน
แต่เดิมชุมชนชาวเปอร์เซียตั้งอยู่นอกเกาะพระนครศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ผู้นำชุมชนเชื่อ เฉกอะหมัด ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเสนาบดีกรมมหาดไทย จึงได้รับพระราชทานที่ดินในเขตกำแพงพระนครให้ตั้งศาสนสถานและบ้านพักอาศัย ลูกหลานของเฉกอะหมัดได้มีบทบาทและอิทธิพลทางการเมืองการปกครองและการค้าสืบต่อมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์
ในสมัยพระนารายณ์ มีการจ้างทหารเปอร์เซียจากอินเดียมาเป็นทหารรักษาพระองค์ถึง 200 คน
ศิลปวัฒนธรรมเปอร์เซียในอยุธยามีปรากฏอยู่ในงานหลายแขนง เช่น การสร้างซุ้มประตูโค้งแหลมตามอย่างศิลปะโมกุลที่วังนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี และที่วัดกุฎีดาว เป็นต้น ศิลปะการลงยาราชาวดี ซึ่งเป็นเทคนิคของช่างมุสลิม และมีปรากฏในวรรณกรรมไทย เช่น นิทานอิหร่านราชธรรม ตลอดทั้งคำที่ใช้ในภาษาไทย เช่น ภาษี มาจากคำ บักซี , กุหลาบ มาจาก กุลาบ , องุ่น มาจาก อังงุล ฯลฯ
มลายู – ชวา – ปัตตานี
ในสมัยอยุธยาตอนต้น มีหลักฐานว่ามีการนำทาสชายหญิงจากมะละกาเข้ามาขาย และซื้อคนชวามาเป็นทาส นอกจากนี้ยังมีการกวาดต้อนชาวมลายูและปัตตานีเข้ามายังอยุธยา เมื่อมีการทำสงครามปราบหัวเมืองมลายู
ชุมชนมลายูอยู่ใกล้กับบ้านโปรตุเกส ส่วนแขกตานีหรือปัตตานี ตั้งบ้านเรือนอยู่แถบคลองตะเคียน ริมวัดลอดช่อง พวกแขกตานีทอผ้าไหมผ้าด้าย เป็นผ้าพื้นผ้าม่วงเกลี้ยงม่วงดอกขาย ทั้งยังมีพ่อค้าแขกมลายู – ชวา – ตานี นำสินค้าจากถิ่นตนเองเข้ามาขายยังอยุธยาโดยจอดเรือค้าที่ปากคลองคูจาม มีสินค้า เช่น หมาก หวาย และของทะเล
ในคราวกบฏมักกะสันตอนปลายสมัยพระนารายณ์ ชาวมลายูได้ถูกระดมกำลังถึง 300 คนให้เข้าร่วม แต่เมื่อชาวมลายูรู้ว่าจะต้องทำการกบฏจึงพากันถอนตัว ดังนั้น ในเหตุการณ์คราวนี้ หมู่บ้านชาวมลายูที่อยู่ติดกับหมู่บ้านแขกมักกะสัน จึงรอดพ้นจากการถูกปราบปรามทำลาย
มักกะสัน
แขกมักกะสัน เป็นกลุ่มชนจากเมืองมากัสซาร์ เกาะซีลีเบส ประเทศอินโดนีเซีย มีชุมชนอยู่ใต้หมู่บ้านมลายู
ในปลายสมัยพระนารายณ์ พ.ศ. 2229 ชาวมักกะสันได้เป็นกลุ่มนำทำการกบฏเพื่อต่อต้านพระนารายณ์ ออกญาวิชาเยนทร์ และศาสนาคริสต์ โดยมีขุนนางไทยกลุ่มหนึ่งหนุนหลัง เพื่อจะยกพระอนุชาของพระนารายณ์ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน แต่ข่าวการกบฏรั่วไหลเสียก่อน ทหารฝ่ายอยุธยา จำนวน 1,500 คน ภายใต้การนำของออกญาวิชาเยนทร์ ได้ทำการปราบกบฏแขกมักกะสันที่มีกว่า 100 คน ทั้งเผาทำลายหมู่บ้านมักกะสันทิ้งอย่างราบคาบ
กบฏชาวมักกะสัน ซึ่งมีเพียงกริชเป็นอาวุธ ได้รับการกล่าวขานถึงโดยชาวฝรั่งเศสว่าเป็นพวกใจกล้าบ้าบิ่น ดุร้าย ไม่กลัวความตาย พร้อมที่จะสู้จนตัวตาย เหตุการณ์ครั้งนี้นับศพมักกะสันได้ 42 ศพ (ไม่รวมที่ยังจม หรือ ลอยไปตามน้ำ) จับเป็นได้ 33 คน และแต่ละคนถูกแทงเสียจนนับไม่ถ้วน
จาม
แขกจาม เป็นผู้อพยพมาจากอาณาจักรจามปา ซึ่งอยู่ในเขตเวียดนาม ตอนกลาง – ใต้ เป็นชุมชนมุสลิมซึ่งปรากฏในแผนที่สมัยพระนารายณ์ว่าตั้งอยู่ในกำแพงพระนคร
ชาวจามมีบทบาทในฐานะเป็นทหารอาสาคือ กรมอาสาจาม มีพระราชวังสันเป็นเจ้ากรม กรมนี้ยังมีสืบเนื่องมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ถึงแม้ว่าอาณาจักรจามปาจะล่มสลายไปแล้ว โดยถูกเวียดนามครอบครองเมื่อตอนปลายสมัยอยุธยา
ในอยุธยา ชาวจามมีอาชีพสานเสื่อลานไตขาย ส่วนชาวจามแถววัดแก้วฟ้าและวัดลอดช่องนั้น ทอผ้าส่งขายตลาดป่าผ้าเขียว
แบ่งเขตการปกครอง เป็น 6 หมู่บ้าน |
ประกอบด้วยหมู่บ้าน หมู่1 บ้านปากคลองวัดแจ้ง , หมู่1 บ้านท้ายคู , หมู่2 บ้านดิน , หมู่6 บ้านใต้วัดโคก , หมู่6 บ้านวัดทำใหม่ , หมู่10 บ้านหนองบัว |
จำนวนประชากรใน ตำบลคลองตะเคียน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
*******************************
มวลมหาประชาชนสีลมนี่ ไม่เชื่อใช้ดินสอแหลมๆนับเลยครับ นับได้จริงๆ
ดูถูกคนจน คนชนบท แต่สุดท้ายก็ต้องมายกมือไหว้ขอคะแนนกับคนจน กับแม่ค้าขายของข้างถนน
*******************************
วันที่: Fri Nov 15 19:10:22 ICT 2024
|
|
|