Support
intrendshop
093-540 5946
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ช็อกโกแลตซีสต์ คืออะไร

วันที่: 2012-09-22 16:56:55.0

 "ช็อกโกแลตซีสต์" สิ่งที่ผู้หญิงควรรู้..

   ในทุกรอบเดือนของผู้หญิง บางคนจะมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรงมากจนหน้าซีด หน้าเซียว อันเป็นที่มาของโรคอย่างหนึ่งที่เรียกว่า

"ช็อกโกแลตซีสต์ Chocolate Cyst " หรือโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งปัจจุบันมักได้ยินบ่อยๆ และเกิดขึ้นกับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์เป็นส่วนมาก

     ปกติร่างกายจะเปลี่ยนเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นเลือดประจำเดือน แต่ในบางคนเลือดประจำเดือนไหลออกมาไม่หมด เกิดการไหลย้อนแล้วไปเกาะตามบริเวณต่างๆนอกโพรงมดลูก เช่น รังไข่ ท่อนำไข่ หรืออวัยวะอื่นๆอีกมากมาย ในเดือนต่อไป เลือดประจำเดือนรอบใหม่จะไหลมาสะสมซ้ำกับจุดที่เกาะอยู่กับอวัยวะเดิม กลายเป็นก้อนใหญ่ขึ้น

   เมื่อนานขึ้น เลือดที่สะสมนี้จะเริ่มข้นจนมีสีคล้ายช็อกโกแลต (จึงเรียกกันว่า ช็อกโกแลต ซีสต์) ทำให้เกิดพังผืด โยงใยไปมา อาจไปรัดรังไข่ หรือท่อนำไข่ได้ เมื่อก้อนช็อกโกแลตซีสต์แตก เลือดจะออกบริเวณอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน อาการเจ็บปวดก็จะเพิ่มขึ้น

   วิธีแก้ไขไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าสามารถตั้งครรภ์ได้ จะทำให้อาการปวดลดน้อยลงหรือหายไป เพราะเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่จะเปลี่ยนสภาพ จากอิทธิพลฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์ทำให้ฝ่อลงได้

   แต่สำหรับบางคนอาจมีอาการรุนแรงจนส่งผลให้มีบุตรยาก โดยอาการจะแตกต่างกันออกไป การรักษา จะขึ้นอยู่กับระดับของอาการ เช่น การใช้ฮอร์โมน การผ่าตัดที่เอาเฉพาะก้อนช็อกโกแลตซีสต์ทิ้งไป หรือ การผ่าตัดมดลูก รังไข่ ทั้งหมดออก เพื่อไม่ให้เกิดโรคนี้ได้อีก

ลักษณะอาการ

   -   บางคนอาจมีอาการปวดประจำเดือน ซึ่งเป็นรุนแรงในช่วงท้ายๆของประจำเดือน อาจเกิดขึ้นเมื่ออายุ 25 ปี โดยก่อนหน้านี้ไม่มีอาการมาก่อน

   -   บางคนอาจมีประจำเดือนมากกว่าปกติหรือกะปริดกะปรอย

   -   บางคนอาจมีอาการเจ็บปวดขณะหรือหลังร่วมเพศ ในรายที่มีเยื่อบุงอกที่บริเวณลำไส้จะมีอาการปวดขณะถ่ายหรือถ่ายเป็นเลือด ขณะมีประจำเดือน ในรายที่มีเยื่อบุงอกที่กระเพาะปัสสาวะ อาจมีอาการเจ็บขณะถ่ายปัสสาวะ

   -   ประมาณร้อยละ 60-70 ของผู้ป่วยโรคนี้ ประวัติพบว่ายังไม่เคยมีบุตรมาก่อน

    เมื่อทราบแล้วก็น่าใจหาย แต่สาวๆอย่าเพิ่งวิตกกังวลมากนัก ปัจจุบันการแพทย์ทันสมัยกว่าที่คิด เพราะมีวิธีการผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งแม่นยำและมีแผลที่เล็ก รวมทั้งการพักฟื้นก็น้อยลงอีกด้วย

  แต่ทางที่ดี ถ้าไม่อยากเจ็บตัวแบบนี้ ก็ต้องหาตัวช่วยอื่นมาช่วยขับประจำเดือนไม่ให้ตกค้าง กันดีกว่า...กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ...^^