Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

พสกนิกรอดอยากหิวโซ!! ต่างรุมล้อมช้างพระที่นั่ง จนเกือบจะถูกช้างเหยียบตาย!!

ArjanPong | 29-03-2562 | เปิดดู 1413 | ความคิดเห็น 0

 

          

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

(17 เมษายน พ.ศ. 2277 – 6 เมษายน พ.ศ. 2325) มีพระนามเดิมว่า สิน ทรงเป็น

พระมหากษัตริย์ผู้ก่อตั้งอาณาจักรธนบุรี และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียว

ของราชอาณาจักรธนบุรี

 

          

พระสถูปบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หน้าพระอุโบสถหลังเดิม

วัดอินทารามวรวิหาร ภายหลังมีผู้ขนานพระสถูปนี้ว่า "พระเจดีย์กู้ชาติ" ร่วมกับพระสถูป

อีกองค์หนึ่งที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งเชื่อกันว่าบรรจุพระบรมอัฐิของกรมหลวงบาทบริจา

พระอัครมเหสีของพระองค์ 

 

          

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปราบดาภิเษกเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310

ณ พระราชวังกรุงธนบุรี

 

          

                                   ภาพจิตรกรรมการรบที่บางแก้ว

 

...เรื่องเก่าเล่าตำนาน...
พสกนิกรอดอยากหิวโซ!!
ต่างรุมล้อมช้างพระที่นั่ง จนเกือบจะถูกช้างเหยียบตาย!!
www.arjanpong.com
#พระเจ้าตาก #กรุงธนบุรี #ประวัติศาสตร์
พระราชพงศาวดารฉบับพระราชเลขากล่าวว่า

“ลุศักราช ๑๑๓๐ ปีชวดสัมฤทธิศก จึงท้าวพระยาข้าราชการจีนไทยผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง ก็ปรึกษาพร้อมกันอัญเชิญเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นบรมกษัตริย์ผ่านพิภพลีลา ณ กรุงธนบุรี ตั้งขึ้นเป็นราชธานีสืบไป

ทรงพระกรุณาให้แจกจ่ายอาหารแก่ราษฎรทั้งหลาย ซึ่งอดโซอนาถาทั่วสีมามณฑล เกลื่อนกล่นกันมารับพระราชทานมากกว่าหมื่น บรรดาข้าราชการฝ่ายพลเรือนไทยจีนทั้งปวงนั้น ได้รับพระราชทานข้าวสารเสมอกันคนละถังกินคนละยี่สิบวัน ครั้งนั้นยังหาผู้ใดทำไร่นาไม่ อาหารกันดารนัก และสำเภาบรรทุกข้าวสารมาแต่เมืองพุทไธมาส จำหน่ายถังละสามบาท สี่บาท ห้าบาทบ้าง ทรงพระกรุณาให้ซื้อแจกคนทั้งปวงโดยพระราชอุตสาหะโปรดเลี้ยงสัตว์โลก พระราชทานชีวิตไว้มิได้อาลัยแก่พระราชทรัพย์ แล้วแจกจ่ายเสื้อผ้าเงินตราแก่ไพร่ฟ้าประชาชนจักนับมิได้

และทรงพระกรุณาโปรดชุบเลี้ยงแต่งตั้งข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยครบตามตำแหน่งถานานุศักดิ์เหมือนแต่ก่อน แล้วโปรดตั้งเจ้าเมืองกรมการให้ออกไปครองหัวเมืองใหญ่น้อยซึ่งอยู่ในพระราชอาณาจักรใกล้ๆนั้นทุกๆเมือง ให้ตั้งเกลี้ยกล่อมซ่องสุมอาณาประชาราษฎรซึ่งแตกฉานซ่านเซ็นไปนั้น ให้กลับมาอยู่ภูมิลำเนาเหมือนแต่ก่อนทุกบ้านทุกเมือง...”

อาหารนับเป็นสิ่งมีค่ายิ่งในยามนั้น การพระราชทานอาหารจึงเหมือนพระราชทานชีวิต บรรดาราษฎรต่างพากันแซ่ซ้องสาธุการ เบียดเสียดกันเข้าห้อมล้อมชมพระบารมีจนเกือบชิดช้างพระที่นั่ง ทำให้พระองค์ทรงห่วงใยราษฎรที่อาจถูกช้างเหยียบหรือทำร้าย จึงมีพระราชดำรัสเตือนฝูงชนว่า

“อย่าเข้ามาใกล้ ลูก เดี๋ยวช้างมันจะทำร้ายเอา”

พระราชดำรัสอันเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาต่อไพร่ฟ้าประชาราษฎร์นี้ ทำให้เป็นที่ซาบซึ้งประทับใจแก่ราษฎรโดยทั่วกัน และเมื่อความอดอยากหิวโหยหมดไป กำลังใจกลับคืนมา บ้านเมืองกลับเข้าสู่ความสงบสุข ราษฎรจึงลงมือทำนาฟื้นฟูเรือกสวนกันอีกครั้ง

นอกจากนี้เมื่อยามว่างศึก ยังทรงเกณฑ์ให้ทหารและข้าราชการไปทำนา โดยให้เจ้าพระยาจักรี เจ้าพระยาสุสีห์ พระยาธรรมา คุมไพร่พลไปทำนาที่ทะเลตมฟากตะวันออก แถวทุ่งบางกะปิและสามเสน ให้พระยายมราช พระยาราชสุภาวดี คุมพลไปทำนาที่ทะเลตมฟากตะวันตก แถวทุ่งกระทุ่มแบน หนองบัว แขวงเมืองนครชัยศรี

ขณะนั้นข้าวสารราคาสูงมากเนื่องจากขาดแคลนและความต้องการก็มีสูง บรรดาสำเภาค้าต่างเร่งรีบไปบรรทุกข้าวสารจากประเทศใกล้เคียงเข้ามาขาย เมื่อปริมาณมีมากราคาก็ลดลง จนเมื่อข้าวที่ราษฎรและข้าราชการปลูกเริ่มเก็บเกี่ยวได้ วิกฤตการณ์ด้านอาหารก็ค่อยๆคืนสู่ความเป็นปกติ ความอดอยากหิวโหยหมดไป ด้วยพระบารมีล้นเกล้า ที่ทรงมีพระราชดำริไว้ว่า" อิ่มก็อิ่มด้วยกัน อดก็อดด้วยกัน!!.."

 

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 14:30:14 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>