" หากเรารู้ว่าชีวิตของเพื่อนจะสั้นอย่างนี้ เราจะไม่ยอมให้ความเป็นเพื่อนของเรา ต้องขาดไปเกือบ 5 ปีหรอก...จริงๆนะเพื่อนรัก......."
ข้อความจากใจสั้นๆของเล็ก ธานินทร์ อินทรเทพ ที่เขียนไว้ให้กับเพื่อนรัก ทวีพงศ์ มณีนิล นั่นย่อมสื่อความหมายของความทุกข์ระทมใจได้เป็นอย่างดี ถึงสิ่งที่ผ่านมาของความไม่เข้าใจกันระหว่างเพื่อนรัก 2 คนนี้
ทวีพงศ์ มณีนิล หรือที่เพื่อนเรียกกันสั้นๆว่า วี ถือกำเนิดเกิดมาที่บ้านหนองปรง อ.เขาย้อย จ.เพชรชบุรี จบ ป.4 ที่โรงเรียนวัดหนองปรง บ้านเกิด ก่อนจะมาจบชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนพรหมานุสรณ์เพชรบุรี เมื่อปี พ.ศ 2505 มุมานะเรียนต่อจนจบปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ 2511 เเล้วจึงไปศึกษาต่อต่างประเทศ ที่ University of Dallas เมืองดัลลัส มลรัฐเท็กซัส ระยะเวลา 2 ปี แต่ไม่สำเร็จการศึกษาเนื่องจากเหตุการผันผวนในชีวิตความรักเสียก่อน....
เริ่มเขียนเพลงตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะชอบทั้งเพลงและการร้องเพลง การแต่งกาพย์ โคลง กลอนมาก ประกอบกับเป็นนักอ่านประเภทหนอนหนังสือ คืออ่านทุกประเภท จึงหัดแต่งเพลงด้วยตังเองเรื่อยมา และแต่งเพลงสำเร็จเป็นเพลงแรกเมื่ออายุได้ 14 ปี ชื่อเพลง "คิดถึงเธอ" ซึ่งได้รับการบันทึกเสียงเมื่อ 10 ปี ให้หลังโดย รุ่งทิพย์ ธารทอง และเพลงนี้มีส่วนทำให้แฟน ๆ รู้จักรุ่งทิพย์ ธารทอง ในฐานะนักร้องดาวรุ่งคนหนึ่งด้านลูกทุ่ง นอกเหนือจากงานแต่งเพลงซึ่งรุ่งทิพย์ ธารทอง ก็แต่งเพลงเองอยู่แล้ว และได้บันทึกเสียงอีกครั้งโดย ธานินท์ อินทรเทพ อยู่ในลองเพลย์ ชุด "ญาติวันทอง"
เมื่ออายุได้ 18 ปี ก็หัดแต่งเพลงลูกกรุงสำเร็จ คือเพลง "นานเกินรอ" นำมาบันทึกเสียงอยู่ในชุด "ถ้าวันนี้ยังมีเขาอยู่" โดย สวลี ผกาพันธ์ ในด้านเพลงลูกทุ่งเคยแต่งเพลงให้ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ ร้อง 2-3 เพลง ได้แก่ เพลงคนหัวใจรั่ว เนื้อคู่สีชมพู และโลกนี้ไม่ใช่ของเรา (คนหนักโลก) ใช้นามปากกาว่า "ทวี ลูกเพชร" ในด้านเพลงไทยลูกกรุง เริ่มบันทึกเสียงเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2516 หลังจากเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และหลังจากการบวชที่วัดชลประทาน ปากเกร็ด เป็นที่เรียบร้อย
การบันทึกเสียงในครั้งนี้ มีเพลงรักเธอไม่ถึงบาท, โจรปล้นใจ, สวัสดีความเศร้า และของขวัญวันเกิด โดยได้รับการสนับสนุนจาก ชาญชัย บัวบังศร, พีระ ตรีบุปผา, วิสุทธิ์ กิวานนท์, รุ่งเพชร แหลมสิงห์, นายมงคล เดชานุวงศ์ เจ้าของห้างแผ่นเสียงทองคำ และสวลี ผกาพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ร้องเพลงในชุดนี้ทั้งหมด
หลังจากบันทึกเสียงชุดนี้แล้ว ก็เดินทางไปสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง จนจบการศึกษาวิชาธุรกิจโรงแรม ที่ลอสแองเจอลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ระยะเวลา 2 ปี จนกระทั่งกลับมาในปลายปี 2518 จึงเริ่มงานด้านแต่งเพลงอย่างจริงจังอีกครั้ง
ผู้สนับสนุนด้านแต่งเพลง
ชาญ ชัย บัวบังศร, สมานกาญจนผลิน และนคร ถนอมทรัพย์ การแต่งเพลงอาศัยหลักการเขียนหนังสือของทวิช โปสินธุ์ (ยิ่งยง สะเด็ดยาด) และบรรเจิด ทวี (ไก่อ่อน)
รางวัลที่ได้รับ
1. รางวัลเสาอากาศทองคำ ปี 2519 จากเพลง "คนหน้าเดิม" ด้านคำร้องยอดเยี่ยม ขับร้องโดยรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส
2. รางวัลเสาอากาศทองคำ ปี 2520 จากเพลง "ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก" ด้านทำนองยอดเยี่ยม ขับร้องโดยธานินท์ อินทรเทพ
3. รางวัลแผ่นเสียงทองคำ พระราชทาน 2 รางวัล ปี 2522 จากเพลง "ปั้นดินให้เป็นดาว" ด้านคำร้องและทำนองยอดเยี่ยม ขับร้องโดยธานินท์ อินทรเทพ
ทวีพงศ์ มณีนิล เสียชีวิตโดยถูกมือปืนลอบสังหารด้วยปืนขนาด 11 มม. ขณะยืนคุยโทรศัพท์ที่ห้างแผ่นเสียงเมโทร ย่านประตูน้ำเมื่อบ่าย 15.00 น. ของวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2526
“จากใจดวงนี้ที่มีแต่ให้ ยากเย็นเพียงไหนทุ่มเทฝ่าฟัน
สิ่งหนึ่งค่าน้อย...ขอคืนเป็นรางวัล ขอช่อไม้จันทน์...วันฉันนอนกองฟอน...”
"ทวีพงศ์ เพื่อนรัก...
นี่คือ ท่อนสุดท้าย เพลงปั้นดินให้เป็นดาว ที่เพื่อนแต่งให้เราร้อง เพลงชุดนี้เอง
ทำให้ความเป็นเพื่อนของเราต้องห่างเหินกันไปเกือบห้าปี
หากเรารู้ว่า ชีวิตของเพื่อนจะสั้นอย่างนี้ เราจะไม่ยอมให้ความเป็นเพื่อนของเรา
ต้องขาดไปเกือบห้าปีหรอก จริงๆ นะ...เพื่อนรัก...
เพื่อนรัก...เพื่อนคงจำได้นะ...เราเคยพูดถึงเพื่อนว่า
“เฮ้ย เอ็งทำไมชอบแต่งเพลงตอนเอ็งตายเรื่อยเลยวะ...หลายเพลงแล้วนะที่เราร้อง
แล้วเวลาเอ็งตายน่ะ เอ็งขอเพียงช่อไม้จันทน์เท่านั้นละเหรอ”
เพื่อนบอกว่า “เออ กูขอแค่นั้น”
ทวีพงษ์ เพื่อนรัก
คงสมใจเพื่อนแล้วสินะ เพราะวันนี้...ทุกคนที่มา
เขามอบ ช่อไม้จันทน์ ให้เพื่อนทุกคน...”.