*** ข่าวพลังภูผา..***
เงาะป่าผู้อาภัพ!!..
www.arjanpong.com
อนุสรณ์สำคัญที่ทำให้รำลึกถึงนายคะนัง มาจากพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง เงาะป่า ว่ากันว่า ทรงได้เค้าเรื่องราวรวมทั้งสำนวนศัพย์แสงพวกเงาะป่า มาจากนายคะนังคนนี้แหละ ข้อมูลเรื่องราวของนายคะนัง เท่าที่เล่าสืบๆกันมามีไม่มากนัก......
นาวาเอกสวัสดิ์ จันทนี ฟังเรื่องนายคะนังจากปากของหลวงวรภักดิ์ภูบาล (อาจ) ผู้รับใช้ใกล้ชิดในราชสำนักสมัย ร.๕ ระหว่างมารักษาตัวอยู่ด้วยกันในโรงพยาบาลทหารเรือ และบันทึกไว้ในหนังสือ “นิทานชาวไร่” เล่มที่ 9 มีเรื่องราวนับได้ว่ายาวกว่าที่ฟังมาจากที่อื่น......
คุณหลวงวรภักดิ์ภูบาลเล่าว่า นายคะนังมาอยู่วังหลวงตั้งแต่ยังเด็ก คะเนอายุได้ว่า น่าจะเกิดราว พ.ศ.๒๔๓๖ ผิวนายคะนังไม่ดำเป็นมันอย่างพวกนิโกร แต่ดำชนิดที่มีแดงเจือ
“ผมยาวตั้งศอก” คุณหลวงวรภักดิ์ว่า “แต่ทว่าเป็นสปริงจึงหดเหลือติดหนังหัว ผมเคยลองดึงยืดออกมา แล้วปล่อยให้กลับคืนตัว ก็หดได้ทันทีเหมือนหนังสติ๊ก”
คะนังแต่งตัวเหมือนมหาดเล็กทั่วๆไป แต่เมื่อเจอคนแต่งเครื่องแบบ ไม่ว่ามหาดเล็กด้วยกันหรือทหารรักษาวัง เห็นส่วนประกอบเครื่องแบบที่มีสีแดงจะชอบใจ เดินเข้ามาขอลูบคลำ ปากก็พร่ำว่า
“อยากแต่งเสียจริงๆ”
หลวงวรภักดิ์ภูบาล บอกว่ารัชการที่ ๕ ท่านเลี้ยงนายคะนังเหมือนบุตร ไม่ได้ยกให้เป็นเจ้า… แต่ความที่อยู่ใกล้พระเจ้าแผ่นดิน เมื่อทรงเรียกเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางผู้ใหญ่ว่าอย่างไร นายคะนังก็เรียกตามอย่างว่าอย่างนั้น
“พระพุทธเจ้าหลวงท่านเรียกกรมหลวงสรรพศาสตร์ว่า ดุ๊ก นายคะนังก็เรียกว่าดุ๊กบ้าง เรียกหลวงวรภักดิ์ภูบาลว่า อาจ นายคะนังก็เรียกว่าอาจด้วย”
ความที่นายคะนังเผลอตัวเทียมเจ้า พอลับหลังพระพุทธเจ้าหลวง ก็เลยไม่มีใครชอบหน้า พวกมหาดเล็กก็ลอยแพ ไม่ยอมสอนให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร วันหนึ่งทำทะลึ่ง สมเด็จพระบรมฯ เงื้อพระหัตถ์ขึ้นจะตบหน้า......
“อย่าหน่า พ่อโตหน่า มันกำพร้า” พระพุทธเจ้าหลวงทรงห้าม
ขนาดสมเด็จพระบรมฯ ยังทำอะไรไม่ได้ นายคะนังที่ไม่เคยถูกยกให้เป็นเจ้า หลวงวรภักดิ์ภูบาลเล่าว่า “นายคะนังก็ทำท่าจะเป็นเจ้าเจี้ยวไปจริงๆ”
ต่อมามีเรื่องซุบซิบกันในฝ่ายในทำนองว่า นายคะนังไปทำเหตุมิบังควร กับเจ้านายหญิงพระองค์หนึ่ง นายคะนังก็ยิ่งเพิ่มความเป็นหมาหัวเน่า เล่ากันว่าเจ้านายฝ่ายใน เกลียดนายคะนังกันมาก แต่ทุกฝ่ายที่เกลียดก็ต้องเก็บไว้ในใจ ไม่มีใครกล้าทำอะไร รวมถึงสมเด็จพระบรมฯ ก็ไม่กล้าทำอะไรโครมครามออกมา เพราะเกรงบารมีพระพุทธเจ้าหลวง......
ครั้นถึงรัชกาลที่ ๖ หลวงวรภักดิ์ภูบาลเล่าว่า ดวงชะตาที่เคยรุ่งโรจน์ของนายคะนังก็เริ่มตก ไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครแยแสด้วย แต่กระนั้นรัชกาลที่ ๖ ก็ยังโปรดเกล้าฯให้เป็นเสือป่า เคยทำหน้าที่เชิญธงนำเสด็จ.....
ถึงตอนนี้นายคะนังเริ่มเป็นหนุ่ม พวกมหาดเล็กสัปดนก็พาไปเที่ยวโรงยี่สุ่นเหลือง (ซ่องโสเภณี) ไปบ่อยเข้าก็ชักติดใจ เมื่อไม่มีใครพาไปก็ไปเอง วิธีไปของนายคะนัง คนดัง ก็ไม่ธรรมดา...
คืนหนึ่งนายคะนังไปเที่ยวตรอกเต๊าคนเดียว ลำพังตัวเองเป็นเงาะแปลกตาคนอื่นยังไม่พอ นายคะนังยังขี่ม้าหลวงไปด้ว ม้าหลวงสมัยนี้ คงเทียบด้วยรถยนต์ประจำตำแหน่งขุนนางผู้ใหญ่สมัยนี้ นายคะนังเอาม้าไปผูกไว้หน้าโรงโคมเขียวอย่างเปิดเผยโอ่อ่า.....
เล่ากันว่าชาวบ้านรู้ข่าวก็ชักชวนกันมามุงดู ดูทั้งม้าหลวง ดูทั้งเงาะป่าตัวดำ และดูการเข้ายี่สุ่นเหลือง แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์กันเกรียวกราว ถ้าเป็นสมัยนี้ คงเป็นข่าวพาดหัวตัวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่ง.....
เห็นจะเป็นเพราะการขี่ม้าไปเข้าๆออกๆ โรงยี่สุ่นเหลืองนี่แหละ ตอนสุดท้ายนายคะนังก็ตายด้วยโรคผู้หญิง มีคนจำได้ว่า ตายตอนอายุไม่ถึง 20 ปีเท่านั้น.....
คุณหลวงวรภักดิ์ภูบาล ในฐานะผู้ใกล้ชิดเหตุการณ์สันทัดกรณีเงาะป่ามากกว่าใครคะเนว่า ตอนคะนังตายอายุน่าจะซัก 17 ปี นาวาเอกสวัสดิ์ จันทนี เขียนคำไว้อาลัยทิ้งท้ายกาบมะพร้าวที่เขาประดิษฐ์ประดอยส่งเสริมให้เป็นราชประวัติ เมื่อเขาเลิกใช้ราชประวัตินั้น เขาก็ย่อมเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน เปรียบได้ดั่งกับชีวิตนายคะนัง ที่ต้องตายอย่างผีไม่มีญาติ ใครเขาขี้เกียจเหม็น เขาก็ส่งเจ๊กป๋องแป๋งไปไว้ที่วัดดอน......
“สำหรับนายคะนังจะมีใครเผาแกหรือเปล่า ก็ไม่มีใครเอาใจใส่ อาจจะต้องเผารวมกันพร้อมๆกับศพไม่มีญาติละกระมัง”
Credit : หนังสือนิทานชาวไร่ นาวาเอกสวัสดิ์ จันทนีย์
...............................
รายการ : ข่าวพลังภูผา
Radio online : www.arjanpong.com
FM 89.75 MHz. พระนครศรีอยุธยา
Time : 06.00-08.00 น./17.00-19.00 น ทุกวัน
โทร/line : 0898129392
Email : arjanpong123
วันที่: Fri Nov 15 15:20:14 ICT 2024
|
|
|