*** รองเท้าหน้าห้อง...***
www.arjanpong.com
"ไอ้น้อย เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไม่อยู่ มึงมาเข้าวินเเทนกูด้วยนะโว้ย...."
หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเศษๆ เจ้าของเสื้อวินมอเตอร์ไซค์เบอร์เเปด ปากซอยศุภมิตร ตรงข้ามโรงกษาปณ์ คลองหลวงสิบสาม ปทุมธานี ได้เอ่ยปากขึ้นกับหนุ่มใหญ่วัยไล่เลี่ยกันที่ชื่อน้อย ที่มานั่งคอยนั่งเฝ้าหน้าวินทุกวันเผื่อวันไหนเจ้าของเสื้อวินที่มีธุระ ไม่ว่างมาขับเขาก็จะได้ขอเช่าเสื้อวินขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปขับต่อเป็นวันๆไป ถ้าจะซืือขาดก็ไม่มีปัญญา เพราะเสื้อวินปากซอยนี้ ซื้อขายกันตัวละเป็นเเสนๆ
"ไปกี่วันล่ะพี่พจน์.." ชายหนุ่มร่างผอมสูงผิวคล้ำดำกร้านที่ชื่อน้อย เอ่ยปากถามด้วยเสียงที่เเหบพร่าเเววตาที่ร่วงโรย
"กูจะไปสักสองสามวัน เงินมึงก็ฝากไว้ที่นังเเป๋วเมียกูนั่นเเหละ...เดี๋ยวกูก็มา ไปไม่นานหรอก..
..."
"ขอบคุณครับพี่...." ไอ้น้อยเอ่ยปากขอบคุณหลังจากมองตามหลังวินมอเตอร์ไซค์เบอร์เเปด ขับพาผู้โดยสารวิ่งเข้าไปในซอยจนลับสายตา
ไอ้น้อย..หนุ่มใหญ่จากชัยภูมิ เเอบยิ้มเเห้งๆเหมือนกับจะเยาะเย้ยในโชคชะตาชีวิตของตัวเองที่มันเล่นตลกอะไรกันนักกันหนา บททดสอบเเห่งการอดทนต่อสู้ของชีวิตจากสวรรค์ที่มีต่อมนุษย์ มีบทไหนที่ยังจะพอหลงเหลือให้เขาได้ทดสอบอีกบ้าง มันช้ำมันชินมันยับมันเยินไปซะหมดเเล้ว กับดวงชะตาชีวิตอันบัดซบของเขา ใครจะไปเชื่อ!!..คืนหนึ่งๆเขาเคยหาเงินได้เป้นเเสนๆ เเต่ต้องกลับมารอให้วินว่างเผื่อจะได้พอมีเงินยาใส้ไม่เกินสองร้อยบาทต่อครั้ง
นึกถึงอดึตที่เคยรุ่งโรจน์ คนในเเผ่นดินนี้ไม่ว่าลูกเด็กเล็กเเดงจะมีใครบ้างไหม? ที่จะไม่เคยได้ยินเสียงเพลงของเขา ไม่ว่าจะเป็นตรอกไหนซอยไหน เสืยงเพลงของเขาก็จะเปิดกันให้ลั่นบ้านสนั่นเมือง เพลงลูกทุ่งยอดนิยมประจำปี พ.ศ 2543 โด่งดังเป็นพลุเเตกเเบบม้วนเดียวจบอย่างไร้คู่เเข่ง เงินทองไหลมาเทมายังกะสายน้ำ รถเก๋งรถกระบะหลากรุ่นหลายสีเปลื่ยนเป็นว่าเล่น สุรา นารี ภาชีบัตร สารพัดอบายมุขคลุกเคล้าดื่มด่ำอยู่ทุกคืนทุกวันจนเหลิง...
เงินทองที่หามาได้ก็หร่อยหรอลงไป เหลืออยู่เพียงก้อนหนึ่งก็เอาไปซื้อที่ซื้อทางที่บ้านโปร่งเกตุ หนองหว้า เขาฉกรรจ์ สระเเก้ว จนหมดสิ้น..เพียงเพราะศรรักปักใจผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้านนี้
สาวสวยประจำหมู่บ้านโปร่งเกตุคนนี้เเหละ ที่เขาคิดว่าจะฝากผีฝากไข้ในบั้นปลายของชีวิตไว้ ณ.ที่เเห่งนี้ เงินทองทุกบาททุกสตางค์ที่เขาหามาได้ ก็ซื้อข้าวซื้อของซื้อที่ซื้อทางโดยเป็นชื่อของฝ่ายหญิงทั้งหมดซึ่งเขาเเละเธอก็ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยกัน..เเต่เเล้วความไม่เเน่นอนผันเเปรในชีวตก็เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา..
เเพเเตก!!..ต้องเลิกลาหย่าร้างกันไป เขาออกมาจากผืนดินเเผ่นนั้นด้วยสองมือเปล่า มาอย่างหมาจนตรอก ประชดชีวิตมันดะไปหมด จนสภาพร่างกายทรุดโทรมย่ำเเย่ เบาหวานกำเริบจนเกือบตัดขาตาบอด จนกระทั่งสำนึกได้ว่า "กูจะตายในสภาพนี้ไม่ได้" เขาจึงตัดสินใจฮีดสู้อีกครั้งหลังจากเสียเวลาไปหลายปี....
"จะกลับเเลัวเหรอพ่อน้อย?...." เสียงป้าเเม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยถามขึ้นขณะที่เขากำลังจะสตาร์ทมอเตอร์ไซค์คู่ชีพเก่าๆกลับเข้าไปยังหอพักโทรมๆที่อยู่กลางซอย
"จ่ะป้า..เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเข้าวินเเทนพี่พจน์เขาตอนตีสาม มีอะไรเหรอป้า?...."
"ไม่มีอะไรหรอก..เห็นเมื่อกี๊ลูกค้าที่มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวเขาพูดกันว่ามีข่าวของพ่อน้อยลงหนังสือพิมพ์ด้วย..."
"ฉบับไหนล่ะป้า?.." เจ้าน้อยถามด้วยความสงสัย
"ไทยรัฐ ฉบับเช้าพรุ่งนี้ ไปดูที่หน้าเซเว่นน่ะไป..เด็กเขาเพิ่งเอามาส่งเมื่อกี้เอง.."
"ขอบคุณจ่ะป้า..." เท้าไวเท่าความคิด เจ้าน้อยก็มายืนอยู่ที่หน้าเเผงหนังสือพิมพ์เป็นที่เรียบร้อย เขาไม่รู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นนานสักเท่าไร เขาไม่รู้ว่าเขายืนอ่านข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับเช้าวันที่ 12 มิ.ย 55 ไปกี่ร้อยกี่พันเที่ยว..เเรงที่ยืนอยู่ไม่รู้มันหายไปไหนหมด น้ำใสๆที่อยู่เลาะรอบขอบดวงตาก็ค่อยๆไหลหยดรดร่วงลงมาอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นข่าวพาดหัวของฉบับเช้าวันนั้น...
ฆาตกรรมโหดหมกป่า อดีตเมียนักร้องดัง สายัณห์ นิรันดร
เจ้าน้อยเดินออกมาจากเเผงหนังสือพิมพ์ตั้งเเต่เมื่อไรก็ไม่รูั เขาขับมอเตอร์ไซค์คู่ชีพออกสู่ถนนใหญ่อย่างไร้จุดหมายปลายทาง
"หลับให้สบายเถิด..ที่รัก........"
เสียงสะอื้นเบาๆ จากชายผู้กร้านชีวิตที่กำลังขับรถไปข้างหน้าอย่างลืมตัว ด้วยใบหน้าของความปวดร้าวที่เจ็บลึกสุดใจอยู่ในขณะนี้.............