Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

28.มนต์อาถรรพ์

ArjanPong | 07-12-2560 | เปิดดู 1554 | ความคิดเห็น 0

 *** ตำนานนักรบกรุงศรี...***

28.มนต์อาถรรพ์!!
www.arjanpong.com

"โอมมมมมมม.....
พญาเสือ พญาไฟ นังวา มหาอิทธิฤทธิ์ ภูโต 
นะมะพะทะ เอกะมังสา เตโชคุณัง ประสิทธิยา เสมาธัง 
มาเรยะ มาเรโย มาเรโส นะมะอะอุ สะสะอิอะอินัง 
พยัคฆ์อัคคีกรึง ธะวะรานังงงง......โอมมมมมมม....."

"โฮกกกกก!!..."

สิ้นเสียงสวดคาถาซึ่งเป็นน้ำเสียงของชายลึกลับ ที่ดังเเว่วเเผ่วพลิ้วเย็นยะเยือกลอยละลิ่วปลิวตามลมมา จากทิศทางไหนก็ไม่มีใครเดาถูก?! พร้อมกับเสียงเสือคำรามลั่น!! กลบเสียงหายใจของเหล่าสรรพสิ่งมีชีวิต ท่ามกลางหุบเขา"ดงพญาไฟ"ต้องมีอันหยุดสนิท นิ่ง เเละเงียบลง ยังกับนัดกันไว้อยู่ในขณะนี้!!

"นั่นปะไร!! กูว่าเเล้ว ประเดี๋ยวมันก็มา!!...."
"ไอ้มาด งานนี้มึงไม่ต้อง!!..."

เจ้าทุ้ยกล่าวจบ ก็ใช้มือกดเบาๆลงไปที่หัวไหล่ของเจ้ามาด ที่ทำท่าจะขยับลุกขึ้นนั่ง เเละในขณะเดียวกันที่ เพื่อนร่วมคิด มิตรร่วมตาย ที่ยังคงเหลืออยู่ ต่างก็ขยับกันเข้ามารวมกลุ่มกันใกล้ๆ กองไฟ ที่อยู่ตรงหน้าที่พักเพิงหมาเเหงนของพระเชียงเงิน กันอย่างราวกับนัดกันไว้!!

"นังเดือน!! ลูกธนูเงินเหลือกี่ดอก?!!..."
" สาม จ้าอา.."

เด็กสาวตัวเล็กๆ ที่โพกหัวด้วยผ้าสีดำเก่าๆ ที่อยู่ในชุดพรานป่า หน้าตาขมุกขมอม ที่มีฝีไม้ลายมือในด้านการยิงธนูมือฉมัง เกินความสามารถของเด็กหนุ่มสาวในรุ่นราวคราวเดียวกัน กล่าวจบก็รีบเดินมาพร้อมกับ"ไอ้กรด" หนุ่มนักรบนิรนามจากคลองหันตรา ที่สาวเท้ายาวๆกึ่งเดินกึ่งวิ่ง พร้อมกับยื่นลูกธนู 3 ดอก ไปให้เจ้าทุ้ยเมื่อมาถึง

"ไอ้กรด!! มึงพาไอ้มาดไปรวมกลุ่มกันที่กองไฟใหญ่นั่น!! เเล้วบอกทุกคน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าได้ออกไปห่างจากกองไฟเป็นอันขาด!!..."

กล่าวจบ เจ้าทุ้ยก็หันหน้าไปทางทิศตะวันตกของหุบผาพญาไฟ ก่อนที่จะพนมมือหลับตาร่ายมนต์คาถาด้วยเสียงอันดัง พร้อมกับลูกธนูที่ทำด้วย"เงิน"ล้วนๆ 3 ดอก ที่รับมาจากเด็กสาวที่ชื่อเดือน

"วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม
ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม
มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก
มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท
สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา

อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง...สาาาาาาธุ!!....

สิ้นเสียงพระคาถาพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่เจ้าทุ้ยได้ตั้งจิตสวดบริกรรมพระคาถา ด้วยเสียงอันก้องกังวาล สะท้านไปทั่วหุบผาพญาไฟ เหมือนกับเป็นการท้าทายให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่า ข้านี่พร้อมเเล้ว!!

"ไอ้กรด!! มึงลากไอ้มาดไปนอนอยู่ตรงใต้ต้น"สะบ้า"นั่น เเล้วตัดเอาเครือเเก่ๆ มาสุมไฟให้มัน ไม่ต้องมาก.."
"ไป!! นังเดือน ไปกะข้า!!......"

กล่าวจบ เจ้าทุ้ยที่เคยมีท่าทีกริยาพูดจากวนๆ มาบัดนี้ กล่าวเป็นงานเป็นงาน สงบนิ่ง เเต่ดวงตากลับฉายเเววเเห่งเลือดนักสู้อย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับค่อยๆย่างก้าวออกไปจากเเนวที่พักอย่างช้าๆ พร้อมกับนังเดือน ที่บัดนี้ได้ปลดคันธนู ขึ้นสายเตรียมพร้อม ที่จะสู้กับสิ่งลี้ลับอย่างไม่หวั่นไหว

ไอ้กรดประคองปีกเจ้ามาดเข้ามาในกลุ่ม พร้อมกับบอกทุกๆคนตามที่เจ้าทุ้ยสั่งเอาไว้ ก่อนที่จะวางเจ้ามาดไว้ตรงต้นสะบ้าใหญ่ใกล้กองไฟ โดยเลือกให้อยู่ทางใต้ลมของคนอื่นๆ

"ทำไมเอาข้ามานอนตรงนี้ล่ะ?!!.."

เจ้ามาดถามด้วยความสงสัย

"การเข้าตีค่ายศัตรูในเวลาก่อนย่ำรุ่ง โบราณเขาจะใช้เถาสะบ้าแห้งสุมไฟให้เกิดควันเหนือลมของค่ายที่จะเข้าตี คนทีสูดควันจากการเผาเถาสะบ้าจะง่วงและหลับเป็นตาย แต่ไม่ถึงกับสลบ...."

"หมายความว่า??.."

"ใช่!! พี่ทุ้ยเขาไม่อยากให้พี่มาดสร้างเรื่องสร้างราว เหมือนคราวที่หนีเจ้างูยักษ์ตอนออกจากถ้ำเสียกระมัง?....."

พูดจบ นักรบนิรนามจากคลองหันตรา ก็เดินเข้าไปยังใต้ต้นสะบ้า มองหาเศษเถาสะบ้าเเห้งที่หล่นอยู่อย่างมากมาย เเล้วก็เลือกมาได้ขนาดกำใหญ่ๆ ก่อนที่จะเดินกลับมาที่กองไฟ เมื่ดจุดจนติดเเล้ว ก็มาวางไว้เหนือลมใกล้ๆหัวของเจ้ามาด

"เเล้วเมื่อกี้เจ้าทุ้ย มันสวดคาถาอะไร เอ็งพอรู้หรือเปล่าเจ้ากรด??.."

เจ้ามาดถามคำถามเเบบชวนคุย เพื่อจะได้รู้จักหนุ่มนิรนามคนนี้ให้ดียิ่งขึ้น

"ขันธะปะริตตะคาถา!! พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาแต่ครั้งพุทธกาล พระโบราณจารย์นิยมใช้สวดสาธยายเมื่อออกจาริกธุดงค์ไปในป่าเขาลำเนาไพร เมื่อครั้นพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ได้ทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลาย เเผ่เมตตาพระคาถานี้ เพื่อคุ้มครองตน เพื่อรักษาตน เพื่อป้องกันตน..."

เจ้ามาดหันมามองใบหน้าของหนุ่มนิรนามคนนี้อย่างประหลาดใจ ใบหน้า ท่าทาง คำพูดคำจา วิชาความรู้ที่พูดออกมา นี่มันไม่ใช่คนบ้านป่าบ้านดงเเล้วละนี่?!!

"เเล้วลูกธนูเงินล่ะ? มันคืออะไร??..."

เจ้ามาดถามคำถามอีก ดูซิว่าไอ้หนุ่มคนนี้มันจะจนเเต้มมั๊ย??...

"จุดอ่อนของเสือสมิงนั้น อยู่ตรงที่ร่างกายของเสือสมิง จะพ่ายแพ้อาถรรพณ์ของอาวุธที่ทำจากเงินบริสุทธิ์ ดังนั้น พรานป่าและหมออาคมแก่กล้าแต่โบราณจะรู้ดีว่าหากจะฆ่าเสือสมิง จะต้องใช้เงินบริสุทธิ์ที่ทำเป็นหัวกระสุน หรือหัวของธนู ยิงให้โดนตรงบริเวณหัวใจของมันเท่านั้น

หากในกรณีที่เสือสมิงแปลงร่างกลายเป็นคน ตะกร้าหรือคบเพลิงที่มันถือมา คือส่วนหัวใจของเสือสมิง ต้องยิงไปให้โดนจุดนั้นมันจึงจะตาย หากยิงไปโดนจุดอื่น เช่น ตัวแขนขาของคนที่ถือคบเพลิงมา จะไม่โดนหัวใจของเสือสมิง อาจทำได้แค่ทำให้มันบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ถึงกับชีวิต เหมือนกับคราวที่หนูเดือน ยิงมันพลาดเมื่อคราวที่เเล้วนั่นไง!!..."

ลึกจริงๆไอ้หนุ่มคนนี้ เจ้ามาดนึกไม่ถึงเลยว่า จะได้มาเจอผู้รอบรู้อย่างเเตกฉานกลางป่ากลางเขาเยี่ยงนี้!!

"เออ พี่มาด...รางจืดที่พี่ขยี้เเล้วเอามาเเปะไว้ตรงจมูกเมื่อกี้น่ะ มันไม่ได้ช่วยทำให้พี่พ้นจาก"เถาสะบ้าเเห้ง"สุมไฟได้หรอกพี่!!..."

กล่าวจบ นักรบนิรนามจากคลองหันตรา ก็ยิ้มๆเเล้วค่อยๆลุกขึ้น เพื่อจะเดินเข้าไปยังกลุ่มใหญ่ ตรงหน้าที่พักของพระเชียงเงินที่อยู่ติดกัน..."

"เดี๋ยวววว เจ้ากรด!! คำถามสุดท้าย!!...."
"เอ็งเข้ามาอยู่ทัพพระยาตาก เพื่อต้องการอะไร?!!..."

หนุ่มนิรนามค่อยๆหันหน้ากลับมาประสานตาจ้องมอง ดวงตาที่เคยใสซื่อบริสุทธิ์ของมัน บัดนี้กลับกลายมาเป็นสายตาที่เจ้ามาดเองก็อ่านไม่ออกเหมือนกัน ก่อนที่นักรบนิรนามจากท้องทุ่งหันตรา จะเดินออกไปอย่างไม่สนใจในคำถามของเจ้ามาดเเม้เพียงสักนิด!!...."

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 12:25:19 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>