25.ออกไปช่วยมัน!!
"ไอ้นี่มันบ้า!! กูไม่เคยพบเคยเห็น มีคนเเต่เพียงเท่านี้ ริหาญหันหน้าต่อกรกับกองม้าทะลวงฟันอังวะเป็นร้อย เพี้ยนเเล้วมึง!!..."
หนุ่มวัยกลางคน ผิวคล้ำ หนวดเข้ม ที่ในขณะนี้นั่งอยู่บนคอช้างป่างางาม เเอบหลบซุ่มนิ่งเงียบอยู่ข้างทางป่าทึบ พร้อมด้วยชาวบ้านที่อาสาออกรบร่วมร้อย ที่กระจายกำลังกันอยู่ทั้ง 2 ข้างทาง ซึ่งในขณะนี้ได้เห็นภาพของพระยาตาก เเละเหล่านักรบเดนตายไม่กี่คน ได้หันกลับหลังมุ่งหน้าเข้าประจัญบาน กับกำลังส่วนหน้ากองม้าทะลวงฟันอังวะ ที่ไล่ติดตามบดขยี้มาตั้งเเต่บ้านโพธิสังหาร จนกระทั่งมาทันที่บ้านนา หวังจะหิ้วหัวพระยาตากไปฝาก"มองย่า" ผู้บัญชาการกองทะลวงฟัน มือขวาของ "เนมโยสีหปะเต๊ะ" เเม่ทัพใหญ่เเห่งค่ายโพธ์สามต้นของอังวะให้จงได้!!
หนุ่มผิวคล้ำ หนวดเข้ม ที่เเอบซุ่มนั่งอยู่บนคอช้างป่าด้วยอาการสงบอยู่ในขณะนี้ เขายอมรับเลยว่า ไม่เคยเห็นกองกำลังไหนจะบ้าดีเดีอดได้ถึงขนาดนี้? รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางที่จะชนะได้เลย เเล้วไอ้กลุ่มพวกนี้ มันมีอะไรยึดถือยึดมั่นมีค่าสูงสุดยิ่งกว่าชีวิตของพวกมัน? ถึงได้ยอมตายถวายชีวิตให้?!!
ม้าผอมๆ 4 ตัว กับนักรบที่อ่อนล้าโรยเเรงไม่กี่ 10 คน ที่ขณะนี้พุ่งเข้าปะทะกองกำลังอังวะอย่างบ้าคลั่ง อยู่ตรงกลางวงล้อมของนักรบ"บ้านนา"ของเขาพอดี เพราะก่อนหน้านี้ หน่วยเสือหมอบเเมวเซาหาข่าวของเขา ได้ส่งข่าวเเจ้งให้ทราบว่า ได้มีกองกำลังจากกรุงศรีไม่ทราบเป็นผู้ใด?กำลังมุ่งหน้าเดินทางตรงเข้ามายัง "บ้านนา"ของพวกเขา หนุ่มผิวคล้ำ หนวดเข้มคนนี้ จึงนำกองกำลังอาสาชายที่ในหมู่บ้าน ออกมาคอยตั้งรับขับไล่ เพื่อให้กองกำลังจากกรุงศรีกลุ่มนี้ หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
"โช๊ะ!!.."
เสียงดาบในมือของชายร่างเล็ก ที่นั่งอยู่บนหลังม้าได้ฟาดฟันลงไปอย่างสุดเเรงเกิด เข้าตรงใบหน้าของนักรบหนุ่มกองม้าทะลวงฟันอังวะผู้โชคร้ายคนนั้น อย่างพอดิบพอดี!! เลือดพุ่งกระฉูดพร้อมกับร่างของมัน ก็กระเด็นร่วงหล่นจากหลังม้าในทันที!!
"สวบบบบบบ!!.."
เสียงทวนบนหลังม้า ที่กำลังเเหวกอากาศพุ่งตรงมายังทางด้านหลังของชายร่างเล็กบนหลังม้าคนนั้น บัดนี้!! เหลืออีกไม่ถึงวาก็จะพุ่งเสียบทะลุคอด้านหลังอย่างเเม่นยำเเน่นอน เเต่ทว่าชายร่างเล็กคนนั้น กลับฟุบตัวลงไปบนเเผงคอม้าทันที ปล่อยให้เจ้าทวนเพชรฆาตพุ่งผ่านเลยไปอย่างหวุดหวิด ก่อนที่เขาจะตวัดดาบกลับหลังสวนขึ้นมาทันทีทันใด โดยที่ไม่ได้หันมามอง!! เเต่ทว่าปลายคมดาบเล่มนั้น ได้เสยเข้าปลายคางของนักรบอังวะผู้โชคร้ายคนนั้นอย่างพอดิบพอดี พร้อมกับร่างของมันที่คอหวิดขาด จะค่อยๆร่วงหล่นลงมาจากหลังม้าอย่างช้าๆ พร้อมๆกับม้าที่วิ่งเตลิดเปิดเปิงอย่างไร้ทิศไร้ทาง!!
"กูว่ามึงไม่ไหวดอกว่ะ?!!.."
กล่าวจบ หนุ่มผิวคล้ำ หนวดเข้ม ก็หยิบ"หน้าไม้"ที่เสียบอยู่ตรงซองหนังวัว ข้างคอช้างขึ้นมา ก่อนที่จะดึงสายเอ็นยิง มารั้งไว้ที่สลักไก เเล้ววางลูกศรลงตรงลำกระบอกที่บากเป็นร่องยิง พร้อมกับเล็งเป้าหมายไปที่ นักรบอังวะร่างใหญ่ใส่เกราะเหล็ก คะเนว่าอยู่ห่างไม่ต่ำกว่า 80 วา ที่กำลังควบม้าสีดำตัวเขื่องพุ่งเข้าใส่ หลวงพรหมเสนา ทางด้านข้าง ที่ในขณะนี้ กำลังรบประชิดติดตัวดาบต่อดาบกับคู่ต่อสู้ โดยที่ไม่ได้ทันระเเวดระวังภัยที่กำลังพุ่งเข้าใส่ทางด้านข้าง
"อย่างมึงต้องยัดห่าด้วยไอ้นี่!!.."
"ป่อกกกก!!.."
เสียงสลักไกสับลงไปตรงลำกระบอกยิง ก่อนที่ลูกธนูจะพุ่งเข้าสู้เป้าหมายอย่างรวดเร็วและแม่นยำ!!
"ฉึกกกก!!..."
"อั๊คคคค!!
ร่างของนักรบอังวะตัวใหญ่ใส่เกราะเหล็ก บนม้าสีดำตัวเขื่อง สะดุ้งขึ้นสุดตัว!! เมื่อลูกศรจากหน้าไม้ของหนุ่มใหญ่ ที่ขี่ช้างหลบอยู่ในดงป่าข้างทาง ได้ทะลุทะลวงเสื้อเกราะเหล็กปักเข้าที่กลางยอดอกได้อย่างเเม่นยำ!! ก่อนที่ร่างใหญ่ใส่เกราะเหล็กนั้น จะร่วงหล่นจากหลังม้าลงสู่พื้นดินในทันที...
"ใครช่วยกูวะ?!!.."
หลวงพรหมเสนา ระเบิดเสียงออกมาอย่างดัง ในขณะที่กำลังตั้งรับเพลงดาบของศัตรู ที่โหมกระหน้ำรุกไล่ฟันเเทงอย่างมีชั้นมีเชิงอยู่บนหลังม้าด้วยกันทั้งคู่
"เเปร๋นนนนนน!!....."
เสียงโกญจนาทของช้างป่าที่เเผดก้องไปทั่วพงไพรในขณะนี้ นั่นคือสัญญาณการเข้าบุกโจมตีของนักรบอาสาชาว"บ้านนา" ที่เเอบซุ่มนิ่งเงียบเกือบ 100 ชีวิต อยู่ทั้ง 2 ข้างทางป่าทึบ ที่ส่งเสียงโห่ร้องดังลั่น พร้อมกับพุ่งเข้าขยี้กองกำลังอังวะอย่างเเค้นจัด
กองกำลังของพระยาตาก ที่กำลังจะเพลี่ยงพล้ำในตอนเเรก บัดนี้กลับมีพลังหึกเหิม วิ่งเข้าโรมรันพันตูผู้รุกรานอย่างไม่กลัวตายถวายชีวิต ต่างก็พุ่งกระโจนใส่เหล่ากองมัาทะลวงฟันอังวะอย่างไม่คิดเกรงกลัว ธนูไฟจากนักรบบ้านป่าดอกเเล้วดอกเล่า ที่พุ่งปักไปยังเหล่าอริราชศัตรู ร่วงหล่นจากหลังม้าดั่งกับใบไม้ร่วง!! ยิ่งหัวหน้าใหญ่ใส่เกราะเหล็กสิ้นชีพไปเเล้วด้วย ขวัญเเละกำลังใจของเหล่านักรบอังวะบัดนี้ เเทบจะไม่มีเหลือที่จะต่อสู้อีกต่อไปเเล้ว
"เเมบยูเมย พยันไล โซเต๊กวอออออๆๆๆๆ!!.."
เสียงตะโกนให้ถอยของรองหัวหน้าเหล่ามัาทะลวงฟันอังวะ ที่บัดนี้ได้สั่งบัญชาการให้ทุกคนถอยร่นกลับไปก่อน เพราะในเวลาย่ำค่ำอย่างนี้ ไม่สามารถจะล่วงรู้หรือคาดคะเนได้เลยว่า กองกำลังที่ดักซุ่มอยู่ข้างทาง มีมากน้อยสักปานใด
"เเปร๋นนนนน!!...."
เสียงเเผดร้องของเจ้าพลายป่างางาม ที่ตะโกนกึกก้องร้องไล่ม้าตัวสุดท้ายของกองทะลวงฟันอังวะ ที่ห้อตะบึงกลับหลังหัน ควบหนีอย่างไม่คิดชีวิต!!
ทัพของพระยาตากที่เหลือ ต่างก็พากันลดอาวุธเเล้วทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวหมดเเรง ในขณะที่หลวงพรหมเสนา กับหลวงพิชัยอาสา ได้กระโดดลงจากหลังม้า รีบไปดูอาการของเหล่าเพือนที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ ว่ามีใครเป็นอะไรกันบ้าง ในขณะที่ พระยาตาก กับ หลวงราชเสน่หา ยังคงนั่งอยู่บนหลังม้า ประจันหน้าอยู่กับ หนุ่มใหญ่ ผิวคล้ำ หนวดเข้ม ที่นั่งอยู่บนคอช้างพลายป่างางาม ห่างกันไม่ถึง 10 วา
"ข้าขอขอบใจ ที่เจ้าได้ออกมาร่วมรบเมื่อสักครู่ พวกเจ้าเป็นใคร? มาจากบ้านไหน?.."
พระยาตาก เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เเต่สายตาประกายเเวววาวด้วยเเสงเเห่งความเป็นมิตร
"เเล้วพวกมึงล่ะเป็นใคร? จะไปไหน?!!...."
เสียงของ หนุ่มใหญ่ ผิวคล้ำ กล่าวตอบเเละถามมาด้วยน้ำเสียงอันดัง ด้วยสายตาเเห่งความหวาดระเเวง เเสดงอาการไม่ไว้ใจอย่างเห็นได้ชัด!!.......
วันที่: Fri Nov 15 12:50:30 ICT 2024
|
|
|