18.มนต์สมิงพราย!!..
"มึงยังเจ็บอยู่ ยังไม่ต้องไป เดี๋ยวกูไปเอง!!.."
กล่าวจบ ไอ้ทุ้ยก็ค่อยๆยันตัวลุกขึ้น พร้อมกับกระชับ"ดาบหน้าบัว"อันเป็นอาวุธประจำกาย ที่มันทำขึ้นมาด้วยต้วของมันเอง จากด้ามไม้คูณตายพราย ถักเชือกแบบลายตะกรุต โอบรัดมัดตรึงกับเหล็กน้ำพี้ ที่รมเขียวเเละชุบเเข็ง เเสดงให้เห็นถึงฝีไม้ลายมือของช่างตีดาบจากบ้านระเเหง ว่าสุดยอดในเเผ่นดินสักเพียงใด!!
ไอ้ทุ้ยค่อยๆย่องหมอบต่ำไปที่กองไฟอยู่ตรงปลายตีนของคนทั้งสอง ซึ่งขณะนี้ไฟกินฟืนจนเกือบจะมอดมืดมิดไปหมดเเลัว มันค่อยๆเขี่ยขี้เถ้าตรงกลางออก โดยที่สายตาของมัน ก็ยังคงจับจ้องมองเข้าไปยังในป่าทึบ สลับกับการเหลือบมองมือที่กำลังใช้เศษไม้ เขี่ยกองไฟเเล้วก็ใส่เศษฟืนกำใหม่เข้าไป พร้อมกับเป่า พรวดๆอยู่ตลอดเวลา
การเดินทัพหรือการรอนเเรมอยู่ในป่านั้น สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะขาดเสียมิได้ นั่นก็คือการ"ก่อกองไฟ" ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถให้ทั้งแสงสว่าง ความอบอุ่น หรือใช้หุงต้มอาหารได้เป็นอย่างดี ซึ่งการทำเช่นนั้นจะต้องมีความรู้เเละประสบการณ์การก่อกองไฟ อันเป็นสิ่งที่พรานป่า หรือนักเดินทัพต้องมีติดตัว...
ประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่นในการเลือกฟืนมาก่อไฟ ของบรรพบุรุษที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาบ้านป่า มายังลูกหลาน จากปากต่อปาก โดยมิได้จารจารึกเอาไว้เป็นตำราของเเผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็น
- เลือกกิ่งไม้เล็กๆ แห้งๆ หรือไม้ที่แห้งคาต้น เพราะจะติดไฟได้ง่าย
- หากเป็นไม้ท่อนใหญ่ ก็ผ่าออกเป็นซีก ซึ่งการผ่าออกเป็นซีกนั้น จะทำให้ติดไฟได้ง่ายขึ้น
- หากไม้เปียก ผ่าออกแล้วนำไปตากแดด เพื่อที่จะแห้งได้ไวและติดไฟง่ายขึ้น
- การเลือกพื้นที่ ต้องเป็นบริเวณที่โล่ง แห้ง ห่างจากต้นไม้ เเละเก็บกวาดหญ้าแห้งรอบๆ เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟ
- นำฟืนมากองสุมเป็นรูปกระโจม
- จุดไฟแหย่เข้าไปตรงช่องกระโจม
- เมื่อไฟติดดีแล้วจึงใส่กิ่งไม้ที่ใหญ่ขึ้น
หรือจะเอาฟืนมาก่อเป็นแบบเชิงตะกอนก็ได้ โดยการนำท่อนฟืนใหญ่มากองเรียงกันเป็นชั้นๆ ส่วนฟืนท่อนเล็กๆ จะอยู่ข้างล่าง การก่อกองไฟแบบนี้จะให้ความร้อนมากและให้แสงสว่างดี
หรือจะก่อกองไฟแบบไฟดาวก็ได้ โดยการนำท่อนไม้มาวางเรียงซ้อนกัน ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายซี่ล้อของเกวียน การก่อกองไฟแบบนี้จะทำให้ไฟมีเปลวเพื่อให้แสงสว่างและความอบอุ่นมากที่สุด.....
ไอ้มาดก็ได้เเต่นอนตะเเคงยิ้ม กับภาพที่มันกำลังเห็นอยู่นั้น ไอ้ทุ้ยมันก็พยายามเป่าไปสลับเหลือบมองไปอยู่ตลอดเวลา เหมือนประหนึ่งว่า มันกำลังกลัวอะไร?!!..
"พี่มาด!!.."
เสียงกระซิบเบาๆที่เเว่วหวิวลอยปลิวมาจากข้างหลัง ทำให้ชายหนุ่มจากคลองข้าวเม่า สะดุ้งโหยงสุดตัว!! ไม่มีทางเลยที่ในชีวิตนี้ของมัน จะลืมเสียงนี้ไปได้!! มันรีบหันขวับมายังต้นเสียงที่อยู่ทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว เมื่อสายตาเริ่มปรับสภาพกับความมืดมิดที่อยู่ตรงหน้านั้นได้ ห้วใจของมันที่เต้นเเรงอยู่เเล้ว ก็เเทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ!!..
ภาพที่เห็นลางๆอยู่ตรงหน้าของมันไม่ถึง 10 วา อยู่ในขณะนี้นั้น คือภาพเมียรักที่กำลังกวักมือเเละส่งยิ้มมาให้
"อีโพ!! มึงมาได้ไง?!!.."
เสียงถามเบาๆด้วยความลิงโลดใจของชายหนุ่ม ที่นึกไม่ถึงว่าเมียรัก จะติดตามเขามาด้วยความรวดเร็วขนาดนี้ ไอ้มาดพยายามค่อยๆประคองตัวยันกายลุกขึ้น เเล้วจึงเดินเข้าไปหา หวังจะสวมกอดเมียรัก เเล้วตวัดโอบกอดเอาไว้ เพื่อจะให้ร่างนั้นอยู่ในอ้อมเเขนให้นานเเสนนานที่สุด ให้สมกับความคิดถึงเเละเป็นห่วง โดยที่มันเดินเข้าไปหาเมียรักด้วยตัวเปล่า ลืมเเม้กระทั่งดาบคู่ที่เป็นอาวุธประจำกายที่ติดตัวมันอยู่ตลอดเวลาไปเสียสนิท!!
"เฟี้ยวววววววว..."
"ฉึกกกก!!.."
"กริ๊ดดดดด!!........"
เสียงลูกธนูขนาดใหญ่ ได้หวีดหวิวเเหวกอากาศ พุ่งเข้าหาเป้าหมายกึ่งกลางหน้าผากได้อย่างเเม่นยำ ไอ้มาดตกตะลึงอ้าปากค้างกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า เมียรักโดนลูกธนูเต็มๆก่อนที่จะกรีดร้องเเล้วหันหลังวิ่งเข้าไปในป่าทึบ ก่อนที่จะหายต้วไปในความมืดอย่างรวดเร็ว!!...
ชายหนุ่มหันควับกลับมาด้วยความโกรธอย่างถึงที่สุด!! ก่อนที่จะตะโกนถามขึ้นอย่างสุดเสียง..
"ใครยิงเมียกู๊?!!......"
วันที่: Fri Nov 15 14:58:34 ICT 2024
|
|
|