" พี่น้อย เป็นอะรั๊ยยย?!!...."
เสียงของน้าออน เจ้าของร้านเสริมสวย ซอยช่างกลปัญจะ เเถวๆสะพานควาย ร้องลั่นกลางดึก
เมื่อได้เห็นสภาพของพี่น้อยของเธอ นอนหมดสติน้ำลายฟูมปากตาค้างอยู่ข้างหน้า เเขนขาไม่ขยับเขยื้อนลมหายใจอ่อนรวยริน ชีพจรเต้นช้า อาการเป็นตายเท่ากัน ไวเท่าความคิดเธอรีบเเจ้งไปยังตำรวจ 191ประสานงานไปยังรถพยาบาลพาพี่น้อยส่ง ร.พ วชิระ ในชั่วพริบตา
น้อย ทองใจ เด็กหนุ่มจากอัมพวา เเม่กลอง ผู้เป็นเตี่ยเป็นชาวจีนเเซ่ทอง ต่อมาก็เปลี่ยนนามสกุลมาเป็นทองใจหลังจากสิ้นเตี่ยเเล้ว น้อยกับเเม่ก็พากันอพยพมาอยู่ที่มหาชัย ทำมาค้าขายเล็กๆน้อยๆอยู่เเถวท่าเรือวัดตึกกับสถานีรถไฟ โดยมีเจ้าน้อยคอยเป็นหัวเรี่ยวหัวเเรงเดินขายของตามเเม่ติดๆ เรียกว่าติดเเม่เเจเลยว่างั้น
จนกระทั่งเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่มรุ่นกระทง เจ้าน้อยก็เป็นเด็กหนุ่มที่ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ งานวัดประจำปีที่ไหนเขาไม่เคยพลาดในการที่จะสมัครเข้าร่วมเเข่งขันประกวดร้องเพลงด้วยทุกครั้งไป โดยเฉพาะงานประจำปีที่วัดโกรกกรากเขาจะชนะเลิศทุกครั้ง เพลงปราบเซียนที่เขาใช้เข้าประกวดคือเพลงค่ำเเล้วในฤดูหนาวของ ล้วน ควันธรรม จนคณะกรรมการตัดสินต้องขอร้องไม่ให้เขาเข้าประกวด เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้รับรางวัลบ้าง เเละก็เชิญให้เขามาเป็นกรรมการตัดสินด้วยกันซะเลย
จนกระทั่งครู ชาญชัย บัวบังศร เห็นเเวว จึงฝากให้ไปร้องเพลงอยู่ที่ภูเก็ตหลายปี จึงกลับเข้ามากรุงเทพฯ เข้ารับราชการทหารที่ ขสทบ. ได้ยศสิบตรี เเละได้เป็นนักร้องประจำวงมาตุลี ของขสทบ. ซึ่งสิบเอก สิทธิ์ โมกรกานต์ หัวหน้าวงได้พาไปรู้จักครูเบญจมินทร์ ฝากฝังเจ้าน้อยให้เป็นลูกศิษย์ลูกหาจนครูเเต่งเพลงให้รัองชื่อเพลง ทุยหน้าทื่อ บันทึกเเผ่นเสียงเป็นเพลงเเรกในชีวิต เมื่อปี พ.ศ 2499 ก่อนที่ครูจะไปสงครามเกาหลี
ไม่มีคนวิ่งเเผ่นไม่มีคนวิ่งเชียร์ เพลงทุยหน้าทื่อ ก็เลยไม่เเจ้งเกิดในวงการ เงียบหายไปกับสายลมอย่างน่าเสียดาย จนกระทั่งครูเบญจมินทร์ กลับมาจากสงครามเกาหลี ครูก็เเต่งเพลงมาด้วย 4 เพลง มีเพลง รำเต้ย,รักเเท้จากหนุ่มไทย 2 เพลงนี้ครูร้องเอง เสียงครวญจากเกาหลี ครูให้ สมศรี ม่วงศรเขียว เป็นผู้ร้อง เเละอีกเพลง โปรดเถิดดวงใจ เอามาให้เจ้าน้อยโดยเฉพาะเเล้วก็เปลี่ยนชื่อจาก น้อย ทองใจ มาเป็น ทูล ทองใจ
เมื่อเปิดทางวิทยุปรากฎว่าดังทุกเพลง เเละเป็นตำนานเพลงลูกทุ่งทั้ง 4 เพลงจนกระทั่งปัจจุบัน โดยเฉพาะ ทูล ทองใจ นั้นดังมากซึ่งต่อมาภายหลัง ครูก็นำไปฝากกับวงจุฬารัตน์ ของครูมงคล อมาตยกุล ยิ่งดังกันเข้าไปใหญ่ เพราะได้เพลงหนุนจากครูมงคลเเละครู ไพบูลย์ บุตรขัน อัดซ้ำกระหน่ำเข้าไป ดังเปรี้ยงปร้างจนฉุดไม่อยู่กันเลยทีเดียว เเละที่วงนี่เอง ทูล ทองใจ ก็ได้พบกับคู่ชีวิตที่เป็นนักร้องอยู่ที่วงนี้เหมือนกัน นั่นก็คือ นวลสวาท ชื่นชมบุญ ทั้งคู่ตกร่องปล่องชิ้นใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจนมีพยานรัก 3 คนเป็นหญิง 2 ชาย 1 แล้วจึงเเยกออกมาทำวงเป็นของตัวเองเมื่อปี พ.ศ 2511 เเละยุบวงในปี พ.ศ 2515 เเต่ก็ยังคงรับเชิญร้องตามสวนอาหาร คาเฟ่ ต่างๆอยู่เสมอทั้ง 2 คน
กระทั่งวันที่ 30 มกราคม พ.ศ 2538 ทูล ทองใจ ก็ได้เดินทางไปยังร้านเสริมสวย น้าออน ซึ่งถือเป็นเพื่อนสนิทที่คอยดูเเลซึ่งกันเเละกันในยามบั้นปลายของชีวิต โดยในวันนั้นเขาได้ทำหล่อ เสริมสวย ทำเล็บมือเล็บเท้า ดัดผมให้เป็นลอนหยักศก หล่อชนิดที่เรียกว่าเขาไม่เคยทำมาก่อนเลย ตกเย็นก็กินข้าวกับผัดคะน้าหมู ปลาทู ปลาสลิด เเล้วเข้านอนตั้งเเต่หัวค่ำ จนตกดึก น้าออนต้องสะดุ้งตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงเขาหายใจติดๆขัดๆ จนกระทั่งธาตุไฟเเตกต้องหามส่ง ร.พ กันจ้าละหวั่น
1 กุมพาพันธ์ พ.ศ 2538 เวลา 20.05 น. ทูล ทองใจ ก็จากมิตรรักนักฟังเพลงไปอย่างสงบ ด้วยโรคความดันโลหิตสูงจนเส้นโลหิตฝอยในสมองเเตก เลือดคั่งในสมอง ด้วยวัยเพียง 67 ปี ท่ามกลางความสูญเสียของวงการเพลงลูกทุ่งอย่างที่สุด
" พี่น้อย...หลับให้สบายนะ....เดี๋ยวฉันกับลูกๆ จะปั้นหุ่นของพี่ไว้ที่วัดภุมรินทร์กุฏีทอง อัมพวา บ้านเกิดของพี่ เเละพี่จะได้กลับไปอยู่ที่นั่นตลอดไป........."
นวลสวาท ชื่นชมบุญ ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเขา กระซิบข้างหูเบาๆก่อนที่จะซบอกร้องไห้อย่างไม่อายใครอยู่บนร่างของ ทูล ทองใจอยู่นานเเสนนาน..............
วันที่: Fri Nov 15 14:44:11 ICT 2024
|
|
|