Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

วาจาของสะใภ้ใหม่

ArjanPong | 09-09-2557 | เปิดดู 4799 | ความคิดเห็น 0

  

วันอังคารที่ 16 กันยายน 2557 เป็นวันแรม 8 ค่ำ เดือน 10

 

 


 

                      

 

 

  

 

 

 

 

วาจาของสะใภ้ใหม่

 

 
ภิกษุทั้งหลาย. ! เปรียบเหมือนหญิงสะใภ้ใหม่
อันเขาเพิ่งนำมาชั่วคืนชั่ววัน
ตลอดเวลาเท่านั้น ก็ยังมีความละอาย
และความกลัวที่ดำรงไว้ได้อย่างเข้มแข็ง
ในแม่ผัวบ้าง ในพ่อผัวบ้าง ในสามีบ้าง
แม้ที่สุดแต่ในทาสกรรมกรคนใช้.
 
ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น
เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน
หญิงสะใภ้นั้น
ก็ตวาดแม่ผัวบ้าง พ่อผัวบ้าง แม้แต่กะสามีว่า
“หลีกไป ๆ พวกแกจะรู้อะไร”
นี้ฉันใด;

ภิกษุทั้งหลาย. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น :
ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้
ออกบวชจากเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือนได้ชั่วคืนชั่ววัน
ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น
หิริและโอตตัปปะของเธอนั้น
ยังดำรงอยู่อย่างเข้มแข็ง
ในภิกษุ ในภิกษุณี ในอุบาสก ในอุบาสิกา
แม้ที่สุดแต่ในคนวัดและสามเณร.

ครั้นล่วงไปโดยสมัยอื่น เพราะอาศัยความคุ้นเคยกัน
เธอก็กล่าว ตวาดอาจารย์บ้าง อุปัชฌาย์บ้างว่า
“หลีกไป ๆพวกท่านจะรู้อะไร” ดังนี้.

ภิกษุทั้งหลาย. ! เพราะเหตุนั้นในเรื่องนี้
เธอทั้งหลายพึงทำการฝึกหัดศึกษาอย่างนี้ว่า
“เราจักอยู่อย่างมีจิตเสมอกันกับหญิงสะใภ้ใหม่
ผู้มาแล้วไม่นาน” ดังนี้.
จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๐๐/๗๓

 

 

 

พุทธวจน

อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี
ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย
ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย
โดยกาลล่วงไปแห่งเรา

มหา. ที. ๑๐/๑๕๙/๑๒๘.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                      อินโดฯล้มโครงการซื้อรถหรูรับครม.ใหม่

 

 

เลขาธิการ ครม.อินโดฯสั่งล้มโครงการซื้อรถเบนซ์ประจำตำแหน่ง ครม.ชุดใหม่ หลังว่าที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซียลั่นอยากให้ใช้รถประจำตำแหน่งคันเดิม เพื่อประหยัดเงินงบ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.ย.) ว่านายซูดิ ศิลาลาฮี เลขาธิการสำนักประธานาธิบดีแห่งอินโดนีเซีย ตัดสินใจยกเลิกโครงการจัดซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มูลค่า 92,000 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 230 ล้านบาท) เพื่อใช้เป็นรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดี อดีตประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง หลังจากนายโจโก วิโดโด หรือโจโกวี ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา และว่าที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซียสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ตุลาคมที่จะถึงนี้ หลังจากมีเสียงวิจารณ์จากประชาชนว่ารัฐบาลใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินไป


ประกอบกับดำริของนายโจโกวี ที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้องการให้บุคคลในคณะรัฐบาลใช้รถยนต์โตโยต้า คราวน์ มูลค่าคันละ 1,200 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 3 ล้านบาท) ที่จัดซื้อมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เป็นรถประจำตำแหน่งต่อไปเพื่อประหยัดเงินงบประมาณของประเทศ

โครงการจัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งเดินหน้าจนถึงขั้นตอนหลังการประมูลจัดหาและได้ผู้จัดหารถยนต์ประจำตำแหน่งให้แก่คณะรัฐบาลแล้ว โดยบริษัท พีที เมอร์เซเดส-เบนซ์ อินโดนีเซียเป็นผู้ชนะการประมูลครั้งนี้ แต่ต้องถูกยกเลิกในที่สุด

ทั้งนี้ ระหว่างการดำเนินโครงการจัดซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ของคณะรัฐบาล ก็มีเสียงวิจารณ์จากประชาชนอย่างมาก แม้เลขาธิการสำนักประธานาธิบดีจะยืนยันว่ามูลค่ารถยนต์หรูจากเยอรมนีนั้นมีราคาถูกกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า แต่ไม่เปิดเผยว่าราคาที่แตกต่างกันมีจำนวนเท่าไหร่

ด้านนายโจโกวี ที่ขี่รถจักรยานมาทำงานที่ศาลาว่าการกรุงจาการ์ตา กล่าวว่า ตนเคยกล่าวกับเลขาธิการสำนักประธานาธิบดีถึงเรื่องการจัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งแล้วว่า ตนต้องการใช้รถยนต์คันเดิม เพราะยังมีสภาพที่ดี และต้องการให้คณะรัฐมนตรีทุกคนตระหนักถึงการใช้รถยนต์ประจำตำแหน่งในแต่ละวันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ก่อนหน้านี้ นายโจโกวียังเรียกร้องให้ศาลฎีกาล้มกฎหมายที่เป็นเกราะป้องกันนักการเมืองจากการถูกตรวจสอบความผิดการฉ้อฉล ที่ระบุให้ผู้ที่ต้องการตรวจสอบนักการเมืองต้องขอรับการอนุมัติจากคณะกรรมการพิเศษแห่งสภาก่อนที่จะทำการสอบสวนการคอร์รัปชั่นหรืออาชญากรรมอื่นๆ ของนักการเมืองในสภาได้

ประธานธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน เป็นผู้ลงนามผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่รัฐบาลนายยูโดโยโนถูกกล่าวหาว่ามีการคอร์รัปชั่น ฉ้อฉลบ่อยครัง รวมทั้งล่าสุดที่นายเจโร วาซิค รัฐมนตรีพลังงาน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีข่มขู่และรับสินบนมูลค่า 841,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 25 ล้านบาท)

 

 

 

 ประวัติรถBenz


เมร์เซเดส-เบนซ์ หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า เบนซ์ นับเป็นรถเยอรมันุคณภาพเยี่ยมอีกยี่ห้อหนึ่ง สัญลักษณ์ของรถยี่ห้อนี้ เป็นรูปดาวสามแฉกล้อมรอบด้วยวงกลม ผู้ผลิตรถเมร์เซเดส-เบนซ์ คือ บริษัท ไดมเลร์-เบนซ์ อาเก ( DAIMLER-BENZ AG) แห่งเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เก่าแก่และมีประวัติความเป็นมาของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาป ภายใน บริษัท ไดมเลร์-เบนซ์ อาเก ถือกำเนิดในปี 1926 โดยเป็นผลลัพธ์จากการรวมตัวของผู้ผลิตรถยนต์สองรายที่มีบทบาทอย่างสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ยุคบุกเบิก คือ บริษัท DAIMLER MOTORENGESELLS- CHAFT ซึ่ง โกทท์ลีบ ไดมเลร์ (GOTTLIEB DAIMLER) ผู้ได้ชื่อว่าเป็น ผู้ประดิษฐ์รถยนต์สี่ล้อคันแรกของโลก ก่อตั้งเมื่อปี 1890 กับบริษัท BENZ & CIE ของคาร์ล เบนซ์ (CARL BENZ) ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักประดิษฐ์คนสำคัญของโลกที่ผลิตรถยนต์ออกจำหน่าย และขณะที่รวมกิจการเข้าด้วยกันโกทท์ลีบ ไดมเลร์ได้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 10 ปี

 

ส่วนชื่อ เมร์เซเดส (MERCEDES) ซึ่งเป็นชื่อยี่ห้อรถนั้น มีจุดเริ่มต้นในปีที่โกทท์ลีบ ไดมเลร์ถึงแก่กรรมเมื่อ วิลเฮล์มมายบัค (WILHELM MAYBACH) ผู้สืบทอดกิจการจากโกทท์ลีบ ไดมเลร์ได้ตั้งขื่อรถขนาด 35 แรงม้า ที่ส่งเข้าแข่งขันและได้รับชัยชนะที่เมืองนีศ ในประเทศผรั่งเศสว่า “เมร์เซเดส” ตามชื่อธิดาคนโตของเอมิลเจลลิเนค (EMIL JELLNEK) นายธานคารชาวออสเตรียซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถให้แก่ไดมเลร์ในขณะนั้น และนับแต่นั้นเป็นต้นมาชื่อเมร์เซเดสก็ได้กลายชื่อยี่ห้อรถของไดมเลร์ ครั้นเมื่อรวมกิจการเข้ากับเบนซ์ในอีก 26 ปีต่อมา รถที่บริษัทใหม่นี้ผลิตออกจำหน่ายก็ใช้ชื่อ “เมร์เซเดส-เบนซ์” และใช้เครื่องหมายดาวสามแฉกล้อมรอบด้วยวงกลมเป็นสัญลักษณ์ติดต่อกันมาตราบจนปัจจุบัน ไดมเลร์-เบนซ์ นับเป็นตัวอย่างที่ดีของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่สามารถประยุกต์ขบวนการผลิตแบบ MASS PRODUCTION หรือ “มวลผลิต” เข้ากับการผลิตรถระดับหรู หรือ EXOTIC CAR ปัจจุบัน ไดมเลร์-เบนซ์ มีฐานะเป็นบริษัทอุตสาหกรรมที่มียอดขายสูงสุดของเยอรมนี

 

ในปี 1990 ไดมเลร์-เบนซ์ ทำยอดขายได้รวมทั้งสินประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท และนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 1989 เป็นต้นมา ไดมเลร์-เบนซ์ ได้แยกกิจการผลิตรถยนต์ออกเป็นบริษัทเอกเทศมีชื่อว่าบริษัท เมร์เซเดส-เบนซ์ อาเก (MERCEDES-BENZ AG) บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นใหม่นี้ มีฐานะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของเยอรมนี ในปี 1990 เมร์เซเดส-เบนซ์ผลิตรถยนต์ออกสู่ตลาดรวมทั้งสิ้น 574,395 คันและมีรายได้จากการขายรถยนต์นั่งรวมทั้งสิ้นประมาณ 568,000 ล้านบาท ปัจจุบัน เมร์เซเดส-เบนซ์ ผลิตรถยนต์นั่งออกจำหน่ายรวม 4 อนุกรม คือ อนุกรม ดับบลิว 201 (W201) อนุกรม ดับบลิว 124 (W124) อนุกรม ดับบลิว 140 (W140) และอนุกรม อาร์ 129 (R 129) เมร์เซเดส-เบนซ์ มีโรงงานในเยอรมนีรวม 11 โรง มีบริษัทสาขารวม 43 บริษัท มีพนักงานในเยอรนีมากกว่า 182,000 คน และมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 235,000 คัน

 

ชื่อบริษัท: เมร์เซเดส-เบนซ์ อาเก (MERCEDES-BENZ AG)
ก่อตั้ง: ค.ศ. 1926
สำนักงานใหญ่: MERCEDESSTRASSE 136, 7000 STUTTGART 60, GERMANY,
ประธานบริษัท: ศาสตราจารย์ ดร.เวร์เนร์ นีฟเฟร์ (PROF.DR.WERNER NIEFER) โรงงานในเยอรมนี: 11 โรงงาน
จำนวนพนักงาน: ประมาณ 235,000 คน

 

  

               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    หญิงอินเดียถูกกักขังกว่า 3 ปี เหตุจ่ายสินสอดไม่ครบ

 

 

 

                    หญิงอินเดียถูกกักขังกว่า 3 ปี เหตุจ่ายสินสอดไม่ครบ

 

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศอินเดียได้เข้าช่วยเหลือนางกุนจา เทวี หญิงวัย 25 ปี คืนสู่อิสรภาพ ภายหลังถูกครอบครัวสามีกักขังในบ้านกว่า 3 ปี ภายในเมืองดาร์บันกา แคว้นพิหาร เนื่องจากพ่อแม่ของเธอไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าสินสอดให้ฝ่ายสามีให้ครบจำนวน และเธอยังถูกกีดกันไม่ให้พบหน้าลูกสาวของเธอซึ่งขณะนี้มีอายุ 3 ขวบอีกด้วย

 

โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงสถานที่เกิดเหตุ ก็พบเจอ นางเทวี อยู่ในสภาพเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก โดยเธอถูกขังอยู่ภายในห้องน้ำที่มืดและสกปรก ก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปนำตัวเธอออกมา แต่ถึงขณะนี้ นางเทวี มีอาการปลอดภัยและได้รับการดูแลจากพ่อของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

นางกุนจา ถือเป็นเหยื่อประเพณีของชาวอินเดียที่ครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวต้องเป็นผู้นำสินสอดไม่ว่าจะเป็น เงินสด, เสื้อผ้า หรือเครื่องเพชร มาสู่ขอฝ่ายชายนั้นถูกปฏิบัติต่อกันมาอย่างแพร่หลายนานกว่าหลายร้อยปี แต่ธรรมเนียมได้กลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 ขณะที่ประเมินกันว่าในแต่ละปีมีผู้หญิงชาวอินเดียกว่า 1 พันคน ต้องถูกสังหารจากกรณีพิพาทเกี่ยวกับจำนวนของสินสอดดังกล่าว ทางด้านกลุ่มรณรงค์ต่อต้านออกมากล่าวว่า ประเพณีดังกล่าวเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงชาวอินเดียมีความเสี่ยงที่จะได้รับความรุนแรงและอาจนำไปสู่ความตายได้

 

 

สังคมไทยเราสมัยนี้เรียกได้ว่าผู้หญิงอย่างเรามีสิทธิเท่าเทียมผู้ชายแทบทุกอย่าง เพราะผู้หญิงปัจจุบันนั้นมีสิทธิ์แสดงความเห็นต่างๆ มีความกล้าแสดงออกมากกว่าแต่ก่อนมาก ถ้าเป็นวัยรุ่นทั่วไปที่เห็นได้ง่ายที่สุดเลยก็คือผู้หญิงกล้าแสดงหรือเปิดเผยความรักต่อผู้ชายมากขึ้น จนบางคนอาจจะโดนเพื่อนแซวว่า "ทำเหมือนผู้หญิงอินเดียเลยนะ" เพราะหลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าประเพณีแต่งงานของอินเดียนั้นผู้หญิงจะต้องเป็นฝ่ายไปสู่ขอผู้ชาย เอ๊ะ...ว่าแต่เรื่องนี้จริงหรือไม่

ซึ่งเป็นความเชื่อเรื่องการแต่งงานของชาวฮินดูที่ว่า เมื่อถึงคราวที่ผู้หญิงถึงวัยที่ควรแต่งงาน ผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงก็จะเป็นคนหาเจ้าบ่าวหรือคู่ครองให้แก่บุตรสาว เมื่อเจอกับผู้ชายที่เล็งหมายปองไว้แล้วก็จะส่งพ่อสื่อไปทำการเจรจา ซึ่งฝ่ายชายก็จะเรียกสินสอดตามที่ต้องการ ถ้าหากฝ่ายหญิงสามารถเสียค่าสินสอดตามที่ฝ่ายชายต้องการได้ ก็ถือว่าตกล่องปล่องชิ้นกัน แต่ถ้าไม่สามารถจ่ายค่าสินสอดตามที่ฝ่ายชายต้องการได้ก็ต้องหาผู้ชายคนใหม่ที่จะมาแต่งงานด้วยต่อไป

แต่สำหรับพิธีงานวิวาห์นั้น ส่วนมากทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องช่วยกันออกค่าใช้จ่ายสำหรับงานวิวาห์ หรืออาจจะแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกแต่ฝ่ายเดียวก็ได้

 

เด็กดีดอทคอม :: จริงเหรอ? ที่ว่าผู้หญิงอินเดียต้องขอผู้ชายแต่งงาน; tags: ประเพณี, คู่รัก, แต่งงาน, อินเดีย, india 

 

 

และการแต่งงานนั้นเน้นฤกษ์ยามมากๆ คือต้องแต่งภายในวันมงคลตามฤกษ์ยามเท่านั้น คือตั้งแต่วันที่

- 15 ม.ค. - 15 ก.พ.
- 15 มี.ค. - 15 เม.ย.
- 15 พ.ค. - 15 มิ.ย.
- 15 ต. ค. - 15 พ.ย.

นอกเหนือจากช่วงเวลาข้างต้นแล้วถือว่าเป็นเวลาต้องห้าม ห้ามแต่งงานโดยเด็ดขาดเลยล่ะค่ะ
ส่วนช่วงเวลาที่คนนิยมแต่งงานมากที่สุดก็คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมนั่นเอง
 

   

 เด็กดีดอทคอม :: จริงเหรอ? ที่ว่าผู้หญิงอินเดียต้องขอผู้ชายแต่งงาน; tags: ประเพณี, คู่รัก, แต่งงาน, อินเดีย, india

 

 

 เรื่องเหลือเชื่อของการแต่งงานในสังคมอินเดีย

- ผู้หญิงที่ไม่มีสามี หรือมีสามีแล้วแต่ไม่มีลูกถือว่าเป็นผู้หญิงที่อาภัพ เป็นที่รังเกียจของสังคม เมื่อตายแล้วจะต้องตกนรก
ผู้ชายก็เช่นดียวกัน หากไม่ได้แต่งงานถือว่าเป็นคนดิบ (เหมือนในสังคมไทยที่ว่าผู้ชายคนใดยังไม่บวชถือว่าเป็นคนดิบ)มิฉะนั้นเวลาตายไป จะถูกเอาไปให้แร้งกากิน ไม่ได้ถูกนำศพไปเผาตามพิธีที่ถูกต้อง

- การแต่งงานในบางเมืองมีพิธีแปลกๆ เช่น ถ้าผู้หญิงแอบชอบผู้ชายคนไหน ก็จะชวนเพื่อน 3-4 คน ไปดักรอและฉุดผู้ชายคนนั้น ซึ่งผู้ชายก็จำเป็นต้องยอม หนีไม่ได้ มิฉะนั้นจะถือว่าผิดผี

- พิธีแต่งงานของชาวเมืองคุชราตเชื่อว่า จะจัดงานแต่งงานได้ทุกๆ 12 ปี คือ 12 ปี จะมีปีเดียวที่สามารถจัดงานแต่งงานได้ เพราะฉะนั้นลูกเด็กเล็กแดงแม้อายุจะ 4-5 ขวบ แต่ก็อาจจะถูกจับหมั้นหมายแต่งงาน เพราะไม่อย่างนั้นต้องรออีก 12 ปีถึงจะแต่งงานได้

- ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรเยอะมาก ดังนั้นผู้ชายก็มีตัวเลือกมากขึ้นตามลำดับ ทำให้ผู้หญิงที่ไม่สวยหรือไม่รวยก็มักจะหาคู่ยาก ดังนั้นทุกวันนี้ตามหน้าหนังสือพิมพ์ของอินเดีย จึงมักมีประกาศโฆษณาหาคู่ของผู้หญิงอินเดียอยู่บ่อยๆ

 

 

 

 

 

 

 ผู้หญิงอินเดีย:มุมมองในปัจจุบัน .


 


 

                                    
 

 

 

“ผู้หญิง” คือ “เพศแม่” เป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตบนโลกมนุษย์ หากไม่มีแม่ผู้ให้กำเนิดโลกคงไม่มี ดังนั้นทรรศนะของฮินดู จึงถือว่าเพศหญิง คือ ศักติ ผู้มีอำนาจเหนือเพศชาย คือศิวะ, พระเจ้า ตรงกับแนวความคิดเรื่องปุรุษ และปรากฤต ทั้งสองความเห็นให้ความสำคัญกับศักติหรือปรากฤต ว่ามีอำนาจกระตุ้นให้พระเจ้ามีพลังสร้างขึ้นมาได้

 

เรื่องสิทธิสตรี เป็นเรื่องที่กล่าวขานกันทุกประเทศ ทุกมุมโลก บทความนี้กล่าวเฉพาะผู้หญิงอินเดีย ก็เพื่อศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้านไทยเรา โดยศึกษาบางประเด็น เท่าที่โอกาสจะเอื้ออำนวย

 

หนังสือCulture Shock! India คือที่มาของบทความนี้ มีเนื้อหาที่พูดถึงผู้หญิงในอินเดียค่อนข้างจะตรง เพราะมองจากเหตุการณ์ วิกฤติการณ์ของระบบ Dowry ในปัจจุบัน แม้ระบบPurdahนั้นก็เป็นเรื่องเฉพาะของศาสนาอิสลาม เป็นประเพณีดั้งเดิม นิยมปฏิบัติกันมากโดยเฉพาะในเมืองราชสถาน(Rajasthan)ส่วนSatiนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญของศาสนาฮินดูเพราะปฏิบัติตามคำสอนในพระเวทที่ว่า

 

“หญิงที่ปฏิบัติสามีจนตัวตายนั้นจะช่วยชำระบาปของญาติทั้ง ๓ฝ่าย คือของบิดา ของมารดา และครอบครัวสามีตนเอง” ประมาณปี พ.ศ.๒๓๔๓(ค.ศ.๑๘๐๐) ได้มีการต่อต้านรุนแรงต่อประเพณีนี้ โดยกลุ่มนักสอนศาสนา(Missionary)และประชาชนทั่วไปไม่เห็นด้วย จนเป็นเหตุให้รัฐบาลในสมัยนั้นต้องตรากฎหมายขึ้นเรียกว่า “Sati Regulation Act of1829” (พ.ศ.๒๓๗๒)อนึ่งเพราะการถือปฏิบัติผิดหลักประเพณีของระบบ Dowry ดั้งเดิม จึงเกิดกฎหมายเพื่อปกป้องฝ่ายหญิง เรียกว่า“Dowry Prohibition Act 1961”(พ.ศ. ๒๐๔๐)ขึ้นมา

 

สภาพที่เป็นจริงในปัจจุบัน

 

ถ้าใครคิดที่จะมองภาพตัวอย่างที่ชัดเจนของความเป็นหญิงชาวอินเดีย ละก็คงหาภาพที่สวยงามพร้อมปรากฏรอยยิ้มอันอ่อนหวาน เหมือนแผ่นโฆษณาท่องเที่ยวนั้นคงมิได้แน่ เพราะคงเห็นแต่ภาพของหญิงเหล็กที่ทูนวัสดุที่มีน้ำหนัก เช่น ก้อนอิฐ,หม้อน้ำ, ฟืน หรือไม่ก็หญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ไว้บนศีรษะกำลังเดินหลังแข็งทื่อไป

 


ทั้งนี้เพราะว่า หญิงยากจนต้องทำงานหนักด้วยความจำเป็นอย่างสุดๆ โดยเฉลี่ยต้องทำงานหนักมากกว่าหญิงวัยทำงานวัยเดียวกัน เมื่อเทียบกับหญิงในประเทศอื่น อาชีพที่หญิงต้องลงไปทุบหินในบ่อ ขุดแร่ ทำการจักสาน ปั้นหม้อดิน หว่านข้าวกล้า พรวนดินและเก็บเกี่ยวพืชผลในไร่ เป็นงานที่เพิ่มจากงานในบ้านตามปกติ คือ ไปตักน้ำ เก็บฟืนและหญ้าเพื่อเลี้ยงสัตว์ ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน และเลี้ยงลูก

 

ตามเขตเมืองต่างๆ เราจะเห็นผู้หญิงวรรณะต่ำ ทำงานก่อสร้าง ใช้ศีรษะทูนอิฐ พร้อมอุ้มลูกไว้ที่สะเอวข้างหนึ่ง เดินไต่ขึ้นลงบันไดที่ล่อแหลมต่ออันตรายอย่างยิ่ง ผู้หญิงต้องทำงานที่ไม่ถนัด เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่มีค่าจ้าเพียงเล็กน้อย ทั้งๆที่บางครั้งมีครรภ์ หรือแม้แต่ต้องเลี้ยงลูกไปพลางทำงานไปพลางก็ตาม จะพบเห็นผู้หญิงเหล่านี้ตามที่สาธารณะได้ยาก เพราะผู้หญิงมิได้ถูกจัดไว้ในกลุ่มที่ทัดเทียมระดับเดียวกันเลย ดังนั้นจึงมีความแตกต่างมากมาย หลายระดับตามชั้น วรรณะ และฐานความคิดความเชื่อของแต่ละรัฐ

 

ในสังคมยุคใหม่ ตามเขตเมือง เช่น เมืองเดลี มีเจ้าสาวถูกเผาโดยปราศจากเหตุผลที่จะรักษาประเพณีดั่งเดิม เพื่อทีวีหรือตู้เย็นตัวใหม่เท่านั้น อัตราเฉลี่ยมากกว่าหนึ่งรายต่อวัน ตามภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งในอดีตตกเป็นของชนชั้นปกครองมุสลิม ปัจจุบันยังมีการถือระบบศักดินา และเชื้อพระวงศ์อยู่ ส่วนทางภาคใต้จะรักษาระบบความเสมอภาคมากกว่า ในสังคมของชนเผ่าต่างๆ บางเผ่า จะปรากฏเรื่องอิทธิพลของการแบ่งเพศ แบ่งวรรณะ รุนแรงมากกว่าภาคตะวันตกของอินเดีย เช่นที่เมืองราชสถาน เมื่อไม่นานมีผู้หญิงท่านหนึ่งถูกเผาบนกองเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ในพิธีเผาศพสามีของเธอ คาดว่าเป็นไปตามความเชื่ออย่างเคร่งครัดของประเพณีโบราณ

 

ผู้หญิงวรรณะต่ำ อาจจะมีอำนาจในการตัดสินเพิ่มมากขึ้นก็ได้ หากว่าเธอได้สมาคมกับผู้หญิงในวรรณะสูง เพราะว่าสถานภาพทางสังคม ทางครอบครัวนั้น มักจะถือเอาตามเหตุการณ์ที่พวกตนจะรักษาผลประโยชน์ด้านแรงงาน หรือการไม่ต้องทำงาน หรือแม้แต่การกักกันไว้เพื่อใช้งานเป็นต้น

 

การสูญเสียอิสรภาพอีกอย่างก็คือ ผู้หญิงต้องทนลำบากเพื่อแลกกับความสุขสบาย แม้ผู้หญิงวรรณะสูงก็ตาม ต้องทุกข์ทรมานเพราะข้อปฏิบัติทางประเพณีที่กดดันสตรีเพศ เช่น ประเพณีPurdah และSati หรือแม้แต่การแต่งงานตั้งแต่เป็นเด็ก การไม่ยอมรับความเป็นหญิงหม้ายในสังคม

 

การฆ่าทารกเพศหญิง และการทำแท้งในกรณีที่ตั้งครรภ์เพราะขาดความรู้ในการมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นแรงกดดันผู้หญิงในอินเดีย ให้มีแต่ทารกเพศชายเท่านั้น เพราะว่าลูกชายเท่านั้นที่จะสืบทอดมรดก หรือประกอบพิธีเผาศพบิดามารดาได้ เพราะมีความเชื่อว่า เขาจะช่วยให้วิญญาณมีความปลอดภัย เดินทางไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ อีกอย่าง ลุกชายเท่านั้นที่จะนำค่าDowry มาได้ เพราะครอบครัวฝ่ายหญิงต้องจ่ายให้เท่าราคาที่อาจจะทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงล่มจมก็ได้ แม้ในสังคมของชนเผ่าต่างๆบางเผ่า จะถือประเพณีที่ฝ่ายชายต้องจ่ายค่าสินสอดให้ฝ่ายหญิงก็ตาม แต่ก็ยังมีปะเพณีเก็บค่าDowry อยู่เหมือนเดิม แต่ภาคใต้ของอินเดีย ผู้หญิงและผู้ชายค่อนข้างมีเสรีภาพในการพบปะสังสรรค์มากกว่าทางภาคเหนือ ในเขตเมืองใหญ่ๆ เช่นเดลี บอมเบย์(มุมไบ) กัลกัตต้า(โกลกาต้า)มาทราส(เซียนไน) เป็นต้น ผู้หญิงมีการศึกษาแล้ว นักแสดง นักกฎหมาย เป็นต้น จะมีเสรีภาพมากขึ้น ไม่ต้องตรากตรำทำงานหนัก ไม่ต้องใช้ผ้าคลุมหน้าตัวเองอีกต่อไป

 

ผู้หญิงในอินเดีย สามารถทำงานในตำแหน่งสำคัญๆได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขว่า เธอ ต้องมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญมาก่อน เช่น นางอินธิรา คานธี ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของอินเดีย เพราะเธอเป็นลูกสาวของท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ศรีเยาวหราล เนหรู,นางมเนกา คานธี ได้เป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม เพราะว่าเธอเป็นภรรยาหม้ายของนายสัญชัย คานธี บุตรของนางอินธิรา คานธี ดังนั้นในปัจจุบันหากผู้หญิงไม่มีบุคคลสำคัญหนุนหลังอยู่ ก็อาจถูกทอดทิ้งไป

 

ในยุคพระเวท ผู้หญิงมีบทบาททัดเทียมผู้ชาย คือสามารถเป็นนักบวชได้ และถ้าเป็นหม้ายก็จะสามารถกลับแต่งงานใหม่ได้ แต่ปัจจุบันความสำคัญได้ลดลงไป จนเหลือแต่เพียงว่า เธอต้องนั่งใกล้สามีในเวลาทำพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น

 

ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ผู้หญิงเป็นทั้งผู้ควรแก่การบูชา และเป็นอันตรายต่อพิธีการบูชา ข้อห้ามสำหรับผู้หญิงมีประจำเดือน(ระดู)ในสมัยก่อน ก็คือ เธอจะถูกให้ออกไปอยู่นอกบ้านประมาณ ๓ วัน แต่ปัจจุบันในครอบครัวที่เคร่งศาสนามากๆ จะห้ามผู้หญิงมีระดูเข้าครัว ห้ามจับต้องเกลือ ห้ามไปวัด ห้ามเข้าร่วมในพิธีกรรมทางศาสนาด้วย ตามความเชื่อเรื่องเทพเจ้าและสิ่งลึกลับ ถือว่าพระเจ้าต้องเพศชาย และไร้อำนาจ หากแต่ได้อาศัยอิทธิพลของศักติ ต้องอาศัยเพศหญิงจึงจะมีพลังสร้างที่สมบูรณ์

 

ความเห็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับระบบ Dowry, PurdahและSati

 

จากข้อความที่กล่าวข้างต้น มีนัยว่าสังคมอินเดียไม่น่าอยู่เสียเลย ดังนั้นเพื่อให้เกิดมุมมองที่เป็นธรรมกับครอบครัวชาวฮินดูอื่นๆ ที่รักษาประเพณีถูกต้อง ทำให้สังคมอินเดียน่าอยู่ จึงต้องขยายความในตอนนี้

 

คำว่าDowry ไม่ได้หมายถึง สินสอด หรือ สินสมรส เพราะความหมายเดิมเกิดจากตระกูลราชบุตร ที่เป็นนักรบ ในเมืองราชสถาน(Rajasthan) เมื่อรบชนะข้าศึก ก็จะได้เครื่องบรรณาการต่างๆ พร้อมทั้งได้หญิงสาวจากเมืองขึ้นมาครอบครอง ปัจจุบันแต่ละครอบครัวต้องแบ่งสมบัติให้ลูกๆ โดยเฉพาะลูกสาวที่จะต้องไปอยู่บ้านฝ่ายชายหลังจากแต่งงานแล้ว สมบัติก้อนนี้ถือเป็นหน้าเป็นตาของครอบครัวฝ่ายหญิง เพื่อที่ลูกสาวตนจะได้ไม่เป็นภาระของครอบครัวฝ่ายชายมากเกินไป ที่สำคัญคล้ายจะบอกว่า ลูกสาวตนมิได้มาอาศัยฝ่ายชายถ่ายเดียวนะ จากความหมายที่ดีนี้ Dowryคือสมบัติฝ่ายหญิงที่ได้มาจากครอบครัวของตนเพื่อจะไปมีครอบครัว มิได้หมายถึง “ค่าตัวเพื่อซื้อฝ่ายชาย” แต่อย่างใดเลย

 

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ครอบครัวอินเดีย บางครอบครัวของฝ่ายชาย ได้เรียกร้องค่าDowry มากมายตามที่ตนอยากจะได้ บ่อยครั้งที่ทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงต้องล่มจมเป็นหนี้ก็มี(บางครั้งเมื่อทำการสู่ขอ ตกลงเรื่องDowryไว้แล้ว แต่เมื่อถึงวันแต่งงานฝ่ายชายเรียกร้องเพิ่มอีกก็มี ซึ่งฝ่ายหญิงก็ต้องจำยอม)

 

คำDowryนี้ สอ เสถบุตร แปลว่า“สินเดิมของฝ่ายหญิงที่นำติดตัวมาเพื่อสมรส”นี่คือความหมายที่แท้และดั้งเดิม แต่หลายท่านแปลว่า “ค่าสินสอด”นี่ผิดทั้งในความหมายประเพณีดั้งเดิม และการนำคำว่า “สินสอด”มาใช้ผิดความหมาย เพราะคำนี้ หมายความว่า ฝายชายต้องมอบให้ฝ่ายหญิง

 

ระบบPurdah

               

 

 

Purdah หมายถึง ผ้าม่าน คือผ้าที่ต้องใช้คลุมหน้า และความหมายหนึ่งคือการปิดกั้นสิทธิของผู้หญิงในสังคมเดิมที่เป็นประเพณีของผู้หญิงชาวมุสลิมในเมืองราชสถาน(Rajasthan)มาจนถึงทุกวันนี้ การคลุมหน้าด้วยผ้าม่านนั้นปฎิบัติกันทั่วไปไม่ว่าจะเป็นชาวมุสลิมในรัฐใดก็ตาม สามารถพบเห็นภาพเช่นนี้อยู่เสมอ ตามร้านค้า บนรถที่วิ่งไปตามท้องถนน นั่นคือผู้หญิงมุสลิมจะแต่งกายด้วยผ้าสีดำเข้มและคลุมศีรษะทั้งหมดจนไม่สามารถเห็นใบหน้าและรอยยิ้มเลย ประเพณีผู้หญิงฮินดูไม่นิยมปฏิบัติ

 

ผู้หญิงฮินดูนิยมใส่แต่สาหรีและชุด Salwar ไม่ได้คลุมหน้า ชุดนี้จะมีผ้าชิ้นยาวเรียกว่าDupatta เหมือนสะใบสำหรับพาดบนไหล่ ให้ปลายทั้งสองห้อยลงมาด้านหลัง ให้ช่วงกลางปกปิดตรงคอและหน้าอกพอดี สำหรับผ้าสาหรีนั้น ผู้นุ่งต้องจำด้านบนสุดและด้านล่างไว้ให้ดี เพราะด้านบนต้องให้อยู่ช่วงลำตัวขึ้นไปถึงศีรษะ ส่วนด้านล่างที่เรียกว่า Phalใช้นุ่งอย่านุ่งสับล่างสับบน

 

ระบบSati

 

 

Satiหมายถึงผู้หญิงที่มีความเชื่อมั่นต่อประเพณี คือผู้หญิงในวรรณะสูงต้องทำอัตวินิบาตกรรม ในพิธีเผาศพของสามีตัวเอง เพื่อที่จะได้ชื่อว่าเป็นผู้รักษาประเพณีอย่างเคร่งครัด ผู้หญิงวรรณะสูงต้องแต่งงานเมื่ออายุยังเยาว์ และน้อยคนที่จะได้กลับมาแต่งงานใหม่ หากเธอเป็นหม้าย

 

ระบบSatiเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๑(ค.ศ.๑๙๘๘)หรือราว๑๒ปีที่ผ่านมา ที่เมืองราชสถาน มีผู้หญิงชื่อRoop Kanwas ถูกเผาเพื่อรักษาระบบนี้ อนึ่งในราว พ.ศ.๒๑๕๘-๒๑๖๑(ค.ศ.๑๘๑๕-๑๘๑๘)เป็นสมัยที่ผู้หญิงปฎิบัติตามประเพณีSati กันมาก ในหลายๆเมือง โดยเฉพาะในเมืองโกลกาต้า(Kolkata)นิยมมากที่สุด แต่ทุกวันนี้ไม่มีใครปฏิบัติตามพิธีนี้อีก

 

 

 

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทำอย่างไร... เมื่อรถหาย!!!

 

 

 

 

ปัจจุบันเราต้องยอมรับว่า บ้านเมืองไทยเรานั้นมีคนดีน้อยคนชั่วเยอะ ทำให้อาชญากรรมในเขตเมืองต่างพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อพูดถึงอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อกับรถยนต์แล้ว การโจรกรรมรถยนต์นั้นนับว่าเป็นภัยอันดับแรกๆ ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น

 

หากวันใดวันหนึ่งที่โชคไม่เข้าข้างดวงไม่ดี แล้วรถสุดรักของคุณเกิดหายขึ้นมา เคยคิดไหมว่าจะต้องทำตัวอย่างไร หลายๆคนคงไม่ได้คิดหาคำตอบเรื่องนี้ไว้ เพราะมั่นใจในการดูแลเอาใจใส่กับเรื่องรถ แต่ถ้าเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับคุณที่เป็นผู้โชคร้ายของสังคม วันนี้เรามีแนวทางมาฝากกัน

 

 

 

 

 

เมื่อรถหายอันดับแรกอย่าเพิ่งตกใจ เลิกตกใจ ไม่ต้องทำหน้าเป็นไก่ตาตื่น เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่จำที่จอดรถของตัวเองไม่ได้ หรืออาจจะจำผิด ให้คุณลองนึกดูก่อนว่า มั่นใจหรือไม่ และหากมั่นใจว่าใช่ ก็ได้เวลาสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ใกล้ที่สุด

 

หากคุณดวงซวยรถหายจริงๆ ยิ่งเมื่อคุยกับยามเบื้องต้นทราบว่า มีการโจรกรรมรถยนต์ของเราแน่ๆ ก็ให้เราทำการจดรายละเอียดรถยนต์ของเราออกมา ไม่ว่าจะเป็น ป้ายทะเบียนรถยนต์ สี ตำหนิ ต่าง หรือแม้กระทั่งของกระจุกกระจิ๊ก รวมถึงเวลาและสถานที่ จดออกมาให้ได้เยอะที่สุด แล้วเตรียมรายละเอียดไว้เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป

 

หลังจากที่ได้ข้อมูลที่ถ่ายออกจากหัวคุณแล้ว ก็ให้ไปยังสถานีตำรวจในท้องที่หรือตู้ตำรวจที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้ไม่ว่า ระหว่างทางก็แจ้ง สายด่วนรถหาย 1599 ด้วย เมื่อหาพี่ตำรวจเจอแล้วแจ้งเรื่องรถหาย เขาจะทำการเรียกวิทยุเพื่อตรวจสอบ เผื่อโชคดี โจรจะยังหนีรอดไปไม่ไกล ในขณะเดียวกันเราเองก็ต้องประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะศูนย์วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน สวพ.91 และอื่นๆ ที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ พร้อมแจ้งรายละเอียด ชื่อคุณและสถานที่ๆหาย เพื่อให้พลเมืองดีบนถนนช่วยกันสกัดจับ

 

 

 

 

 

 

ไม่เพียงแต่แจ้งเฉพาะการติดตามรถยนต์ของเราเท่านั้น เราควรแจ้งไปยังบริษัทประกันภัยที่เราได้ทำสัญญาไว้ด้วย ซึ่งบริษัทประกันภัยเหล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่เคลมประกัน ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เนื่องจากพวกเขาใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะ ทำให้คนร้ายมักไม่สังเกตและสามารถรวบได้ หากพบเห็น และในการแจ้งยังบริษัทประกันแต่เนิ่นๆ ทำให้บริษัทประกันมองเจตนาของเราว่าไม่ได้มีการสร้างเรื่องรถหายเพื่อชดใช้หนี้ไฟแนนซ์ ซึ่งมีหลายคนทำ

 

เมื่อแจ้งข้อมูลต่างๆครบแล้วให้เราไปแจ้งความที่สถานีตำรวจที่อยู่ใกล้ที่สุด โดยเจ้าหน้าที่จะไต่สวนเบื้องต้นก็ให้ บอกไปตามความจริงและรายละเอียดรถยนต์ของเรา วัน เวลา สถานที่ พร้อมกันนี้ให้เรียกพนักงานเคลมของบริษัทมาพบ เพื่อแจ้งเหตุรถหายต่อบริษัทประกันในกรณีที่กรมธรรม์ของคุณคลอบคลุมถึงประกันรถยนต์สูญหาย เพื่อเตรียมเรื่องเคลมสินไหมทดแทน

 

 

 

 

 

 

หากสุดท้ายแล้วคุณไม่เจอรถยนต์สุดที่รักของคุณจริงๆ โดยให้ใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วันในการโทรศัพท์ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งต่างๆที่ได้แจ้งไว้ โดยสำหรับการติดตามของตำรวจนั้นสามารถติดตามได้ทาง www.lostcar.go.th ก็ให้เราดำเนินการเคลมสินไหมทดแทนจากบริษัทประกัน ซึ่งจะเรียกเราเข้าไปคุยที่สำนักงานใหญ่ และต้องมีการตรวจสอบเหตุการณ์ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หากไม่พบพิรุธ เขาก็จะดำเนินการชดใช้สินไหมให้ตามสัญญา

 

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เป็นที่เตะตาเหล่าโจรขโมยรถ ทางที่ดีเราควรปฏิบัติตามหลักการจอดรถเพื่อสร้างความปลอดภัยง่ายๆ ดังนี้

 

1.พยายามจอดรถยนต์ในที่คนพลุกพล่าน แม้โจรขโมยรถจะมีฝีมือระดับพระครูในการขโมยของ แต่พวกเขาก็ไม่ชอบผู้คนก็ขึ้นชื่อว่ามา ขโมยของา ต้องชอบที่ลับตาคนเป็นธรรมดา ซึ่งเราควรจอดรถยนต์ชั้นที่มีคนเข้าออกบ่อยๆ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นต้นหากเป็นไปได้

 

2.จอดรถในที่สว่าง ควรหลีกเลี่ยงมุมอัพต่างๆที่จะทำให้รถเราเป็นที่หมายตาโจรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ใช้รถสีดำ พยายามหาแสงสว่างเป็นตัวช่วย ก็เป็นอีกทางออกหนึ่งที่เหมาะสม

 

 

 

 

 

 

3. อย่าทิ้งบัตรจอดรถไว้ในรถ สุภาพสตรีหลายท่านชอบไม่นำบัตรจอดรถติดตัวไปด้วย นับเป็นการชี้ช่องทางโจรอย่างยิ่ง เพราะยามไม่มีทางรู้หรอกว่าจริงๆใครเป็นเจ้าของรถไม่เชื่อก็ลองดูสิ

 

4.หาอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่ม หากเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องจอดรถในที่เปลี่ยว เราควรจำเป็นต้องระวังด้วยเอง ด้วยอุปกรณ์ล็อคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจริงมันไม่ได้ช่วยให้โจรขโมยรถไม่ได้ อย่าไปหลงคำโฆษณา แต่ช่วยถ่วงเวลาในการทำกิจกรรมของโจร ให้ใช้เวลามากขึ้นอาจเป็นโอกาสให้ใครสักคนมาเห้น ก็เท่านั้นเอง

 

ทั้งนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ เราไม่ควรประมาทในการจอดรถยนต์ของเราตามที่ต่างๆ และทางที่ดีควรทำตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันมิให้รถเราต้องจรหายไปจากฝีมือภัยร้ายที่เรียกว่า “โจรลักรถ”


รายละเอียดเบอร์โทร เหตุฉุกเฉิน

1599 สายด่วนรถหาย

191 เหตุด่วนเหตุร้าย

1644 สวพ. 91

1677 – 1678 ร่วมด้วยช่วยกัน

 

ภาพประกอบบทความจาก Gettyimages.com

 

Sanook! Auto Comment

 

รถหายนับว่าคงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองไม่ว่า จะ รถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ก็ตาม ทั้งนี้แม้จะเป็นการยากที่จะคาดเดา แต่เราขอแนะนำว่าให้ท่านตรวจสอบก่อนสะบัดตัวไปทำธุระต่างๆ เพราะบางทีการตรวจสอบอย่างดีนี่แหละช่วยให้รถเราไม่หาย

 

 

 

              

 

 

 

 

 

 

 

เรื่องไมค์เรื่องเล็ก ช่วยอธิบายเรื่องรถไฟธรรมดาแต่ราคา8แสนล้าน ดีกว่า

 

 

 

 


http://www.bangkokbiznews.com/mobile/xhtml/news/detail/00/596053/

ปชป.แนะปลัดคมนาคมทบทวนวงเงินรถไฟรางคู่

อดีตส.ส.ปชป.ระบุ"ปลัดคมนาคม"ตั้งราคารถไฟรางคู่สูงเท่ารถไฟความเร็วสูง ในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้าน แนะทบทวนวงเงิน

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผว.กทม.) กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ( คสช.) เห็นชอบยุทธศาสตร์ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ปีงบประมาณ 2558 - 2565 รวม 4 ด้าน 5 แผนงาน ประกอบด้วยแผนงานที่ 1 การพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง ซึ่งประกอบด้วยโครงการดังต่อไปนี้

1. รถไฟทางคู่สายเดิม (สร้างทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีก 1 ทาง จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 1 ทาง) ซึ่งประกอบด้วย
1.1 ชุมทางถนนจิระ (โคราช) - ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 26,007.20 ล้านบาท ,
1.2. ประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 17,292.53 ล้านบาท ,
1.3.นครปฐม - หัวหิน ระยะทาง 165 กม. วงเงิน 20,038.43 ล้านบาท
1.4.ลพบุรี - ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 24,842.44 ล้านบาท ,
1.5. มาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ (โคราช) ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,855.08 ล้านบาท และ
1.6. หัวหิน -ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 89 กม. วงเงิน 9,436.51 ล้านบาท
โดยแต่ละเส้นทางดังกล่าวข้างต้นมีวงเงินโครงการ ทั้งค่าก่อสร้าง + ค่าที่ดิน + ค่าที่ปรึกษา เท่ากับวงเงินก่อสร้างรถไฟทางคู่ในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท

2. รถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทางเป็นการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โดยใช้รางกว้าง 1.435 เมตร ซึ่งเท่ากับรางของรถไฟความเร็วสูง แต่มีความเร็วสูงสุด 160 กม.ต่อชั่วโมงซึ่งน้อยกว่ารถไฟความเร็วสูงที่มีความเร็วสูงสุด 250 - 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 2 เส้นทาง คือ 1. หนองคาย-โคราช-สระบุรี-แหลมฉบัง-มาบตาพุด รวมระยะทาง 737กิโลเมตร วงเงิน 392,570 ล้านบาท

นายสามารถ กล่าวว่า และ 2. เชียงของ-เด่นชัย-บ้านภาชี-แหลมฉบัง รวมระยะทาง 655 กิโลเมตร วงเงิน 348,890 ล้านบาท ว่าวงเงินโครงการ ของรถไฟทางคู่สายใหม่ทั้ง 2 สาย มีราคาเฉลี่ย 532.66 ล้านบาท เท่ากันทั้งสองเส้นทาง ซึ่งถือว่าเป็นราคาค่อนข้างสูง เพราะมีราคาพอ ๆ กับวงเงินโครงการรถไฟความเร็วสูงในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท แต่การก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้งสองสายดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ดังนั้น วงเงินโครงการควรจะต้องถูกกว่า

 

 

 

 [​IMG]
 

 

 

 

[​IMG]
 

 

 

 

 

 

[​IMG]
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

       

                            เหตุการณ์ก่อการร้าย 11 กันยายน 2001

เหตุการณ์ก่อการร้ายในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 เป็นเหตุการณ์การทำลายล้างที่มีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาอย่างรุนแรง เหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทั้งต่อสหรัฐอเมริกาและประเทศต่าง ๆในโลก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

      

 

เหตุการณ์การก่อการร้ายในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 เป็นเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มุ่งสร้างความเสียหายแก่ชาวอเมริกัน การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นโดยกลุ่มบุคคลที่มีเหตุผลทางการเมืองเพื่อหวังผลในการทำลายขวัญและกำลังใจของชาวอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัยในชีวิต และสัญลักษณ์ของประเทศอเมริกาต้องถูกทำลายไปด้วยเครื่องบินของสหรัฐอเมริกาเองเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 8.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 

เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 767 ของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 นำผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ และน้ำมันเต็มลำที่จะเดินทางจากเมืองบอสตันสู่นครลอสแอนเจลิส พุ่งเข้าชนยอดตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 (World Trade Center I) ในมหานครนิวยอร์ก ทำให้อาคารเกิดการระเบิดเสียหายอย่างรุนแรงในตอนแรกประชาชนและผู้เห็นเหตุการณ์คาดคะเนว่าเป็นอุบัติเหตุจากการผิดพลาดในการบังคับควบคุมเครื่องบิน แต่ต่อมาในเวลา 9.06 น. เครื่องบินโบอิ้ง 767 ของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 177 ซึ่งบินจากบอสตันสู่นครลอสแอนเจลิสเช่นกัน ได้พุ่งเข้าชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2 (World Trade Center II) ที่เป็นอาคารที่สร้างคู่กับตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 เกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว

 

เวลา 9.30 น. ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช (George W. Bush) แห่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศแถลงการ์ณว่าการระเบิดอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เป็นปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายและยืนยันที่จะสืบหากลุ่มบุคคลที่กระทำการมาลงโทษให้จงได้

 

เวลา 9.40 น. ที่กรุงวอชิงตัน ดี. ซี. เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา เครื่องบินโบอิ้ง 757 สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 77 ได้พุ่งเข้าชนอาคารเพนตากอน (Pentagon) กระทรวงกลาโหม อาคารเกิดระเบิดและเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ในเวลาไล่เลี่ยกันได้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกในมลรัฐเพนซิลเวเนีย เครื่องบินที่ตกคือเครื่องบินสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 73ที่เดินทางจากเมืองเนวาร์กไปเมืองซานฟรานซิสโกซึ่งมีข้อมูลว่าเครื่องบินลำดังกล่าวถูกสกัดอากาศจี้

 

ในเวลา 10.00 น. อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2 ซึ่งถูกไฟไหม้ได้ถล่มลงมา หลังจากนั้นอีกราวครึ่งชั่วโมงอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์1ก็ถล่มตามลงมา ทำให้พนักงานดับเพลิงและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์ร้ายต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ประกาศมาตรการฉุกเฉิน มีการอพยพผู้คนออกจากสถานที่สำคัญ ยกเลิกเที่ยวบินทั่วประเทศ กองทัพสหรัฐอเมริกาประกาศเตรียมพร้อมรบ

 

 

  

หลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ทำการระดมกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง(FBI)ออกสืบหาผู้ก่อการวินาศกรรมในครั้งนี้ ในวันต่อมาสหรัฐอเมริกาได้มุ่งเป้าไปที่โอซามา บินลาเดน (Osama bin Laden) หัวหน้าขบวนการอัลเคดา (Al Qaida) และสรุปว่าเป็นผู้บงการให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

 

จากการตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารของเครื่องบินที่ถูกบังคับก่อวินาศกรรม เจ้าหน้าที่สืบสวนได้พบว่ารายชื่อบุคคลทั้ง 19 คนที่มีบทบาทในการจี้เครื่องบิน ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวพันกับขบวนการของโอซามา บินลาเดน โดยบุคคลเหล่านี้ต่างเสียชีวิตในการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ทั้งหมดเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องสูญเสียชีวิตประชาชนและทรัพย์สินเป็นจำนวนมหาศาล พร้อมกับส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของประชาชนชาวอเมริกันเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ชาวอเมริกันตระหนักว่าประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เคยคิดอีกต่อไป ดินแดนและจุดต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกาสามารถเป็นเป้าโจมตีของศัตรูได้ทั้งสิ้น

 

 

 

สาเหตุของเหตุการณ์

 

 

หลังจากเกิดเหตุการณ์การก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ได้มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุของเหตการณ์การก่อวินาศกรรมไว้หลายแนวทางด้วยกัน

 

นักวิชาการส่วนใหญ่วิเคราะห์ว่าสาเหตุของเหตุการณ์การก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2001 มาจากระบบสังคมโลกโดยรวมที่สหรัฐอเมริกาเป็นชาติอภิมหาอำนาจทุนนิยมอันดับหนึ่งตลอดระยะเวลาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศในลักษณะแผ่ขยายอำนาจไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดินแดนตะวันออกกลางซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมาก คือ ทรัพยากรน้ำมัน หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง อังกฤษซึ่งเป็นชาติมหาอำนาจในภูมิภาคนี้ต้องถอนตัวออกไปเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ สหรัฐอเมริกาในนฐานะชาติอภิมหาอำนาจใหม่ได้เข้าไปแผ่อิทธิพลแทนที่ด้วยการแทรกแซงสนับสนุนการก่อตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ ในค.ศ. 1948 หลังจากนั้นสหรัฐอเมริกาก็ดำเนินนโยบายสนับสนุนอิสราเอลมาโดยตลอด

 

ทั้งในการทำสงครามกับกลุ่มประเทศอาหรับ การยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ และขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาก็ให้การสนับสนุนรัฐบาลของกลุ่มประเทศอาหรับที่เป็นมิตรกับสหรัฐอเมริกา ผลของการดำเนินนโยบายของสกรัฐอเมริกาได้สร้างความรู้สึกไม่พอใจให้เกิดขึ้นในหมู่ชาวอาหรับ ซึ่งเห็นว่า สหรัฐอเมริกามีนโยบายคุกคามกลุ่มประเทศอาหรับและต้องการเข้ามามีอำนาจในประเทศต่าง ๆ ในแถบนี้ การแทรกแซงในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มทุนของสหรัฐอเมริกาซึ่งเข้าไปลงทุนทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เป็นสำคัญ เช่น กลุ่มทุนอุตสาหกรรมน้ำมันเป็นต้น การแทรกแซงของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อภูมิภาคนี้นำมาซึ่งความขัดแย้งนับครั้งไม่ถ้วนของชาติต่าง ๆ หลายครั้ง

 

ก่อให้เกิดผลประโยชน์การค้าอาวุธของบริษัทผลิตอาวุธของสหรัฐอเมริกาเอง ส่วนสถานที่ซึ่งถูกโจมตีในวันที่ 11 กันยายน อันได้แก่ ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของสถาบันการเงินระหว่างประเทศเป็นจำนวนมาก จนอาจถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของระบบทุนนิยมโลก ส่วนตึกเพนตากอนซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ก็ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางอำนาจทางทหารของชาติอภิมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก การที่ขบวนก่อการร้ายสามารถทำลายตึกเหล่านี้ได้ จึงเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสหรัฐอเมริกาในฐานะชาติอภิมหาอำนาจและเป็นศูนย์กลางระบบทุนนิยมโลก

 

เหตุปัจจัยต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์การก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 เห็นได้ว่ามีศาสนาและความเชื่อ ซึ่งกลายเป็นเหตุปัจจัยหลักประการหนึ่งของความขัดแย้งและการต่อสู้ ถ้าพิจารณาในมุมนี้ก็อาจกล่าวได้ว่าการก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน เป็นปฏิกิริยาที่มีต่อบทบาทของสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาที่ผ่านมานั่นเอง

  กระทบให้สังคมโลกต้องประสบบรรยากาศความตึงเครียดจากสงครามและความหวาดกลัวที่มีต่อการก่อการร้ายที่เพิ่มมากขึ้น

 

 

ผลกระทบของเหตุการณ์

 

เหตุการณ์การก่อวินาศกรรมในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งตอสหรัฐอเมริกาและสังคมโลกโดยรวม ดังนี้

 

1. ผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์การก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสหรัฐอเมริกาหลายประการด้วยกัน ได้แก่

 

1) เหตุการณ์การก่อวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องสูญเสียชีวิตมนุษย์และทรัพย์สินจำนวนมาก จากการประเมินของสภากาชาดสหรัฐอเมริกามียอดผู้เสียชีวิต 2,563 คน ความเสียหายมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

2)เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เศรษฐกิจที่เริ่มชะลอมาตั้งแต่ก่อนหน้าเกิดวิกฤตการณ์ก็ประสบปัญหามากขึ้น

 

3) ขวัญกำลังใจของประชาชนชาวอเมริกันตกต่ำลงและเกิดแนวความคิดแบบชาตินิยมมขึ้นมาแทนที่ ดังจะเห็นได้จากประชาชนชาวอเมริกันต่างแสดงถึงความรักชาติของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจุดเทียนรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ธงชาติสหรัฐอเมริกาถูกประชาชนซื้อจนหมด หรือร้องเพลงแสดงความรักชาติ เป็นต้น

 

4) เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นโยบายการปกครองในประเทศของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยหันมาเน้นด้านความมั่นคงเป็นหลัก แทนที่สิทธิเสรีภาพในระบบประชาธิปไตย เช่น การให้อำนาจประธานาธิบดีมีอำนาจกระทำการใด ๆ ก็ได้ต่อบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การลดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนหรือคุกคามสิทธิส่วนบุคคล เป็นต้น ซึ่งประชาชนเองก็มีแนวโน้มคล้อยตามในการให้อำนาจแก่รัฐมากขึ้นเพื่อแลกกับความมั่นคงของชาติ

 

5)เหตุการณ์การก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน ได้ถูกรัฐบาลสหรัฐอเมริกานำไปใช้ในการสร้างความชอบธรรมในการโต้กลุ่มก่อการร้ายด้วยความรุนแรง เช่น การทำสงครามยึดครองอัฟกานิสถานในปลาย ค.ศ. 2001 หรือการรุกรานและยึดครองอิรักในปัจจุบันเป็นต้น

 

2.ผลกระทบที่มีต่อสังคมโลก เหตุการณ์การก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคมโลก ทั้งก่อให้เกิดสงครามและการก่อการร้ายมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์การก่อวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 สหรัฐอเมริกาได้ประกาศสงครามกับกลุ่มก่อการร้ายและพร้อมจะทำลายกลุ่มองค์กรเหล่านี้ รวมทั้งรัฐบาลที่ให้แหล่งพักพิงและสนับสนุนการก่อการร้าย โดยประธานาธิบดีบุช ได้ประกาศให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต้องตัดสินใจว่าประเทศเหล่านั้นจะอยู่ข้างสหรัฐอเมริกาหรืออยู่ข้างฝ่ายก่อการร้าย การประกาศดังกล่าวทำให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างระมัดระวัง ในการหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งทั้งจากสหรัฐอเมริกาและกลุ่มก่อการร้าย รวมถึงประชาชนภายในประเทศที่มีแนวโน้มขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาลที่ดำเนินนโยบายเข้าข้างสหรัฐอเมริกา

 

สงครามในคริสต์ศตวรรษที่ 21 จึงเกิดขึ้น โดยสหรัฐอเมริกาเข้าไปโค่นล้มรัฐบาลของประเทศอัฟกานิสถานและอิรักโดยอ้างถึงความกดขี่ในด้านการปกครองและการสนับสนุนการก่อการร้ายของรัฐบาลชุดเก่า ทั้งรัฐบาลกลุ่มตาลีบันและรัฐบาลประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน แล้วจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่เป็นมิตรกับสหรัฐอเมริกาซึ่งเท่ากับเป็นการขยายอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาไปด้วย ขณะเดียวกัน กลุ่มก่อการร้ายก็ต่อต้านสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร เช่น อังกฤษ และออสเตรเลีย ด้วยการก่อวินาศกรรมทำลายชีวิตและทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น เช่น เหตุการณ์การก่อวินาศกรรมระเบิดสถานบันเทิงในเกาะบาหลีเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2002 มีผู้เสียชีวิต 202 คน บาดเจ็บกว่า 300 คน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ISISเหิมจัดส่งวิดีโอท้ารบปูตินประกาศปลดแอกเชชเนีย

ข่าวต่างประเทศ วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ.2557 11:43น.

 

564357

 

 

 

กลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง ISIS เปลี่ยนเป้าหมายจาก โอบามา เตรียมเล่นงาน ปูติน รายต่อไปสื่อต่างประเทศรายงาน กลุ่มก่อการร้าย ISIS เผยแพร่วิดีโอในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์นี้ ประกาศท้าทายผู้นำทรงอิทธิพลระดับโลกแต่คราวนี้ไม่ใช่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ หรือผู้นำอื่น ๆ ในยุโรป แต่คราวนี้กลุ่มหัวรุนแรงมุ่งเป้าไปที่ผู้นนำหมีขาวแทน 
โดยในวิดีโอ นักรบ ISIS แสดงภาพเครื่องมือทางการทหารของรัสเซียหลังยึดมาจากกองทัพซีเรียรวมทั้งเครื่องบินรบ ซึ่งนักรบคนดังกล่าวที่ปรากฏในวิดีโอประกาศว่า จะส่งอาวุธเหล่านี้ที่ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ส่งมาสนับสนุน รัฐมนตรีบาชาร์ อัลอัซซาด ผู้นำซีเรียกลับคืนสู่รัสเซียและจำทำการปลดปล่อยเชชเนีย จะสร้างให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นรัฐอิสลามด้วยซึ่งเป็นความประสงค์ของพระเจ้า 

 

 

 

 

 

 

 

 

ISIS(ไอซิส) เป็นใคร?.. มาจากไหน? & ทำไมจึงร้ายกาจนัก?

 

 


 โดย Maira

 

 

(เครดิตภาพ: ดิ อีโคโนมิสต์)

 

 

...

“ISIS” ย่อมาจาก “Islamic State of Iraq and Greater Syria” เป็นกลุ่มของสุหนี่มุสลิมหัวรุนแรงสุดโต่ง และได้ชื่อว่าป่าเถื่อนและกระหายเลือดเข้าขั้นซาดิส แม้แต่อัลกออิดะห์ยังไม่เอาด้วย - เข่นฆ่ามุสลิมด้วยกันและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ รวมทั้งชาวคริสต์และอลาวิตส์ ต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัสซาด ของซีเรีย เผาโบสถ์และมัสยิสของชีไอท์ รับผิดชอบระเบิดฆ่าตัวตายยังตลาดและสถานที่มากมาย ซึ่งทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

 

มุสลิมหัวรุนแรงสดโต่งกลุ่มนี้มีกำเนิดมาจากที่เดียวกับอัลกอห์อิดะห์ นั่นคือจากความไม่พอใจ และโกรธแค้นที่อเมริกาที่ทำสงครามในอิรัคและอัฟริกาสถาน กลุ่มนี้ดำเนินการโดย อาบู บาการ์ อัล-แบกดาดิ ผู้สนับสนุนสงครามศาสนา( jihadist)ของอิรัค และร่วมกับขบวนการใต้ดิน-ผู้สนับสนุนของซัดดัม ฮุสเซน-ที่ต่อต้านรัฐบาลอิรัคปัจจุบัน ..

 

ISIS อาจมีสมาชิกถึง 6,000 คน ต่อสู้ในอิรักประมาณ 6,000 ในซีเรีย ประมาณ 3,000-5,000 รวมทั้งอาจจะเป็นชาวต่างชาติ 3,000; เกือบพันจะมีการตามรายงานบอกว่ามาจากเชชเนียและอีกประมาณ 500 คนที่อาจจะมาจากฝรั่งเศส อังกฤษ และที่อื่น ๆ ในยุโรป

 

ประมาณสามปีที่ผ่านมา ISIS ปฏิบัติการอยู่ในบริเวณประเทศอิรัคและซีเรีย แต่ประมาณปีกว่าๆที่ผ่านมา พื้นที่บริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศนี้ขาดการควบคุมที่ดี ทำให้ ISIS จึงเข้มแข็งขึ้นอย่างมากครอบคลุมทั้งภาคตะวันออกและภาคเหนือของซีเรีย และตะวันตกและภาคเหนือของอิรัค

 

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ISIS เข้ายึดเมืองโมซุล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอิรัคและอีกหลายๆเมืองรอบๆจังหวัดไนน์เวห์ หนึ่งวันหลังจากนั้นพวกเขารุกลงมาทางใต้มุ่งสู่กรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัค

 

รัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาลอิรัคยอมรับว่าเหตการณ์ครั้งนี้ “เป็นหายนะครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในทศวรรษ หลังจากการรุกรานของอเมริกาประเทศมีความเปราะบาง และนองเลือดอย่างน่าสงสารที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”

 

หลังจากสี่วันของการต่อสู้ในอิรักกองกำลังรักษาความปลอดภัยในโมซุลได้ทิ้งเมืองเมื่อ ISIS บุกเข้ายึดฐานทัพ ธนาคาร และหน่วยงานภาครัฐ และยึดคลังแสงขนาดใหญ่ของอเมริกัน ทั้งอาวุธกระสุน ยานพาหนะ รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์แบล๊คฮอกหกลำ และเงินสดที่เพิ่งพิมพ์ออกใหม่ๆอีก 5 แสนล้าน ดินาร์ (430 ล้านเหรียญสหรัฐ) ประชาชน 500,000 คนอพยพหนีไปในพื้นที่ปลอดภัยด้วยวามหวาดกลัว

 

 

This video image posted last week by Iraqi0Revolution, a group supporting the Islamic State of Iraq and Syria, purportedly shows a militant standing in front of a burning Iraqi army vehicle in Tikrit, Iraq.

(เครดิตภาพ: AP)

 

....

วันนี้ AP รายงานว่า –ที่เมืองทัล อฟา ซึ่งมีประชากรประมาณ 200,000 คน มีทั้งชีไอท์และซุหนิ่ อาศัยอยู่ร่วมกัน ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ISIS เผยแพร่ภาพออกมาว่าพวกเขาได้ฆ่าหมู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เป็นสมาชิกของชีไอท์ไปเป็นจำนวนมาก ในขณะที่รัฐบาลกำลังทำการพิสูจน์ว่าเป็นความจริงหรือไม่

 

ส่วน New York Times สรายงานว่า จนกระทั่งถึงตอนนี้ ฝ่ายมุสลิมชีไอท์ในในอิรักยังไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงแต่อย่างใด นอกจากการเรียกร้องอยาตอลลาห์ อาลี อัล-ซิสตานิ ของอิหร่าน ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมาเรียกร้องให้ทุกคน “พยายามระงับยับยั้งใจอย่างสูงสุด ในช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวายนี้”

 

 

ขณะนี้ชาวโลกกำลังจับตามองตาไม่กระพริบไปที่อิรัคค่ะ... ว่า ..จะถึงขั้นเกิดสงครามกลางเมือง เช่นเดียวกับซีเรีย เพื่อนบ้าน หรือไม่? - และวันนี้ ประธานาธิบดีโอบามา เผยว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังมองหาทุกวิถีทาง รวมทั้งปฏิบัติการทางทหาร เพื่อช่วยปราบปรามกลุ่ม ISIS ที่เข้ายึดครองเมืองในอิรัค”

....

 

Update: 8:00 น.

ว่าแล้ว ...ลุงแซม ก็ จับมืออิหร่าน ช่วยอิรักต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย

MSN--สื่อต่างประเทศรายงาน จอห์น เคอร์รี เลขาธิการแห่งสหรัฐอเมริกา แถลงเปิดการร่วมมือกับรัฐบาลอิหร่าน เพื่อช่วยเหลือภาวะวิกฤติในอิรัก ร่วมระบุว่า การปฏิบัติการยุติสงครามในอิรักครั้งนี้จะใช้ยานบินไร้คนขับ หรือ โดรน ในการปฏิบัติการ

แม้ว่า สหรัฐฯ และอิหร่าน จะมีความขัดแย้งกัน แต่สถานการณ์ในอิรัก จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือจากทั้งสองชาติ เลขาธิการของสหรัฐฯ กล่าว

....

ปล... - ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ลุงแซมจับมือซัดดัม รบอิหร่าน หลังจากนั้นไม่นาน ลุงแซมกวาดล้างซัดดัม กล่าวหาว่าเป็นแหล่งซ่องสุมอัลกออิดะห์ เมื่อปีสองปีที่ผ่านมาลุงแซมขู่ ฮื่ม! ฮื่ม! จะโจมตีอิหร่าน ...วันนี้ลุงแซม จับมืออิหร่าน จัดการกับ ISIS เพื่อช่วยอิรัค...?? ...สมดังคำกล่าวที่ว่า ..ในโลกนี้ "ไม่มีมิตร & ศัตรู ถาวร"

...

 

 

 

 

รัฐอิสลาม.. เป็นไปตามความฝันของกลุ่ม ISIS

 

 
 
 
และแล้วการจัดตั้งรัฐอิสลามของกลุ่มไอซิส ก็เกิดขึ้นจริงตามที่ทางกลุ่มได้ประกาศเอาไว้ตั้งแต่แรก หลายฝ่ายมองว่า ความพยายามในครั้งนี้ จะทำให้การเคลื่อนไหวของชาวมุสลิมหัวรุนแรงในหลายประเทศ มีความเข้มข้นมากขึ้น และเป็นไปได้อาจมีการรวมตัวกันอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัฐอิสลามดังกล่าว
 
 
การประกาศจัดตั้งรัฐอิสลาม ของกลุ่มรัฐอิสลามอิรักและซีเรีย หรือไอซิส ถือเป็นก้าวสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในการสู้รบของกองกำลังแบ่งแยกดินแดนชาวมุสลิมซุนนี ที่ฝังตัวในอิรักและซีเรียมาเนิ่นนาน โดยหลังจากนี้ แกนนำของกลุ่มได้เลือกที่จะใช้ชื่อว่า รัฐอิสลาม หรือ 'The Islamic State' เพียงเท่านั้น โดยให้ตัดคำว่าอิรักและซีเรีย หรืออิรักและเลแวนต์ ออกไป เพื่อให้หมายความถึงการเป็นรัฐของชาวมุสลิมในทุกพื้นที่อย่างแท้จริง และหลังจากนี้ แกนนำของกลุ่มอย่าง นายอาบู บักร์ อัล-แบกฮ์ดาดี จะทำหน้าที่เป็นเคาะลีฟะฮ์ หรือประมุขแห่งรัฐ อีกทั้งยังเป็นผู้นำของชาวมุสลิมทั้งหมดอีกด้วย
 
 
การประกาศดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน ในปี 2466 ที่ดินแดนแห่งนี้ มีการประกาศตำแหน่งประมุขแห่งรัฐหรือเคาะลีฟะฮ์อีกครั้ง และถือเป็นการพลิกโฉมหน้าของการเคลื่อนไหวของกลุ่มมุสลิมซุนนีหัวรุนแรงไปอย่างสิ้นเชิง
 
นักวิเคราะห์มองว่า ความสำเร็จของกลุ่มไอซิส ที่ปัจจุบันเรียกตัวเองแค่เพียงว่า 'The Islamic State' ที่สามารถยึดครองพื้นที่หลายแห่งในอิรักได้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้พวกเขามีความมั่นใจ ที่จะแผ่ขยายอำนาจไปยังคาบสมุทรอาหรับ และทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกามากขึ้น
 
 
ความสามารถในการควบคุมจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งเมืองโมซุล และเมืองตามแนวชายแดนอิรัก-ซีเรีย ถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ ที่เป็นใบเบิกทางให้กองกำลังของกลุ่มไอซิส สามารถรุกคืบเข้าไปใกล้กรุงแบกแดดมากขึ้น และรอเวลาให้กองทัพอิรักอ่อนแอลงเรื่อยๆ เพียงเท่านั้น การเข้ายึดเมืองหลวงของอิรักก็ดูจะเข้าใกล้ความจริง และจะเป็นชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ต้องกังขาอีกต่อไป
 
 
การประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามในครั้งนี้ คือจุดเริ่มต้นของการหาแนวร่วมและพันธมิตรที่เป็นกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของแต่ละประเทศอยู่ในตอนนี้ ทั้งในลิเบีย อียิปต์ รวมถึงบางส่วนของปาเลสไตน์ โดยกองกำลังเหล่านี้ ได้เห็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอซิส และมองว่าเป็นแนวทางที่จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับรัฐบาลได้ ซึ่งการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัฐอิสลามใหม่นี้ อาจเป็นการตอบโจทย์ที่พวกเขาต้องการ และเป็นการช่วยแผ่ขยายอำนาจของกลุ่มไอซิสอีกทางหนึ่งด้วย เรียกได้ว่ามีแต่ได้กับได้ และเป็นยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวที่แยบยลว่ากลุ่มก่อการร้ายอื่นๆเป็นอย่างยิ่ง
 
 
แม้ว่าในตอนนี้ นานาประเทศจะยังไม่มีใครที่รับรองความชอบธรรมของการประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามดังกล่าว แต่ทางกลุ่มไอซิสเองได้ยืนยันแล้วว่า รัฐอิสลามแห่งนี้จัดขึ้นอย่างถูกต้องและเป็นรัฐอิสลามของชาวมุสลิมทุกคนอย่างแท้จริง และหลังจากนี้ พวกเขาจะสร้างเอกภาพในกลุ่มชาวมุสลิมให้แน่นแฟ้นมากขึ้นอีกด้วย
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รูปภาพ : ดูๆ แล้วก็คิดๆๆๆ เผื่อจะเห็นอะไรบ้างภาพ Maysaa Nittoอันดับแรก กูเห็นคำผิด- ฟุ้มเฟื่อย แก้เป็น ฟุ่มเฟือย- สถานบัน แก้เป็น สถาบันนอกนั้น ก็ดราม่าตามสะดวก
 
 

ชูวิทย์ ซัด ไมค์ทองคำ พูดแล้ว เดอะวอยซ์ต้องแย่งกันกดปุ่ม ? เสียงไมค์ที่ดีจริงคือเสียงสะท้อนของประชาชน

 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คว่า สมัยก่อนเมื่อตนอยู่ในสภาก็เคยพูดเรื่องนาฬิกาเรือนละเจ็ดหมื่นห้า ตู้น้ำราคาเกือบแสน เก้าอี้หลุยส์ราคาเป็นล้าน เหตุผลเพราะการจัดซื้อจัดจ้างของระบบราชการไทยต้องมีเปอร์เซ็นต์ ค่าน้ำชา เบี้ยบ้ายรายทาง

 

วิธีการที่ใช้กันโดยทั่วไปคือ

 

1.ล็อคเสปคให้กับบริษัทเอกชนที่เจรจาต้า อ่วยกันมาแล้ว จากสิบเจ้าเหลืออยู่ไม่ถึงสามเจ้า คู่แข่งโนเนมเดินทะเล่อทะล่าเข้ามาอย่าหวังจะได้


2.บริษัทเอกชนต้องมีเส้นสายคอนเน็คชั่น เข้าหาผู้ใหญ่ที่มีอำนาจอนุมัติ ของไม่ดีกลายเป็นของดี ของดีกลายเป็นของแพง


3.ระเบียบหยุมหยิมตามประสาราชการที่จะต้องเรียนรู้ บริษัทยักษ์ใหญ่อาจตกม้าตาย แพ้บริษัทตึกแถว ที่พวกหัวใสไปจัดตั้งไว้ล่วงหน้า


4.เรื่องซ่อมบำรุง ประกัน จะต้องมี เพราะบางหน่วยงานซื้อมาแล้วของยังไม่ทันใช้ หมดเงินเป็นพันๆล้านก็เคยเห็นมาแล้ว เช่น มอเตอร์ไซค์ไทเกอร์ของตำรวจ หรือ รถดับเพลิงของกทม.

 

 

 

          10687164_785203474859717_2231725432998574570_n

 

 

ไม่รู้ว่าไมค์ราคาแสนสี่มันจะเสียงดีสักแค่ไหน? พูดออกมาแล้วเสียงทุ้มเหมือนกลั้วฟองเบียร์ เอาไปร้องเพลงในรายการเดอะวอยซ์กรรมการต้องแย่งกันกดปุ่มหรือเปล่า? สรุปจะพูดเอาเนื้อหาสาระหรือจะเอาเสียงใส?
ถึงขนาดนี้ควรจะดูตัวเองแล้วเปรียบเทียบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน คงไม่ต้องใช้ไมค์ถึงตัวละแสนสี่ เพราะเสียงที่ดีคือเสียงที่สะท้อนปัญหาของประชาชน ไม่ได้อยู่ที่มูลค่าไมโครโฟน

 

ใช้เงินแบบนี้เดี๋ยวเขาจะหาว่าเป็น “สามล้อถูกหวย“เห็น ได้ชัดว่าประเทศไทยยังยึดติดกับวิธีการเดิมๆ แค่เริ่มต้นก็เจอปัญหาเดิมๆเสียแล้ว นี่สิครับควรปฏิรูป เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนเห็นและสัมผัสได้

 

ส่วนหม่อมหลวงปนัดดา แรกๆพูดออกไมค์เสียงนุ่มทุ้มว่าไมค์ตัวนี้แจ๋ว เสียงดี มาตรฐานโอบาม่าใช้ หลังๆกลายเป็นเสียงอ้อมแอ้ม โยนไปโยนมาว่ายังไม่ได้จัดซื้อ สงสัยบริษัทนำมาให้ใช้ก่อน สักพักคงกลายเป็นเสียงเงียบ คราวนี้ต่อให้เอาไมค์ราคาเป็นล้านมาจ่อปาก เสียงคงไม่ดัง

 

ตนก็ขอเป็นฝ่ายค้านนอกสภาแล้วกัน ติเพื่อก่อ บางคนบอกให้ตนเงียบ ตนจะเงียบทำไมล่ะครับ? เมื่อตนมีปากไว้พูด และที่พูดไป หากไม่ใช่เรื่องจริง ก็ช่วยบอกหน่อย

 

 

 

 

 

 

อย่าชะล่าใจ ว่าจะจบแค่นี้ ดูเอกสารให้ดี มันเพิ่งเปิดถึงหน้า 5 จาก 15 หน้าเท่านั้น !!!...

 
 
 
 
ดูเอกสารครับ
เพิ่งเปิดไปแค่หน้า 5 จาก 15 หน้าเท่านั้น

หน้า 5 ซื้อไฟ โคมละหลายแสน
หน้า 6 ซื้อทีวี 5 แสน

แล้วหน้าที่ 7 - 15 จะเจออะไร

ถ้าเดาไม่ผิด
น่าจะเป็นโต๊ะตัวละ 6 แสน เก้าอี้ตัวละ 3 แสน เป็นต้น
สงสัยหิวจัด เลยมูมมาม !!!
 
 
 
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 เมืองที่วุ่นวายทุกวันนี้ ก็เพราะพวกนักการเมืองที่ปลุกม็อบนี่แหละครับ

เพียงเพื่อหวังให้ตนได้ไปเป็น"รัฐบาล"



 

 

 

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 17:18:59 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>