ศาลพระภูมิ
พิธีตั้งศาลพระภูมิ
|
||
ศาลพระภูมิศิลปะไทย
|
ศาลพระภูมิ ศิลปะจีน
|
ตามทัศนะของพุทธศาสนา ถ้าจะให้เทวดาพวกนี้รักษา ต้องเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์ เป็นคนดี (ทางศาสนา) เช่น พระภิกษุที่มีบริสุทธิ์ กลิ่นศีลจะหอมแตะจมูกเทวดาพวกนี้ แล้วเขาจะมารักษาด้วยความนับถือของเขาเอง ไม่ต้องไปเชิญมา หากเป็นคนชั่ว เทวดาจะไปไกลถึง 100 โยชน์ (เพราะเหม็นกลิ่นความทุศีล หรือไร้ศีล) หรือ ทำบุญอุทิศ ให้เทวดา เทวดารู้ซึ้งในน้ำใจของเรา เขาก็จะมารักษา หรือให้ประโยชน์บางอย่าง แก่เราตามกำลังที่เขาจะทำได้ ไม่ใช่ว่า จะบันดาลอะไรได้หมด อยู่ที่บุญ และศีลของเรา และของเทวดาเหล่านั้นด้วย ถ้าเทียบศักยภาพระหว่างเทวดากับมนุษย์แล้ว มนุษย์จะมีศักยภาพมากกว่าเทวดา ซึ่งพวกเราจะหลงงมงายไปหวังพึงพวกเขา เทวดาเองอยากเกิดเป็นมนุษย์มากกว่าเกิดในที่ไหน ๆ เพราะมนุษย์มีศักยภาพ หรือ ความสามารถในการทำบุญ (และทำบาปด้วย) มากกว่าที่ไหน ๆ
ศาลพระภูมิตามชนบท
|
การไหว้ศาลพระภูมิ
|
นอกเหนือจากความเชื่อในเรื่องของศาลพระภูมิ ทิศทางในการตั้งศาล ก็มีส่วนสำคัญ ที่จะต้องตั้งให้ตรงกับลักษณะของพระภูมิ ตามที่เชื่อถือกันมา ถ้าเป็นข้าราชการ หรือผู้มียศศักดิ์ ให้สหันหน้าไปทางทิศอุดร (ทิศเหนือ) ถ้าเป็นเศรษฐี พ่อค้า ให้หันหน้าไปทางทิศทักษิณ (ทิศใต้) ถ้าเป็นศาลชาวสวน ชาวนา ให้หันหน้าไปทางทิศประจิม (ปัจฉิม = ทิศตะวันตก) ถ้าเป็นศาลพระภูมิวัด (ผิดหลักพุทธศาสนา) สาธารณสถาน ให้หันหน้าไปทางทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) ถ้าเป็นพระภูมิโรงบ่าวสาว ให้หันหน้าไปทางทิศอีสาน หรือทิศอาคเนย์
ส่วนมากจะนิยมหันไปทางทิศอีสาน (อีสาณ = ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) และทิศอาคเนย์ (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) ที่ตั้ง ต้องตั้งทางทิศเหนือของบ้านเสมอ หากจำเป็น จึงเลื่อนมาทางทิศใต้ ระวังอย่าให้เงาบ้านทับศาล หรือเงาศาลทับบ้าน หน้าศาล ห้ามหันหน้าตรงเข้าบ้าน ไม่ควรให้หน้าศาลตรงประตู หน้าต่าง และบันไดบ้าน เพราะอาจจะทำให้บ้านไม่มีความเจริญรุ่งเรือง ไม่อยู่เย็นเป็นสุข
ความเชื่อเหล่านี้ ได้ถ่ายทอดไปสู่ชนชาติจีน ดังจะเห็นว่า หนังสือแทบทุกเล่มของจีน จะกล่าวถึง อภินิหารของพระภูมิเป็นส่วนใหญ่ ที่มาช่วยดลบันดาล ให้ผ่านอุปสรรคทุกอย่าง
พระสงฆ์ในพุทธศาสนา ถ้าปักกลดในป่า ต้องแผ่เมตตาใหัก้บเทวดาก่อน
|
สังคมไทยนับว่า รับเอาวัฒนธรรมอื่น ๆ เข้ามามาก ทั้งพรามหณ์-ฮินดู และอื่่น ๆ
ส่วนทางชาดกในพุทธศาสนา ได้เล่าเกี่ยวกับพระภูมิ ว่า ในสมัยครั้งพระพุทธเจ้าทรงเป็นพระโพธิสัตว์ (คือผู้ที่บำเพ็ญบารมี 10 อย่าง เพื่อเป็นพระพุทธเจ้า เช่น พระมหาชนก พระเวสสันดร ฯลฯ) ได้ทรงบำเพ็ญฌาน ใต้ต้นไทย ปรากฏว่า พระภูมินามว่า "พระเจ้ากรุงพลี" ไม่พอใจ ได้แสดงอภินิหารขับไล่พระโพธิสัตว์ พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยฌาน จึงขอพื้นที่ดิน จากพระเจ้าพรุงพลีเพียง 3 ก้าว เพื่อบำเพ็ญฌานต่อไป
พระเจ้ากรุงพลีเห็นว่า เป็นที่ดินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงอนุญาต แต่พระโพธิสัตว์ ทรงมีบุญญาภินิหาร ดังนั้น เมื่อทรงย่างก้าวเพียง 2 ก้าว ก็พ้นเขตพื้นแผ่นดิน ของพระเจ้ากรุงพลี พระเจ้ากรุงพลี จึงไม่มีที่ดินอยู่ ต้องอกไปอยู่นอกป่าหิมพานต์ ไม่สุขสบายเช่นที่อาศัย ของตน จึงกลับมาทูลขอพื้นที่ดินจากพระโพธิสัตว์ พระพุทธองค์ ทรงรู้แจ้งด้วยฌานว่า พระเจ้ากรุงพลี จะทำหน้าที่เป็นพระภูมิที่ดี คอยคุ้มครองมนุษย์ และสัตว์โลกทั่วไปในภาจภาคหน้า จึงคืนที่ดินให้กับ พระเจ้ากรุงพลี และทรงขอให้ตั้งอยู่ในความสุจริต ไม่เบียดเบียนผู้อื่นอีกต่อไป
จะเห็นว่า คติพุทธ มนุษย์มีศักยภาพมากกว่าเทวดา มนุษย์ที่ดีมีศีล มีบารมี (แบบพุทธ ไม่ใช่แบบไทย = บารมี 10 อย่าง คือ ทาน ศีล ภาวนา เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน (ความตั้งใจมั่น ตั้งใจอย่างแน่วแน่ ไม่ใช่อธิษฐานของสิ่งที่ต้องการ แต่เป็นอธิษฐาน คืือ ตั่้งใจว่า จะทำบุญกุศล เช่น จะเลิก ดื่มเหล้า ฯลฯ เป็นอธิษฐานบารมี) เมตตา และอุเบกขา) เทวดายังกลัว และเคารพยำเกรง ดังนั้น พระพุทะเจ้า จึงแนะนำพระสาวกว่า หากไปอยู่ที่ใด ให้แผ่เมตตา ขออนุญาตเทวดาก่อนเสมอ เทวดาที่ดี จะรับรู้ อนุโมทนา และคอยคุ้มครองรักษา
ดังนั้น เราชาวพุทธ อย่าไปอ้อนวอนอะไรมากนัก เช่น อ้อนวอนหลวงพ่อโสธร ในหลวงรัชกาลที่ 5 อะไร ตอ่มิอะไร เต็มไป ถ้าท่านรับรู้ ท่านคงปวดหัวพิลึก อะไรนะ มนุษย์นี่ ไม่พยายามทำอะไรเอาเสียเลย มัวแต่อ้อนวอนอะไรก็ไม่รู้ ในสิ่งที่มองไม่เห็น ผิดหลัก พุทธศาสนา ที่สอนให้ทำความเพียร อยากได้อะไร ต้องเพียรพยายามทำเอาเอง ดังพุทธพจน์ว่า "สมบัติ จะมีได้ ด้วยการคิดเอาเท่านั้น ก็หาไม่" ถ้าคนอ้อนวอนร่ำรวยจริง มิร่ำรวยกันไปหมดหรือ แล้วจะทำมาหากินไปทำไมกัน เหนื่อยเปล่า สู่เอาแรง มาอ้อนวอนกันมิดีกว่าหรือ แต่ถ้าทำไป ด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อรักษาวัฒนธรรมประเพณี หรือเพื่อความสบายใจ อะไรก็แล้วแต่ ทางพุทธแนะนำว่า อย่าให้เสียหลักกรรม คือการกระทำด้วยความเพียรพยายามของตนเอง....
เครดิตโดย http://allknowledges.tripod.com/spirithouse.html
******************************
ยอดผู้ชุมนุม 28 พย 56
ถึงตอนนี้นายสุเทพต้องการอะไร
โดย นกคูด สนับสนุน แก้ รธน.เผด็จการ |
สลิ่มตัดไฟ รพ.ตำรวจจริง (หมอมายืนยั้นแล้ว)
เศรษฐีพันล้าน! สงกรานต์ อิสระ ให้พนักงาน ร่วมขับไล่ระบอบทักษิณ พรุ่งนี้!
จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ อาสาเป็นการ์ด - เทพ โพธิ์งาม ปักหลักกินนอนที่ศูนย์ราชการฯ
ราชมังคลา 26/11/56
“เฉลิม” กร้าว เอาจริงม็อบ ยึดทำเนียบฯ-สนามบิน ให้เตรียมโลงศพรอเท่าจำนวนคน เย้ยดาวกระจายสร้างศัตรูเพิ่ม ส่งผลดีรัฐบาล ฟันธง “เทพเทือก” จบใน 2 วัน หลังละคร “ ลำยอง ” อวสาน ท้ายึดกระทรวงแรงงานจะเปิดห้องทำงานรอ
ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงเช้า ที่กระทรวงแรงงาน สถานที่ตั้งวอร์รูมรับมือสถานการณ์ม็อบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 6 จ.อุตรดิตถ์ จำนวน 1 กองร้อย ดูแลพื้นที่ภายใน โดยจัดกำลังเฝ้าประตูทางเข้าออกทุกด้าน พร้อมนำรถควบคุมผู้ต้องหา 2 คัน และดับเพลิง 2 คัน มาจอดอยู่บริเวณด้านหน้าตึกที่ทำงานของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย
จากนั้นเวลา 14.00 น. ร.ต.อ. เฉลิม แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุม ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ มีความผิดชัดเจน ใน 2 ข้อหา คือ
1.ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย เป็นกบฏในราชอาณาจักร ผิดกฎหมายอาญามาตรา 113
2. ชักชวนให้ข้าราชการและประชาชนหยุดงาน และไม่จ่ายภาษี ผิดกฎหมายอาญา มาตรา117 มีโทษจำคุก 7 ปี ยังไม่รวมกับที่วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี และคนอื่น ๆ รวมทั้งตนบนเวทีการชุมนุม ซึ่งมีหลักฐานทั้งหมด ได้ให้ถอดเทปการปราศรัยเพื่อเอาผิดกับผู้ปราศรัยทุกคนรวมทั้งนักวิชาการ อาจารย์ อาทิ นายเสรี วงศ์มณฑา นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ที่ด่ารัฐบาลเข้าข่ายหมิ่นประมาท เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ยกเว้นนักศึกษาที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะแค่เรียกมาตักเตือน
ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า เมื่อคืนที่ 24 พ.ย. มีผู้ชุมนุมบนถนนราชดำเนินมากถึง 2.2 แสนคน ยอมรับว่าคนมากจริง ส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพฯ ต้องชื่นชมที่ไม่ก่อเหตุรุนแรง วันก่อนนายสุเทพเปรียบเหมือนปลากัดลูกหม้อเพราะมันสู้ วันที่ 11 พ.ย. ทำตัวเหมือนได้รับชัยชนะแล้ว แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาสัญญานบางอย่างเปลี่ยนไป นายสุเทพกลายเป็น “ ปลาดับ ” ถอดสีท่าทีเปลี่ยนท่าทีเป็นคนละฟิลว์ ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นสัญญาณอะไร ที่รู้ความเคลื่อนไหวของนายสุเทพ เพราะส่งคนไปอยู่ใกล้ ๆ และการใช้วิธีดาวกระจาย 13 เส้นทาง ได้สร้างศรัตรูกับสถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ สร้างความเดือนร้อนทำการจราจรติดขัด อาจทำให้ทรัพย์สินทางราชการและคนอื่น ๆ เสียหาย ตรงนี้ถือว่าเป็นบุญกุศลของคนไทย ของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าอีกภายใน 2 วัน ม็อบจะจบหลังละครเรื่อง “ ลำยอง ” อวสาน หากยื้อต่อไปจะไม่เกิน 7 วัน และจะไม่มีอีกแล้วที่นายสุเทพ จะมานำคนชุมนุมได้มากขนาดนี้
“ นายสุเทพนำคนมามากพอแล้ว เหมือนถูกหวยรางวัลที่ 1 แม้คนเยอะแต่เงื่อนไขการชุมนุมไม่มี พ.ร.บ.สุดซอยที่มันแรง ๆ ก็จบไปแล้ว อย่าให้คนอื่นเดือดร้อน ห้ามยึดทำเนียบฯ และสนามบินเด็ดขาด ถ้ายึดสนามบินขอให้เตรียมโลงศพให้พอดีกับคนที่ไปยึด ผมไม่ได้กร้าว ไม่ได้ขู่น่ะ แต่ตั้งใจ เรื่องจะยึดทุกกระทรวงตามที่นายสุเทพขู่ รัฐบาลไม่ยอมเด็ดขาด และเชื่อว่าประชาชนไม่เอาด้วย และเชื่อว่านายสุเทพ จะไม่โง่ ถ้าอยากจะยึดกระทรวงก็ขอให้มากระทรวงแรงงาน ผมพร้อมจะเปิดทางให้ ที่นี่ห้องทำงานใหญ่โต น่าอยู่ ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงการที่พรรค ปชป. ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 26-27 พ.ย. ว่า ตนเจอนายกฯ ตอนประชุม ครม. มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมชี้แจง 100 % ได้ให้พรรคไปดูว่ามีการยื่นถอดถอนปลดนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หากไม่มีให้ขีดเส้นใต้ไว้เลยว่าไม่มีการยื่นถอดถอน ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไปฟรีคิกส์หรือด่าฟรีขอให้ประท้วงทันที โดยตนจะนั่งข้างล่างและและถ้าพาดพิงก็จะอภิปรายชี้แจง พรรคเพื่อไทยพร้อมตอบโต้ถ้าแรงมาก็แรงไป แต่แรงด้วยเนื้อหาสาระ เมื่อลงมติ เชื่อว่า ปชป. แพ้แน่นอน รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพ ให้ผู้ชุมนุมบุกยึดสถานที่ราชการ และได้ยึดกระทรวงการคลังแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า ต้องดูว่าบุกเข้าไปในลักษณะใด เข้าไปแล้วไล่ข้าราชการออกมาหรือไม่ หากเป็นการเข้าไปพูดคุยก็ไม่เข้าข่าย แต่หากยึดทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์จะแจ้งอีกข้อหากับนายสุเทพ ฐานบุกยึดและทำลายทรัพย์สิน หากมีการตัดน้ำตัดไปจะให้นายจีระศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ไปคุยกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ.
"อภิสิทธิ์"ส่งข้อความห้ามส.ส.ปชป.ทุกคนทำผิดกฎหมาย เผย"สุเทพ"เดินเลยธงต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
แหล่งข่าวจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา(25พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งข้อความถึงส.ส.ของพรรคทุกคน โดยแจ้งว่าห้ามส.ส.ทุกคนทำผิดกฎหมาย
แหล่งข่าว ยังกล่าวถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณด้วยว่า นายสุเทพไม่ได้ปรึกษาหารือแกนนำในพรรค โดยระยะหลังมานี้ นายสุเทพไม่ได้เรียกประชุมคณะทำงานเวทีแล้ว แต่ได้คุยกับแกนนำม็อบเวทีอื่นๆ เป็นหลัก โดยเมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสุเทพก็หารือกับนายสมศักดิ์ โกศัยสุข อดีตแกนนำพันธมิตรฯ เป็นเวลานาน
ทั้งนี้ ยอมรับว่าเวลานี้กระแสในพรรคไม่สบายใจต่อแนวทางดังกล่าว เพราะนายสุเทพเดินเลยธงต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไปไกลมาก แต่หัวหน้าและผู้ใหญ่ในพรรคยังไม่ได้เรียกประชุมเพื่อกำหนดท่าทีของพรรคที่มีส.ส.ของพรรคไปร่วมเคลื่อนไหว
วันนี้ดิฉันขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการยกระดับการชุมนุมที่ก่อนหน้านี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ และรัฐบาลก็เคารพต่อเสรีภาพและการแสดงออกในการชุมนุมของทุกกลุ่มที่มีความหลากหลาย แต่ก็ไม่ละเลยที่จะบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของประเทศ เพื่อคุ้มครองความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชน ในการใช้ที่สาธารณะ ตลอดจนการติดต่อราชการ
แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ในวันนี้ มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้กระจายการชุมนุม โดยใช้กำลังคนกดดัน ปิดล้อมสถานที่ราชการ เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ โดยใช้กำลังบุกทำลายประตูรั้ว เข้าไปในสถานที่ราชการ มีการตัดกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา เพื่อมิให้ปฏิบัติราชการได้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นสถานการณ์อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและสถานที่ราชการในการให้บริการประชาชน
รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาไว้ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการรักษาทรัพย์สินของราชการ การดำรงชีวิตโดยปกติสุข รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ความสงบเรียบร้อยและประโยชน์ส่วนรวม ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ในการบังคับใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.๒๕๕๑ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร / จังหวัดนนทบุรี / จังหวัดสมุทรปราการ เฉพาะอำเภอบางพลี / จังหวัดปทุมธานี เฉพาะอำเภอลาดหลุมแก้ว
แม้รัฐบาลจะได้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว แต่ดิฉันขอยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด โดยจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลในการบังคับใช้กฎหมาย และขอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติราชการทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง และขอให้กำลังใจในการปฏิบัติราชการให้ลุล่วงไปด้วยดี ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และอย่าหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ โดย ให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการเพื่อรักษากฎหมาย และให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยขอเรียกร้องให้ฝ่ายที่เห็นต่าง ใช้กระบวนการของรัฐสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือเป็นกลไกภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพ “หลักนิติรัฐ” ทั้งนี้รัฐบาลยังคงยืนยันเจตนารมณ์ ในการหารือและรับฟังความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความสงบสุข สมานฉันท์ของคนในชาติ
นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
25 พ.ย 2556
****************************
วันที่: Fri Nov 15 19:04:48 ICT 2024
|
|
|