....มีสตรี นางหนึ่งนิ่ง และทำงาน
มีสตรีนางหนึ่ง ไม่สะท้าน ต่อคำติฉิน
มีสตรีนางหนึ่ง ไม่บ่นท้อ ให้ใครยิน
มีสตรีนางหนึ่ง ใจดั่งหิน ไม่หมิ่นใคร
....ไม่โต้กลับ แต่ขับสู้ รู้หน้าที่
ไม่อวดดี แม้นถูกหยาม ประณามร้าย
ไม่แก้ตัว มัวมุ่งแต่ แก้ไขไป
ยิ่งนานวัน "ยิ่งลักษณ์"ได้ หัวใจคนฯ.
ขอบคุณข้อความ By หมออั้ม อิราวัต อารีกิจ
***************************
น้ำตาหยดสุดท้าย
....เหือดเเห้งเเล้ว น้ำตา ที่เคยไหล
หมดสิ้นไป กันเสียที ที่ผิดหวัง
เจ็บยิ่งนัก ร้าวลึก ผนึกดัง
ภูผาพัง ถล่มใจ ใกล้เกือบตาย
....ยอมรับว่า ล้มครั้งนี้ มีเเต่เศร้า
ซัดเสียเรา เเก่นใจยับ ดับสลาย
น้ำตาหลั่ง ไหลรินรด หยดทั่วกาย
มอบให้ชาย ใจสุดทราม หยามสตรี!!...
*******************************
ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก
ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน
เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้
เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว
ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน
พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย
เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน
แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยอิดหนาระอาใจไปตามๆกัน
ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับผิด
และชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ
วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน
ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง
เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัย
ไม่รู้จั กใช้เทคโนโลยี่ ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่า
ท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา
ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปทีล้างไปบ่นไป
ประเภทตูจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้
โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือดี
ว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น
ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด
มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตู
นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจกลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน
นับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ
อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง
วันๆไม่เห็นท่านทอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ
ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน
การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเ ป็นคน
จัดการไปเสียทุกอย่าง เห็นแล้วเลยนึกร้อนวิชา
เสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย
รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้ว
ไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่นเขาดูถูก
อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอให้
หลวงพ่อเจ้าอาวาส
มีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น
และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง
ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า
เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำ
หลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วย
ท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อย
ทั้งหลายฟังแต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน
อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา
แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่ง
ที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ ใกล้ๆ
เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือน ตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน
คันไปทั้งตัว ฉันเห็นมันวิ่งวุ่น ไป มาทั้งวัน
เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรงนี้
อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน แต่พวกเธอรู้ไหม
เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ในใจ
หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน
สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี
คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน
แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที
เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า
เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่
แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก
พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร
สวดมนต์เย็นแล้ว
ขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น
ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบ แต่ในวุ่นวาย
นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู
ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอใน หัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง
นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง
เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก
” อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อน
ขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา ”
โยมแม่ได้ฟังแล้วก็ได้แต่ยกมืออนุโมทนาสาธุการกราบลาพระลูกชาย
แล้วก็เดินออกจากวัดไปขึ้นรถพลางนึกถามตัวเองอยู่ในใจว่าคำว่า
หมาขี้เรื้อน ของพระลูกชายหมายความว่าอย่างไรกันแน่หนอ
ถ้าเรา ยังเป็น โรค อยู่ในใจ ไม่ว่าเราย้ายงาน ไปที่ไหน
เราก็บ่นว่าสถานที่เหล่านั้น สกปรก สิ้นดี
***********************************************************
รู้ไว้ใช่ว่า...วิธีเอาตัวรอดจากฟ้าผ่า
ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าเกิดจากอะไรและจะมีวิธีการป้องกันความเสี่ยงนี้ได้อย่างไร?
นับเป็นเรื่องสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สามีภรรยาเข้าใหม่ปลามันอย่าง ดร.อารัมภ์ กาวีวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ทันตแพทย์หญิงรัชยา ตันตรานนท์ ซึ่งเพิ่งเมื่อเข้าพิธีมงคลสมรสกันเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ต้องมาจบชีวิตลงระหว่างการฮันนีมูน จากปรากฏการณ์ฟ้าผ่า ใกล้จุดชมวิว "เลอเฟวเรอร์" ของอุทยานแห่งชาติ แกรนด์แคนยอน รัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
แม้จะกระทันหัน...แต่อย่างน้อยที่สุดทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกันจนวันสุดท้าย และได้จากไปในช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต...
เมื่อไม่นานมานี้ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนาให้ความรู้เรื่อง "ฟ้าผ่า ภัยธรรมชาติที่มาพร้อมฤดูมรสุม" พร้อมทั้งแนะวิธีการปฏิบัติตัวในช่วงฝนฟ้าคะนอง โดย สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า ฟ้าผ่าเกิดจากเมฆคิวมูโลนิบัสหรือเมฆฟ้าคะนอง เมื่อหยดน้ำในเมฆมีขนาดใหญ่มากจนไม่สามารถต้านแรงดึงดูดของโลกไว้ได้ จะเริ่มตกลงสู่พื้นดิน เป็นกระแสอากาศไหลลง (Downdraft)
การเกิดทั้งกระแสลมพัดขึ้นและลงนี้จะทำให้เกิดการแยกประจุบวกและลบภายในก้อนเมฆขึ้น โดยด้านบนของเมฆจะเป็นประจุบวกและด้านล่างซึ่งเป็นฐานเมฆจะเป็นประจุลบ แต่เนื่องจากฐานเมฆอยู่ใกล้กับพื้นดินมาก จึงเกิดการเหนี่ยวนำให้สิ่งของต่างๆ ทั้งต้นไม้บ้านเรือน ตึก คน บริเวณใต้ฐานเมฆเป็นประจุบวก ประจุลบที่ฐานเมฆจะเคลื่อนที่ลงมายังพื้นดินที่เป็นประจุบวก เกิดเป็นฟ้าผ่าขึ้นในที่สุด
นอกจากนี้ ลักษณะของฟ้าผ่ายังเกิดขึ้นได้หลายชนิดด้วยกัน เช่น การเกิดฟ้าผ่าจากฐานเมฆลงสู่พื้นจากเมฆสู่เมฆ ฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นภายในเมฆเอง รวมทั้งฟ้าผ่าจากยอดเมฆลงสู่พื้น เรียกว่า Positive Lightning การเกิดฟ้าผ่าชนิดนี้รุนแรงมาก เนื่องจากสามารถผ่าได้ไกลถึง 30 กิโลเมตร นั่นคือ แม้ว่าเหนือศีรษะเราอาจไม่มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น แต่ก็มีโอกาสถูกฟ้าผ่าชนิดนี้ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของสายฟ้ามักจะผ่าลงในที่โล่งและมีวัตถุสูงเด่นในบริเวณนั้น ดังนั้นความเสี่ยงที่จะถูกฟ้าผ่าของคนในเมืองจะมีน้อยกว่าคนที่อยู่ในที่โล่งแจ้งหรือกลางทุ่งนา เนื่องจากในเมืองมีตึกสูงจำนวนมาก และตึกเหล่านี้มักติดตั้งสายล่อฟ้าอยู่แล้ว แต่ใช่ว่าจะมีความเสี่ยงน้อยแล้วจะปลอดภัย เพราะในเมืองก็มีที่โล่ง เช่น สวนสาธารณะต่างๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ ดังนั้นเมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนองก็ไม่ควรเสี่ยง หลบเข้าอาคารบ้านเรือนจะปลอดภัยกว่า
"วิธีสังเกตคือ เมื่อมีฟ้าแลบแล้วจะมีเสียงฟ้าร้องตามมาภายใน 3 วินาที แสดงว่ามีฟ้าผ่าเกิดขึ้นในรัศมี 1 กิโลเมตร ยิ่งถ้าฟ้าแลบแล้วมีเสียงร้องตามมาใน 1 วินาที แสดงว่าอยู่ใกล้มากแค่ประมาณ300 เมตรเท่านั้น มันมีความเสี่ยง ให้หยุดกิจกรรมทุกอย่างแล้วรีบเข้าไปอยู่ในที่ปลอดภัย จะอยู่ในบ้านตึกที่มิดชิด หรือถ้าไม่ทันก็หลบไปนั่งในรถยนต์ก็ได้เพราะถ้าฟ้าผ่ารถ กระแสไฟฟ้ามันจะวิ่งตามผิวชั้นนอก" อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ถ้าหาที่หลบไม่ได้จริงๆ ให้นั่งยองๆ กอดเข่า เพื่อลดพื้นผิวสัมผัสกับพื้นให้มากที่สุดอย่านอนราบลงกับพื้น เพราะหากเกิดฟ้าผ่าขึ้นกระแสย้อนกลับจากพื้นดินอาจเคลื่อนที่ผ่านตัวเรารวมทั้งห้ามหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ๆ หรือต้นไม้สูงๆเด็ดขาด เนื่องจากต้นไม้จะถูกเหนี่ยวนำให้เกิดประจุบวกจำนวนมาก โอกาสถูกฟ้าผ่าจึงสูงมาก หรือหากเกิดฟ้าผ่าขึ้นที่ต้นไม้นั้น ก็อาจถูกกระแสไฟฟ้าที่เคลื่อนที่จากลำต้นมายังโคนต้นไม้ได้เช่นกัน
สธน ให้ข้อมูลด้วยว่า การตายที่มีสาเหตุจากฟ้าผ่าเกิดขึ้นทุกปี เฉพาะปีนี้ก็คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 30 คน และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในฤดูมรสุม ซึ่งเกิดบ่อยครั้งในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ที่ผ่านมา
และที่ต้องระมัดระวังอีกช่วงหนึ่งคือปลายฤดูฝนระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ซึ่งจะเกิดฝนตกหนักฟ้าคะนองอีกครั้ง
***************************************
สุเทพ" เตรียมออกมาข้างถนน ต้านนิรโทษฯ ลั่นต้องแพ้ชนะกันไปข้าง
ต่อมาเวลา 19.50 นายสุเทพ อภิปรายว่า เมื่อเสียงนกหวีดของประชาชน ดังพร้อมกันเซ็งแซ่ ตนจะออกมา
ร่วมต่อต้านรัฐบาลกับพี่น้องทั้งหลาย หากร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของนายวรชัย ออกมาบังคับใช้เป็น
กฎหมายเมื่อไหร่ คนที่จะได้ประโยชน์ คือ สมุน บริวาร พ.ต.ท.ทักษิณ และถ้าการต่อสู้ในสภาฯไม่ไหว จะเป่า
นกหวีดยาวไม่เลิก และจะเป่าไปทั้งเดือน ทั้งนี้ทุกประเทศในโลกมีกฎหมายเพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
ของบ้านเมือง เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินของประชาชน แต่ฝั่งรัฐบาลมีพวกมากอยู่ในสภา ฯ ยกมือผ่านกฎมายนั้น
ออกมา ถ้าเป็นอย่างนี้หมายความว่าคนที่ฆ่าคนตาย วางเพลิงเผาทรัพย์ ถ้าเป็นคนของพวกมาก ก็ออกกฎหมาย
ล้างความผิดให้ไม่ต้องติดคุก ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายในประเทศไทยไม่เหลือแล้ว และหากกฎหมาย
ฉบับนี้ผ่าน ต่อไปนี้คนไทยทั้งหลายต้องขุดรูอยู่ กลายเป็นมนุษย์รูแน่
นายสุเทพ กล่าวว่า คนไทยมีทางเลือก 2 ทางคือ เอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ ลุกขึ้น
มาต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ ตนจะออกมายืนข้างประชาชน เพราะการต่อสู้คราวนี้ไม่ง่ายไม่ใช่วันเดียวแล้วจบ
แต่จะยืดเยื้อ ยาวนาน เพราะฉะนั้นถ้ารักประเทศไทย ไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายเกิดขึ้น ไปบอกน.ส.ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กลับบ้านมาถอนกฎหมายล้างผิดออกจากสภาฯ เราต้องมาระดมสมอง มาช่วยกันคิด
ไม่ต้องรอให้ผู้นำคิด คน 65 ล้านคนคิด ย่อมดีกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ คิดคนเดียวแน่นอน และงานนี้สู้ได้ด้วยหัวใจ
โดยไม่ต้องใช้เงินสู้ และการต่อสู่ครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องระแวง ว่าถ้ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์
ล้มไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะขึ้นมา เพราะเรื่องของพรรคควรพักไว้ก่อน เอาเรื่องของประเทศชาติก่อน
ปชป.น่าจะหันมาเล่นเรื่องการขึ้นราคาแอลพีจี วันที่ 1 ก.ย.นี้มากกว่า
อย่างน้อยๆก็จะได้คะแนนจากคนใช้ แอลพีจีตั้ง สิบห้าล้านคนหรือครึ่งหนึ่งก็ยังดีกว่าไปค้านเรื่องพรบ.ปรองดอง
************************
ฮือฮา!!! คลิป อัลเคด่า ประกาศ ไล่ล่า ทักษิณ ???
กลุ่มอัล กออิดะฮ์ ออกแถลงการณ์ ประกาศฆ่าอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร แล้วเพื่อแก้แค้นให้กับพี่น้องชาวมุสลิมในประเทศไทย หลังจากที่มีพี่น้องชาติมุสลิมร้องขอในเรื่องนี้ โดยเตือนว่าหากพบที่ไหน จะฆ่าทิ้งทันที
วันนี้(27ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบคลิปใน ยูทูป ได้มีชื่อว่า Al-Qaeda video against former Thailand Prime Minister Thaksin Shinawatra โดยมีเนื้อหาว่าเวลาของคุณได้หมดลงแล้วสำหรับเรื่องที่คุณได้ทำกับพี่น้องชาวมุสลิมของพวกเราในภาคใต้ของประเทศไทย โดยในตอนนี้ถึงเวลาล้างแค้นแล้ว โดยคุณได้ฆ่าพวกพี่น้องชาวมุสลิมของเราและสังหารโหดพี่น้องเราเมื่อปี 2547 ทั้งพยายามยึดครองเสรีภาพของพี่น้องชาวมุสลิมในภาคใต้ของไทย และตอนนี้คุณได้ปกครองรัฐบาลโดยใช้น้องสาวเป็นหุ่นเชิด โดยในตอนนี้เราขอประกาศว่าจะฆ่าคุณนับแต่บัดนี้ ซึ่งเราจะพยายามฆ่าคุณในทุกๆที่ ทุกเวลา บนโลกแห่งนี้ คุณไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว เราจะฆ่าคุณเพื่อแก้แค้นให้กับพี่น้องชาวมุสลิม โดยเราได้ตอบร้องตามคำขอของพี่น้องชาติมุสลิม และจำไว้ว่าหากพบคุณที่ไหน เราจะฆ่าคุณที่นั้น
**********************************************
ถนนสายเอเชีย
โดย...น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com
|
ถนนสายเอเชีย มีอีกชื่อว่า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (บางปะอิน-พยุหะคีรี) เป็นถนนส่วนหนึ่งในโครงข่ายของทางหลวงเอเชีย (Asian Highway Network)
ทางหลวงสายเอเชีย เป็นเส้นทางที่เชื่อมการติดต่อระหว่างประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชียเริ่มจากทางตะวันตกของทวีป คือ จากประเทศตุรกี ผ่านอิรัก อิหร่าน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน อินเดีย บังกลาเทศ พม่า ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม
ทางหลวงสายเอเชียในไทย มี 12 สาย สายหลัก ได้แก่ AH 1 (เริ่มจากพรมแดนพม่าที่แม่สอด-ตาก ไป พยุหะคีรี-บางปะอิน-หินกอง-นครนายก-ปราจีนบุรี-อรัญประเทศ) ระยะทางประมาณ 703 กิโลเมตร
AH 2 (เริ่มจากแม่สาย-เชียงราย-พิษณุโลก-นครสวรรค์-บางปะอิน-กรุงเทพฯ-นครปฐม -เพชรเกษม-หาดใหญ่-สะเดา) ตามลำดับ ระยะทาง 2,254 กิโลเมตร
AH 12 เริ่มจากทางแยกต่างระดับหินกอง จังหวัดสระบุรี (ซึ่งเป็นจุดที่สาย AH 1 และ AH 12 มาบรรจบ) ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือตามถนนมิตรภาพ ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี จนถึงหนองคาย เป็นระยะทาง 520 กิโลเมตร
สำหรับถนนสายเอเชียเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2516 สมัยรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี
เริ่มต้นที่ชุมทางต่างระดับบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระ นครศรีอยุธยา มุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ ผ่านนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ศูนย์ราชการจังหวัดพระ นครศรีอยุธยา ศูนย์ การค้าอยุธยาพาร์ค นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร
|
ข้ามแม่น้ำป่าสักที่ต.บ่อโพง อ.นคร หลวง ไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 347 (ปทุมธานี-บางปะหัน) จากนั้นมุ่งขึ้นไปทางเหนือผ่านจังหวัดอ่างทอง สิงห์บุรี และบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
แต่เดิมถนนสายนี้เป็นเพียงทางหลวงขนาด 2 ช่องจราจรสวนทางกัน ซึ่งมีด่านเก็บเงินที่อ.บางปะอิน อ.บางปะหัน จ.พระนคร ศรีอยุธยา อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
ต่อมานายสมัคร สุนทรเวช รมว.คมนาคมในขณะนั้น ประกาศยกเลิกเก็บค่าผ่านทาง ทำให้ด่านต่างๆ กลายสภาพเป็นด่านร้าง บ้างก็ถูกดัดแปลงเป็นสำนักงานแขวงการทาง เป็นสถานีตำรวจทางหลวง และเป็นด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุก
ต่อมาถนนสายนี้ขยายเป็น 4 ช่องจราจร เมื่อปี พ.ศ.2535-2537 ก่อสร้างทางต่างระดับตามจุดต่างๆ เช่น พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี อินทร์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี แต่ในปี พ.ศ.2549 กรมทางหลวงได้ขยายช่องจราจรเป็น 6-8 ช่องจราจรไป-กลับ ปัจจุบันแล้วเสร็จทั้งโครงการเรียบร้อย
ปัจจุบันนี้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 นับหลักกิโลเมตรที่ 0 จากต่างระดับบางปะอิน ซึ่งแต่เดิมนั้นได้นับหลักกิโลเมตรจากถนนพหลโยธินเป็นจุดเริ่มต้น
ถนนสายเอเชีย หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 มีระยะทางตลอดทั้งสายรวมทั้งสิ้น 150.70 กิโลเมตร
***************************************