ดูดีๆซิ...
....กลิ่นอะไร? เหม็นๆ เห็นหรือเปล่า?
หื่นเน่าๆ ลอยอยู่สูง ฟุ้งเวหา
กลิ่นอบอวล ชวนเป็นลม ต้องดมยา
เหม็นเป็นบ้า เหมือนกวางเน่า เคล้าหมาตาย
....ขึ้นอีกหน่อย ค่อยๆจ้อง มองให้ทั่ว
ไม่ต้องกลัว หาให้เห็น เหม็นจะหาย
กลิ่นเหมือนอึ เเนบชิด สนิทกาย
มึนตาลาย หากไม่พบ สลบเลย(กู)....
****************************
ประกาศแล้ว ! วิธีการจำคุกแบบใหม่ ไม่ต้องอยู่เรือนจำ
วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจำคุกโดยวิธีการอื่น ที่สามารถจำกัดการเดินทางและอาณาเขต พ.ศ. ๒๕๕๖
เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๘๙/๒ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ บัญญัติให้ศาลอาจมีคำสั่งให้จำคุกโดยวิธีการอื่น ที่สามารถจำกัดการเดินทางและอาณาเขตของผู้ซึ่งต้องจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้
“ผู้ถูกจำกัด” หมายความว่า ผู้ซึ่งศาลมีคำสั่งให้จำคุกโดยวิธีการอื่นที่สามารถจำกัดการเดินทาง และอาณาเขตของผู้นั้น
“การจำกัดการเดินทางและอาณาเขต” ให้หมายความรวมถึง คำสั่งศาลให้จำคุกโดยวิธีการ ห้ามออกนอกเคหสถานหรือสถานที่อื่นใดในช่วงเวลาที่กำหนดโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
“อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า เครื่องอุปกรณ์รับส่งสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เครื่องมือใด ๆ ที่ใช้ติดตามตัว หรือที่ใช้สวมใส่ข้อมือ ข้อเท้า หรืออวัยวะส่วนอื่นใดของผู้ถูกจำกัด รวมทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางและอาณาเขตของผู้ถูกจำกัดได้
“เจ้าพนักงาน” หมายความว่า ผู้บัญชาการเรือนจำ หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายจำคุก
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งให้ปฏิบัติการ ตามกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๒ ในการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีการจำกัดการเดินทางและอาณาเขตแก่ผู้ซึ่งต้อง จำคุกผู้ใด ให้เจ้าพนักงานคำนึงถึงเหตุจำเป็นซึ่งรวมถึงเหตุ ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ซึ่งต้องจำคุกจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
(๒) ผู้ซึ่งต้องจำคุกจำเป็นต้องเลี้ยงดูบิดา มารดา สามี ภริยา หรือบุตร ซึ่งพึ่งตนเองมิได้และขาดผู้อุปการะ
(๓) ผู้ซึ่งต้องจำคุกเจ็บป่วยและต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
(๔) ผู้ซึ่งต้องจำคุกมีเหตุควรได้รับการทุเลาการบังคับให้จำคุกด้วยเหตุอื่น ๆ
ข้อ ๓ ในการยื่นคำร้องตามข้อ ๒ ให้เจ้าพนักงานผู้ร้องขอเสนอแนวทางปฏิบัติ เงื่อนไขหรือแผนดำเนินการประกอบการพิจารณาของศาลด้วย
ข้อ ๔ แนวทางปฏิบัติ เงื่อนไข หรือแผนดำเนินการตามข้อ ๓ เจ้าพนักงานผู้ร้องขออาจเสนอเงื่อนไขห้ามมิให้ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่อื่นใดในช่วงเวลาที่กำหนด ร่วมกับการใช้อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
ข้อ ๕ ให้เจ้าพนักงานจัดให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้ถูกจำกัดตามสมควร เพื่อมิให้ บุคคลใดดัดแปลง ทำให้เสียหาย ทำลาย เคลื่อนย้าย หรือถอดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ เพื่อมิให้มีการบังคับตามคำสั่งศาล
ในกรณีที่พบว่ามีเหตุตามวรรคหนึ่ง หรือเหตุอื่นใดที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชำรุด เสียหายหรือไม่สามารถใช้บังคับได้ตามคำสั่งศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานต่อเจ้าพนักงานทราบทันที
ข้อ ๖ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกจำกัดฝ่าฝืนเงื่อนไข หรือสอบถามบุคคลที่อยู่ในที่นั้น ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลหรือหลักฐานเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ อุปนิสัย และความประพฤติของผู้ถูกจำกัด
(๒) รายงานข้อเท็จจริง หรือพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อันเป็นเหตุควรแก้ไขเปลี่ยนแปลงการจำกัดการเดินทางและอาณาเขตของผู้ถูกจำกัดแก่เจ้าพนักงานทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
(๓) สอบถาม แนะนำ ช่วยเหลือผู้ถูกจำกัดตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควรในเรื่องความประพฤติและการประกอบอาชีพ
(๔) ตรวจสอบการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติ เงื่อนไข และแผนดำเนินการที่ศาลให้ ความเห็นชอบตามข้อ ๓
ข้อ ๗ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจออกระเบียบหรือประกาศ เพื่อกำหนด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางและอาณาเขตของผู้ถูกจำกัด หน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือเงื่อนไขอื่นใด เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎกระทรวงนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
*************************************************************
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
nachart@yahoo.com
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เกิดขึ้นครั้งแรกของโลกเป็นความคิดของนายอันโด โมโมฟุกุ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัทนิชชิน ในปี 2501 ซึ่งเป็นยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประชาชนประสบภาวะข้าวยากหมากแพง กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นแนะให้ชาวญี่ปุ่นกินขนมปังทำจากข้าวสาลี โดยได้รับการสนับสนุนจากอเมริกา แต่นายอันโดกลับคิดว่าทำไมชาวญี่ปุ่นต้องกินขนมปัง ทั้งๆ ที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยกับการกินบะหมี่หรือราเมน เขาจึงทดลองทำบะหมี่ที่ใครๆ ก็ทำกินเองได้ง่าย สะดวกและราคาถูก
หลังจากที่ลองผิดลองถูกอยู่หลายเดือน ในที่สุดวันที่ 25 ส.ค. 2501 นายอันโดคิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้เป็นครั้งแรก เมื่อเขาอายุได้ 48 ปี โดยตั้งชื่อบะหมี่ของเขาว่า ′ชิกิ้น ราเมน′ โดยนำเส้นราเมนที่ได้จากการผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่ (โทริคะระ) ทอดในน้ำมันปาล์มไล่ความชื้นออกไป เพื่อสามารถเก็บไว้ได้นาน แค่เติมน้ำร้อนเส้นก็จะคืนสภาพเดิมและกินได้ทันทีโดยไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมเลย ปัจจุบันชิกิ้น ราเมนยังเป็นรสที่ขายดีที่ยังคงความอร่อยมาจนถึงทุกวันนี้
ต่อมาปี 2507 นายอันโดก่อตั้งสมาคมอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป และเป็นประธานสมาคมผู้ผลิตราเมนนานาชาติ และก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ราเมนสำเร็จรูปโมโมฟุกุ อันโด
กิจการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับการตอบรับดีมาก กระทั่งปี 2514 นายอันโดในวัย 61 ปี ขยายกลุ่มผู้บริโภคไปยังต่างประเทศ โดยพุ่งเป้าไปที่สหรัฐ และสังเกตเห็นว่าชาวอเมริกันมักจะหักบะหมี่ออกเป็นสองท่อนแล้วใส่ในถ้วย ก่อนจะเติมน้ำร้อนตามไป และใช้ส้อมแทนตะเกียบ ทำให้เขาปิ๊งไอเดียผลิตบะหมี่ในชามขึ้นมา โดยใช้ถ้วยโฟมบรรจุบะหมี่ออกวางขาย
หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นบะหมี่ถ้วย หรือคัพเมน หรือคัพนู้ดเดิ้ล ตามประวัติบอกว่าตอนแรกบะหมี่ถ้วยยังไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก จนเมื่อเกิดเหตุการณ์การลักพาตัวประกันโดยกลุ่มต่อต้านจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่จังหวัดนากาโน่ โดยมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ตลอดเวลาต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 10 วัน เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์โทรทัศน์ญี่ปุ่น ถึงร้อยละ 90
ผู้ชมเห็นความเคลื่อนไหวและความเป็นไปของเหตุการณ์โดยตลอด และมีภาพของคนที่กำลังกินคัพนู้ดเดิ้ลในสถานที่เกิดเหตุด้วย เพราะในช่วงนั้นอากาศหนาวมาก จึงกินข้าวในกล่องหรือเบนโตะไม่ได้เพราะแข็งจนกินไม่ได้ จากนั้นมาคนญี่ปุ่นจึงได้รู้จักคัพนู้ดเดิ้ลในวงกว้างและแพร่หลายไปทั่วโลก
สำหรับประเทศไทย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้ามาราวปี พ.ศ.2514-2515 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อแรกในประเทศคือ "ซันวา" ที่มีต้นแบบมาจากบะหมี่ญี่ปุ่นที่ต้องต้มก่อนกิน ตามมาด้วย ยำยำ ไวไว มาม่า ในเวลาใกล้เคียงกัน
แต่คนไทยนิยมเรียกว่า "มาม่า" จนเป็น Generic Name หรือชื่อสามัญที่คนไทยในปัจจุบันใช้เรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปเสียแล้ว
*************************************************************
ของกลาง
รู้ไปโม้ด
โดย...น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com
ของกลาง ภาษาอังกฤษเรียก exhibit ระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 15 เรื่องของกลางและของส่วนตัวของผู้ต้องหา ข้อที่ 413 ระบุคำว่า ของกลาง นั้นหมายความว่า "วัตถุใดๆ หรือทรัพย์สินซึ่งตกมาอยู่ในความคุ้มครองของเจ้าพนักงานโดยอำนาจแห่งกฎหมาย หรือโดยหน้าที่ในทางราชการและยึดไว้เป็นของกลางเพื่อพิสูจน์ในทางคดี หรือเพื่อจัดการอย่างอื่นตามหน้าที่ราชการ"
แบ่งออกเป็นสองแบบ
1.ของกลางในคดีอาญา คือสิ่งของที่เกี่ยว ข้องจัดการทางคดีอาญา เช่นสิ่งของที่บุคคลมีไว้เป็นความผิดหรือสิ่ง ของที่ใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ความผิด
2.ของกลางอย่างอื่น คือ ของกลางที่ไม่เข้าอยู่ในลักษณะของกลางในคดีอาญา เช่น ของที่เก็บตก หล่น หลุด ลอยได้ เป็นต้น
ส่วนการเก็บรักษาและจำหน่ายของกลาง ข้อ 414 ระบุว่าของกลางในคดีอาญาให้เป็นหน้าที่ของสารวัตรหรือผู้รักษาการแทนเป็นผู้เก็บรักษาให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
ของกลางสิ่งใดมาถึงสถานีตำรวจ ให้พนักงานสอบสวนจดรูปพรรณสิ่งของลงในรายงานประจำและสมุดยึดทรัพย์ของกลาง แล้วเขียนเลขลำดับยึดทรัพย์ติดไว้กับสิ่งของนั้นให้มั่นคง อย่าให้หลุดหรือสูญหายได้ และเก็บของกลางนั้นไว้ในหีบ หรือตู้เก็บของกลางใส่กุญแจให้เรียบร้อย เว้นแต่ของกลางนั้นมีค่ามาก เช่น เครื่องเพชร ทองรูปพรรณ เงินจำนวนมาก หรือเอกสารสำคัญต่างๆ
หากเก็บรักษาที่สถานีตำรวจอาจไม่มั่นคง ในเขตพื้นที่นครบาลให้ส่งของกลางไปฝากไว้กับกองการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
การยึด การมอบ การรับคืนของกลางให้ผู้ยึด ผู้มอบ ผู้รับ ลงชื่อไว้ในสมุดยึดทรัพย์ของกลางและงานประจำวันเป็นสำคัญ
ข้อ 419 (3) ระบุไว้ว่า เอกสารหรือวัตถุของกลางที่ได้มาให้ลงบันทึกลักษณะสภาพ สถานที่ วัน เวลาที่พบ โดยจดบันทึกเป็นข้อความสั้นๆ หรือบันทึกลงในแผนที่สังเขป หรือถ้าสามารถถ่ายภาพของกลางและสถานที่ที่พบได้ก็ให้ถ่ายภาพไว้ด้วย
(4) เอกสารหรือวัตถุของกลางใด ต้องทำเครื่องหมายเพื่อจดจำได้ ตามคำแนะนำในเอกสารคู่มือของกองพิสูจน์หลักฐาน
ของกลางที่ทราบตัวผู้มีสิทธิจะได้รับของคืนอยู่แล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศให้ทราบ แต่ผู้นั้นยังไม่ได้มารับของไปเกินกว่า 1 ปีนับแต่วันที่แจ้ง ให้ริบของนั้นๆ เป็นของรัฐ ส่วนหากไม่ทราบตัวเจ้าของทรัพย์ให้ประกาศหาเจ้าของภายใน 5 ปีนับแต่วันประกาศ
ข้อ 418 (14) ระบุว่า ส่วนผู้รักษาของกลางคนใดจงใจ หรือเลินเล่อละเลยหรือดัดแปลงแก้ไขของกลาง ให้เปลี่ยนไปจากสภาพที่เป็นอยู่เดิม จงใจหรือเลินเล่อสำรวจของกลางให้ผิดไปจากความเป็นจริง หรือยักยอกไว้เป็นของตนเสีย
นอกจากจะต้องได้รับโทษอันจะพึงมีตามกฎหมายหรือโทษตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนที่ใช้อยู่แล้ว ยังจะต้องชดใช้ราคาของ หรือค่าเสียหายแทนที่อีกส่วนหนึ่งด้วย
ระเบียบคดีว่าด้วยการจัดเก็บรักษาของกลางนี้ ประยุกต์ใช้กับหน่วยงานอื่นๆที่มีอำนาจหน้าที่แบบเดียวกัน
สำหรับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งมีภาระหน้าที่พื้นฐานคล้ายคลึงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็อนุโลมให้ใช้ระเบียบนี้ เช่นกัน
*********************************************************
***********************************************************
อุบลฯ น.ส.สมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญชนะเลือกตั้งนายกเทศบาลนครอุบลฯ
อุบลราชธานี ผลการเลือกตั้งนายกเทศบาลนครอุบลราชธานี นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ ผู้สมัครหน้าหน้าใหม่ได้รับการเลือกตั้งโดยชนะ นางรจนา กัลป์ตินันท์ นายก 2 สมัย ภรรยานายเกรียง กัลป์ตินันท์ ร่วม 5,000 คะแนน
(24มี.ค.56) การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ผล ปรากฏว่าผู้สมัครหมายเลข 1 น.ส.สมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ ผู้สมัครหน้าใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตรย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีกลุ่มการเมืององค์การบริหารส่วนจังหวัดและนักธุรกิจภาย ในจังหวัดอุบลราชธานี ชนะนางรจนา กัลป์ตินันท์ อดีตนายก 2 สมัย ภรรยานายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต ส.ส.และเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้ 20,560 คะแนน ส่วนนางรจนา ได้ 15,776 คะแนน ส่วน น.ส.พิศทยา ไชยสงคราม ได้ 152 คะแนน
สำหรับผู้มีสิทธิลงคะแนนครั้งนี้ มีทั้งสิ้น 56,891 คน จากประชากร 82,693 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวน 38,613 คน คิดเป็น 67.87% บัตรเสีย 815 ใบ คิดเป็น 2.11% ไม่ประสงค์ลงคะแนน 1,310 ใบ คิดเป็น 3.39%
พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีดรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลของ คุณทักษิณ ชิณวัตร ปี พ.ศ 2548 รักษาการนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ถูกปฎิวัติ
( จากคุณ น้องใหม่ เสรีไท )
ขอตอบในฐานะคนอุบลและติดตามอยู่ในพื้นที่ตลอด
ชิดชัยมาหนุนเบอร์ 1 ครั้งนี้ไม่ได้มาในฐานะพรรคเพื่อไทยแต่มาเพราะสนิทกับ นายก อบจ. อุบล ที่เป็นผู้สนับสนุนเบอร์ 1 และไม่ใช่ ชิดชัยคนเดียวที่มาหนุนเบอร์ 1
ยังมี สส และ อดีต สส จาก ปชป (วิฑูรย์ นามบุตร) ชทพ เพื่อแผ่นดิน รวมถึง กลุ่มใกล้ชิดพธม อย่าง อ.ขวัญสรวง อติโพธิ ก็ขึ้นเวทีใหญ่เดียวกัน หาเสียงให้เบอร์ 1 มาแล้ว
จุดประสงค์ของการมารวมตัวครั้งนี้เพื่อหยุดความกร่างของเกรียง กัลป์ตินันท์ และแก๊งเสื้อแดงในอุบล
ฝั่งเกรียงเวลาปราศรัยใหญ่ ใช้โลโก้ เพื่อไทยชัดเจน แถมพวกแต่ละคนที่มาเช่น อดิศร เพียงเกษ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, ดนุพร ปุณกัณฑ์ รวมถึง สส.เพื่อไทยเสื้อแดงอีกหลายคน ฝ่ายเสื้อแดงอุบลก็ออกมาหาเสียงให้เบอร์ 2 ชัดเจน
ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการต่อสู้ของฝั่งที่ไม่เอาเสื้อแดง และฝั่งเสื้อแดงที่ดูแลโดยเกรียง
ชิดชัยในครั้งนี้ไม่เคยพูดถึงพรรคเพื่อไทยและทักษิณแม้แต่คำเดียว แต่มาในฐานะประธานสภาพัฒนาอุบล เพราะชิดชัยเป็นคนอุบล
สรุปคือการเลือกตั้งครั้งนี้ พูดได้ว่า คนอุบลไม่เอา เกรียง และแก๊งเสื้อแดง ที่เผาศาลากลาง ชัดเจน ไปถามคนอุบลในเขตเทศบาลอุบลได้
อีกเรื่องคือผลงานห่วยแตกของเกรียงและภรรยา สวาปามจนคนเค้าระอากันไปหมด จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ล้มช้างในครั้งนี้
แว่วว่า 500 ชนะ 2000
จบข่าว จากคนในพื้นที่ ที่ไปกาเบอร์ 1
วันที่: Fri Nov 15 18:30:36 ICT 2024
|
|
|
|
|
|