ผู้ว่า กทม.
....การยืนหยัด ต่อสู้ ดูเข้มข้น
เเต่ละคน เกินร้อย ไม่ถอยหนี
สุดกำลัง ทุ่มเข้า เท่าที่มี
เพียงหวังที่ ขออาสา มาทำงาน
....รู้ทั้งรู้ ว่าเเพ้ เเต่ไม่หวั่น
ขอสู้กัน นโยบาย บริหาร
โลกรู้ไว้ ฟ้าดินเห็น เป็นตำนาน
เพื่อสืบสาน ประชาธิปไตย ให้คนกรุง....
*********************************************************
wifi อันตรายที่ผู้ชายพึงระวัง
Fertility and Sterility เจอร์นัลตีพิมพ์ผลการวิจัยของกลุ่มนักวิจัยในอาร์เจนติน่าซึ่งได้ทำการทดสอบทฤษฎีนี้ด้วยการนำอสุจิที่สมบูรณ์แข็งแรงมาวางไว้ใกล้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปที่กำลังดาวน์โหลดข้อมูลอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง จึงพบว่า ¼ ของอสุจิหยุดว่าย โดยเมื่อเปรียบเทียบกับอสุจิที่นำไปวางไว้ห่างจากคอมพิวเตอร์แล้ว มีเพียงร้อยละ 14 เท่านั้นที่หยุดว่าย นอกจากนี้ก็ยังเกิดความเสียหายขึ้นกับดีเอ็นเอของอสุจิที่วางไว้ใกล้กับคอมพิวเตอร์ ร้อยละ 9 อีกด้วย นับว่ามากกว่าปริมาณของอสุจิอีกกลุ่มถึงสามเท่า
นักวิทยาศาสตร์ให้เหตุผลว่า ตัวการที่ทำให้เกิดความเสียหายต่ออสุจิก็คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากอินเทอร์เน็ตไร้สายนั่นเอง อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ได้สรุปผลการทดลองนี้ว่าเป็นผลลัพธ์สิ้นสุด และจะต้องมีการทำการวิจัยเพิ่มเติมต่อไปอีก
ส่วนผลการทดลองอีกครั้งหนึ่งที่ตีพิมพ์ไว้ในเจอร์นัลฉบับเดียวกันก็ระบุว่า นักวิจัยชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งได้นำเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิไปตั้งไว้ใกล้กับถุงอัณฑะของผู้ชาย 29 คน และให้ผู้ชายทั้ง 29 คนนั้นตั้งคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปเอาไว้บนตัก เมื่อเวลาผ่านไป 10-15 นาทีก็พบว่า อุณหภูมิที่ถุงอัณฑะเพิ่มขึ้นสูงถึงระดับที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อการผลิตอสุจิของเพศชาย
การผลิตอสุจิจะสามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพถ้าหากอัณฑะมีอุณหภูมิที่เย็นกว่าอุณหภูมิร่างกายประมาณ 1-2 องศา โดยที่การใช้คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปจะทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 องศาเซลเซียภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง
Dr. Yefim Sheynkin ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปัสสาวะจาก University of New York ได้ให้คำแนะนำว่า วิธีแก้ปัญหาก็คือให้ใช้โต๊ะทำงาน หรือใช้แผ่นรองคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและนั่งแยกขาออกจากกัน แต่วิธีนี้สามารถช่วยได้เพียง 20 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นอัณฑะก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับที่สามารถฆ่าอสุจิได้
**************************************************************************
ฮุนไดคันเร่งค้าง..
ค่ายรถยนต์เกาหลีแม้จะได้รับการพูดถึงมากเรื่องคุณภาพการประกอบ การออกแบบ และรถยนต์ที่สวยเตะตากรรมการแบบ เห็นแล้วโดนใจ ทั้งปรับแบรนด์เป็นคุ้มค่าคุ้มค่า มากกว่ารถราคาถูกๆ แต่ดูเหมือนเรื่องคันเร่งค้างจะยังเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงกันอย่างต่อเนื่อง และมันยังเป็นปริศนา
เรื่องราวคันเร่งค้างใน Hyundai กลายเป็นมหากาพย์โลกยานยนต์อีกครั้งที่ยังหาตัวจับไม่ได้ และล่าสุดในอเมริกา ก็มีเหตุการณ์คันแร่งค้างในฮุนไดเกิดขึ้นในรถยนต์ Hyundai Elantra ใหม่ ที่มีการวางจำหน่ายในตลาดอเมริกา ซึ่งส่งให้วัยรุ่นเจ้าของรถคว่ำกลางถนนหลวงที่ความเร็วกว่า 180 ก.ม./ช.ม.
เหตุการณ์นี้รายงานโดย สำนักข่าวช่อง 8 หลังมีรายงานระบุว่า พบรถ Hyundai Elantra ปี 2011 ขับรถเร็วผิดปกติ แต่ภายหลังหน่วยงานฉุกเฉินก็ได้รับการแจ้งจากเจ้าของรถที่ขับขี่อยู่ว่า รถของเขาคันเร่งค้าง โดย Lushaj วัย 16 ปี ตอบโต้จากเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินผ่านทางโทรศัพท์ว่า เขาไม่สามารถทำอะไรกับรถได้ ไม่ว่า จะบิดกุญแจดับเครื่องหรือเหยียบเบรก รถก็ยังคงเร่งและเพิ่มความเร็วเรื่อยๆ
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทางหลวงเร่งรุดตรวจสอบ และด้วยความที่ไม่สามารถทำอะไร เจ้า Hyundai Elantra ที่แล่นมาด้วยความเร็วสูง โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายได้ ทางเจ้าหน้าที่ จึงเตือนและเคลียร์เส้นทางเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ต่อผู้ใช้ทางตนอื่น โดยหวังว่ามันจะน้ำมันหมดและหยุดในท้ายที่สุด
ทว่า นักขับวัย 16 ปี ผู้ติดใน Hyundai คันเร่งค้างก็เกือบเอาชีวิตไปทิ้งหลังเหตุการณ์ผ่านไป 90 นาที เมื่อเขาพยายามหลบรถพ่วง แต่เกิดตกถนนและพลิกคว่ำ 3-4 ตลบ ที่ความเร็วราวๆ 180 ก.ม./ช.ม. ก่อน Hyundai Elantra ใหม่ จะจอดแน่นิ่ง เป็นซากที่ข้างทางแต่เคราะห์ดีที่นักขับวัย 16 ปี ไม่เป็นอะไร เพียงแต่ขาหัก 4 ท่อนเท่านั้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า มันน่ากลัวมาก และโชคดีที่ผู้ขับขี่ค่อนข้างมีประสบการณ์ที่ดี ทำให้ สามารถควบคุมรถได้ดี โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ทางคนอื่น ในขณะที่ Hyundai เองก็เข้ามารับทราบกรณีดังกล่าว โดย นาย จิม เทรเนอร์ โฆษกของ Hyundai Motor America กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นหรือเป็นไปได้ แต่ทางบริษัทยินดีที่จะร่วมตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานว่า ทางครอบครัวผู้ขับขี่จะเอาผิดกับฮุนได หรือไม่ โดยครอบครัวเด็กผู้รอดตายจากคันเร่งค้าง เปิดเผยว่า พวกเขาดีใจแล้วที่ลูกของพวกเขารอดชีวิตโดยได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อ้างอิงความคิดเห็นที่:13
ผมคิดว่าเป็นเกียร์ออโต้เหมือนกัน แต่ทำไมเวลาคันเร่งค้าง 1.ไม่เอาเท้างัดคันเร่งมันขึ้นมา 2.ลดเกียร์ไป D3 D2 D1 ตามลำดับ มันก็น่าจะช่วยไม่ให้วิ่งเร็วได้แล้วนิ เครื่องจะพัง เกียร์จะพังก็ช่างมัน ยังไงศูนย์ก็ต้องรับผิดชอบ
คันเร่งไฟฟ้า ถ้าค้าง ใช้เท้างัดคันเร่งขึ้นมาได้ แต่ ลิ้นปีกผีเสื้อที่หน้าเครื่องก็ไม่เด้งกลับ
ดึงเกียร์ จาก D มาที่ N แค่นั้น ไม่ต้อง เชนเกียร์ ลงไปถึง D1 หรอก
เว้นแต่ว่า คันเกียร์เป็นระบบเซ็นเซอร์แบบไม่ใช้สลิงดึง แล้ว ECU ดันมา Error ในการจับจังหวะคันเกียร์ แล้วเกิดอาการคันเร่งค้างขึ้นมาพอดี ก็คงทำอะไรไม่ได้แบบในคลิปนี้
อ้อเคยเป็นกับรถรุ่นใหม่คันนึง เกียร์ ออกโต้ แบบไม่ใช้สลิงดึง เข้าเกียร์เดินหน้าได้หมด แต่เข้าเกียร์ถอยไม่ได้ ลองเช็คดูเป็นที่เซ็นเซอร์ เสีย
ถ้ารถวิ่งอยู่ ไม่เหียบเบรค ก็ปลดเกียร์ จาก D ไปที่ N ได้ ลองดูสิ
ไม่เหียบ เข้าเกียร์ D หรือ R ไม่ได้เฉพาะ ตอนที่เข้า P จอดเท่านั้น
1. โยกคันเกียร์มาเข้าเกียร์ N หรือเกียร์ว่างไว้ 2. ไม่ควรปิดกุญแจ เนื่องจากจะทำให้พวงมาลัยแข็ง แล้วล๊อคได้ในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่
วันที่: Fri Nov 15 18:33:04 ICT 2024
|
|
|