Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ตองอูล่มสลาย....

ArjanPong | 17-01-2556 | เปิดดู 2752 | ความคิดเห็น 0

 

 

 

                                                พระเจ้านันทบุเรง

 

 

 

                                             

 

 

 

 (จากวิกิพิเดีย)

พระเจ้านันทบุเรง  เป็นพระราชโอรสพระองค์โตของพระเจ้าบุเรงนองและอัครมเหสีอดุลศรีมหาราชเทวี (พระพี่นางของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ พระนามเดิมว่า ตะเคงจี) มีชื่อที่เรียกในภาษาพม่าว่า "นานเตี๊ยะบาเยง" ขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2124 ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าบุเรงนอง เมื่อขึ้นครองราชย์ มีพระนามว่า "หานตาวดี เซงยูงาซีเชง" แปลว่า "พระเจ้าหงสาวดีช้างเผือกทั้ง 5" พระเจ้านันทบุเรงมีพระประสงค์จะขยายอำนาจของอาณาจักรหงสาวดีให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยทำสงครามกับเมืองใหญ่น้อยต่าง ๆ รอบข้างรวมทั้งพิษณุโลกและอยุธยาด้วย ซึ่งผิดแผกไปจากพระเจ้าบุเรงนอง พระราชบิดาของพระองค์ เนื่องจากหลักการปกครองของพระเจ้าบุเรงนองจะเป็นไปในลักษณะเมืองใหญ่ปกครองเมืองน้อย ดูแลเมืองที่ขึ้นเป็นประเทศราชต่าง ๆ และผูกสัมพันธ์ไมตรีเอาไว้

 

 

พระองค์มีมีพระอัครมเหสีพระนามว่า เมงพยู พระองค์มีราชโอรสองค์โตชื่อ "เมงกะยอชวา" (ไทยและมอญเรียกว่า มังสามเกียด) ที่เจริญชันษามาพร้อมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และได้สถาปนาขึ้นเป็นพระมหาอุปราชา ต่อมา เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง เมื่อปี พ.ศ. 2127 พระเจ้านันทบุเรงได้ทำสงครามกับอาณาจักรอยุธยาหลายต่อหลายครั้ง เช่น ปี พ.ศ. 2129 ที่พระองค์ยกทัพมาเองพร้อมกำลังทหารราว 2 แสน ปิดล้อมกรุงศรีอยุธยานานถึง 6 เดือน แต่ไม่สามารถหักตีเข้าได้ และในปี พ.ศ. 2135 ที่พระองค์ส่งพระมหาอุปราชยกทัพเข้ามาในขอบขัณฑสีมาของอยุธยา และได้กระทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จนถึงขั้นสิ้นพระชนม์ขาดคอช้าง พระเจ้านันทบุเรงเมื่อทราบข่าว ทรงพิโรธมาก ทรงเข้าไปหาพระสุพรรณกัลยาที่ยังคงอาศัยอยู่ในกรุงหงสาวดีและใช้พระขรรค์ฟันพระนางพร้อมพระธิดาจนสิ้นพระชนม์ทั้ง 2 พระองค์

 

 

และเมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทราบข่าวนี้ ก็ทรงพิโรธ ยกทัพมาด้วยความฮึกเหิม หมายจะเผากรุงหงสาวดีให้ราบคาบเพื่อเป็นการแก้แค้น แต่ก่อนหน้านั้น พระเจ้าอังวะได้แข็งเมืองได้วางแผนซ้อนกลลวงให้พระเจ้านันทบุเรงเสด็จออกจากเมืองไปเสียก่อน หงสาวดีเลยกลายเป็นเพียงเมืองร้าง และพระเจ้านันทบุเรงก็ได้ถูกจับกุมตัวไว้

 

 

วาระสุดท้ายของพระเจ้านันทบุเรง ถูกพระเจ้าตองอูหรือนัดจิงหน่องแย่งชิงราชบัลลังก์ สิ้นพระชนม์เพราะถูกวางยาพิษ ในปี พ.ศ. 2142 พระองค์จบพระชนชีพลงอย่างน่าอนาถเพราะเป็นนักโทษในคุกของพระเจ้าตองอู

 

 

ภายหลังการสิ้นพระชนม์ อาณาจักรหงสาวดีที่เคยยิ่งใหญ่ก็อ่อนอำนาจลง เนื่องจากถูกศูนย์กลางแห่งอำนาจได้สูญเสียผู้นำที่เข้มแข็งลง ประกอบกับพระราชโยบายของพระเจ้าบุเรงนองที่เคยประนีประนอมกับหัวเมืองต่าง ๆ ได้ถูกทำลายลงในรัชสมัยของพระเจ้านันทบุเรง จนในที่สุดก็อ่อนแอลงเรื่อย ๆ และนำไปสู่การแตกสลาย มอญก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ ก่อนที่จะถูกสถาปนาขึ้นเป็นอาณาจักรใหม่ในสมัยพระเจ้าอลองพญา ในอีกหลายปีต่อมา

 

 

พระเจ้านันทบุเรง มีพระนามที่ชาวไทยจะรู้จักดีในนาม "มังไชยสิงห์" หรือ "มังเอิน" ซึ่งเป็นนามที่ได้รับการตั้งโดยพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ เมื่อสามารถช่วยเหลือบิดาตนเอง คือ มหาอุปราชบุเรงนอง ระหว่างที่กำลังเพลี่ยพล้ำต่อทหารอยุธยาในคราวสงครามคราวเสียสมเด็จพระสุริโยทัย ในปี พ.ศ. 2091 โดยที่มีอายุเพียง 11 ขวบเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นกษัตริย์นักรบที่เก่งกาจอีกพระองค์หนึ่งของพม่า พระองค์เองก็เคยทำยุทธหัตถีชนะพระเจ้าแปรได้ แต่ทว่าพระราชโยบายการปกครองของพระองค์เป็นไปอย่างแข็งกร้าว ไร้ไมตรี จึงนำมาสู่การล่มสลายของอาณาจักรในที่สุด

 

หมายเหตุ 

วันกองทัพไทย เป็นวันที่ระลึกในวาระที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาของพม่า โดยถือเอาวันที่ 18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย ตามการคำนวณจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ที่ระบุว่า พระองค์กระทำยุทธหัตถี ในวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จ.ศ. 954 คำนวณได้ ตรงกับวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 (บางตำราว่า ปี พ.ศ. 2136)

 

 

 

                            *** กลอนหวานผ่านใจ ***

 

 

 

                                  "ไม่ได้ขู่นะเว้ย!!..."

 

 

 

                 

 

 

 

 

 

....เฮ้ยปล่อยนะ เดี๋ยวพ่อกัด ฟัดนิ้วขาด

 

หนอยบังอาจ บีบข้าไว้ เดี๋ยวได้สวย

 

รู้หรือเปล่า? ว่าเงาหัว ตัวจะซวย

 

จำซะด้วย จับใครมา? อย่านะเอ็ง

 

 

 

 

....อย่ามาหยอก บอกให้รู้ "ปูฮิปโป้"

 

ไม่ได้โม้ ก้ามเเทงพุ่ง สะดุ้งเหย็ง

 

หากไม่วาง อย่าหาว่า ข้าไม่เกรง

 

ได้ตะเบ็ง เเหกปากก้อง ร้องจนตาย!!!...

 

 

 

 

 

ถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา 17 กม ปักเสาลงแม่น้ำ..........พูดและคิดแล้วใช่ไหม?พงศพัศ

 

424443_326746000760073_1416893902_n.jpg

 

 

พล.ต.อ.พงศพัศ ให้ สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ย่านเยาวราช ว่า บริเวณดังกล่าวถือเป็นชุมชนที่มีความเก่าแก่ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ปรับปรุงสภาพแวดล้อม จึงมีนโยบายทำถนนเลียบแม่น้าเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำราชวงศ์ ทั้งสองฝั่งเป็นระยะทาง 17 กิโลเมตรให้เป็นที่พักผ่อนสาธารณะเพิ่มคุณภาพชีวิต

 

เริ่มตั้งแต่สะพานพระราม 8 ถึงสะพานสาธร โดยไม่มีการเวนคืนที่ดิน แต่ใช้วิธีปักเสาลงในแม่น้ำซึ่งสามารถทำได้จริง โดยจะขอนุมัติจากกรมเจ้าท่า พร้อมฟื้นรถรางติดแอร์ให้บริการรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เชื่อมโยงถึงเยาวราชเพื่อลดความแออัดด้านการจราจรรวมทั้งเป็นการส่งเสริมการ ท่องเที่ยวด้วย

 

แกใช้คำว่า "ถนน" มันก็ใหญ่

ถ้าแค่ walkway ยังพอว่า

คือเมืองไทยมีที่..ทางกทม.ได้จัดทำไว้เพื่อปรับปรุงและเพิ่มภูมิทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เป็นทางเดินริมน้ำที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

ทอดยาวเชื่อมตั้งแต่สวนสันติชัยปราการผ่านท่าพระอาทิตย์ไปจนถึงท่าพระปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นทางที่จะเดินต่อไปยังท่าพระจันทร์ได้...

 

น่าจะเอามาให้หมดนะว่าโครงการนี้เสนอเมื่อไหร่ ใครเสนอ และตอนนี้คนคนนั้นอยู่พรรคไหน

 

ผมบอกแล้วโครงการนี้ไม่ใหม่ เสนอเมื่อไป 2536

 

20 ปีที่แล้ว โดย พันเอกวินัย สมพงษ์ และถูกต่อต้านยังไง อะไร แบบไหน

 

และเคยคิดไหม? ทำไม ปชป เจ้าพรรคไม่เคยปัดฝุ่นมันขึ้นมา

 

เขารู้!!............

 

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 16:25:32 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>