• สีชมพู คุณเป็นคนที่มีความรัก มีความเมตตา มองโลกในแง่ดี มีความอ่อนโยน เห็นคุณค่าของความรัก และการให้ สีชมพูยังบอกบ่งทางอารมณ์ ด้านลบอีกว่าคุณเป็นคนค่อนข้าง ตกใจง่าย ตื่นเต้น ขี้โมโห อารมณ์ร้ายรุนแรง หงุดหงิด คลุ้มคลั่งในบางเวลา
• สีแดง คุณเป็นคนที่ชอบการแสดงออก ชอบรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบคุณแต่ฝ่ายเดียว ไม่ชอบอยู่นิ่ง กระฉับกระเฉง มีความขยัน กระปรี้กระเปร่า และบางทีก็ชอบเอาแต่ใจตัวเอง โดย ภาพรวมแล้วบุคคลที่ชอบสีแดงนั้น จะมีลักษณะการเป็นผู้นำ หรือไม่ชอบขึ้นอยู่กับใคร มีความเชื่อมั่นในความคิดในตัวเองสูง ต่อไปคุณจะเป็นผู้มีอำนาจ หรืออยู่ในระดับที่เหนือกว่าผู้อื่นแต่ต้องระวังเรื่องความใจอ่อน
• สีม่วง คุณเป็นบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนทางด้านอารมณ์ และจิตใจ รักการเรียนรู้ มีปัญญาเฉียบแหลม มีไหวพริบ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ช่างสังเกต ความรู้สึกไวในเรื่องเกี่ยวกับจิต,วิญญาณ และความลึกลับ มีความคิดสร้างสรรค์ในงานด้านศิลปะ หรือชอบงานที่ใช้จิตนาการ การออกแบบ เป็นผู้ที่มีใจคอกว้างขวาง
• สีส้ม คุณมักเป็นคนที่มีศีลธรรม มีความดีงาม รักธรรมชาติ ศาสนา มีความเพลิดเพลินกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และสามารถปรับตัวตามความเห็นของคนรอบข้าง คุณเป็นบุคคลที่ทำงานดี มีความซื่อสัตย์ มีความปรารถนาดี ไม่เป็นคนที่ละทิ้งงาน
• สีเหลือง คุณเป็นบุคคลที่ช่างฝัน จินตนาการของคุณใช้การได้ดีทีเดียว ได้ดีมีความคิดที่ละเอียดอ่อนมีความปรารถนา ที่จะช่วยเหลือบุคคลใกล้ชิด มีระบบประสาทสัมผัสกับสิ่งต่างๆสำหรับผู้ที่ชอบสีเหลือง ชอบมีความคิดใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ และมีความโน้มเอียงที่จะชอบความสันโดษ
• สีน้ำตาล คุณเป็นคนที่ทำสิ่งต่างๆ ตามประเพณี และเป็นบุคคลที่ยึดแบบแผนบางทีจะมีนิสัยดื้อดึงอยู่บ้าง ฉลาดสุขุมและฉลาดในด้านการใช้เงินทอง เป็นคนที่รู้จักใช้เงิน มีความตระหนี่ถี่เหนียว อดออม ประหยัด มีจิตใจหนักแน่น ถ้ามีแรงกระตุ้นจากการดูถูก จะมีแรงฮึดสู้สุดชีวิต คุณเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการเจรจาต่อรอง
• สีน้ำเงิน จะบ่งบอกถึงลักษณะของคุณเป็นคนละเอียดสุขุมรอบคอบในการดำเนินชีวิต และการทำงาน สีน้ำเงินเป็นสีแห่งท้องฟ้า แสดงถึงความสูงส่ง เป็นสีที่บ่งบอกถึงความมีสัจจะ และความซื่อสัตย์จงรักภักดี เป็นสีแสดงถึงความเป็นนิรันดร์ของชีวิต
• สีเทา คุณเป็นคนที่มีความระมัดระวัง มีความพยายาม สามารถประนีประนอมในเรื่องต่างๆ ได้ดี สามารถ ประตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดีคุณป็นคนที่รักสันติ ไม่ชอบใช้ความรุนแรง และเป็นคนที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับบุคคลใกล้ชิดได้รวดเร็ว ส่วนมากคุณจะเป็นคนที่ไว้วางใจของเพื่อนหรือบุคคลที่สนิทกับคุณเป็นอย่างดี
• สีดำ คุณเป็นคนเป็นคนที่ถือธรรมเนียม ประเพณี เป็นนักวางแผน เจ้าระเบียบ มีความสง่าผ่าเผย มีความสุภาพเรียบร้อย แต่เป็นคนค่อนข้างลึกลับ เหมือนกับมีสิ่งไม่พึงเปิดเผย หรือปิดบังบางประการที่ไม่สามารถบอกกับใครได้อยู่ในใจ สีดำอาจ หมายถึงความเก็บกดสำหรับนักจิตวิทยา แต่ในด้านสังคมจะแสดงถึงความโศกเศร้า การให้อภัย การไว้อาลัย และความสง่างาม และเป็นสีที่แสดงถึงสิ่งลึกลับ

วิธีการดูแลรักษากระเป๋าหนังแท้ และ หนังสังเคราะห์ (Leather Bag Care Tips)

การดูและรักษากระเป๋าหนังคู่ใจของคุณให้อยู่กับคุณนานๆ นั้น มีวิธีดูแลง่ายๆ ด้วยตัวคุณเองหลากหลายวิธีด้วยกัน แต่อันดับแรกต้องมาทำความรู้จักประเภทของกระเป๋าหนังกันก่อน  โดยปกติแล้วกระเป๋าหนังจะแบ่งตามลักษณะของหนังที่ใช้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ หนังสังเคราะห์ และหนังแท้ คือหนังจระเข้ หนังจิงโจ้ หนังแกะ รวมถึงหนังวัว ดังนั้นวิธีการดูแลรักษาหนังแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย  หนังประเภทนี้ (หนังแท้) จะมีความแข็งแรงและทนทานเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่จะนำไปทำเป็นกระเป๋าสตางค์หรือกระเป๋าเดินทาง และด้วยความทนทานเช่นนี้ กระเป๋าหนังแท้จึงต้องการการดูแลรักษาเป็นอย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ระมัดระวังการทำความสะอาด ก็อาจจะส่งผลให้กระเป๋าใบนั้นเป็นรอย หรือฉีดขาดได้ ฉะนั้นเรามาเรียนรู้วิธีดูแลรักษากระเป๋าหนังกันเถอะ

หนังแท้

     หลักง่ายๆ คือ หลังจากใช้กระเป๋าเสร็จรีบนำมาทำความสะอาดก่อน ถ้ายิ่งเปียกน้ำหรือชื้น ยิ่งต้องรีบนำมาทำความสะอาดก่อนเก็บ ไม่ควรจะปล่อยให้กระเป๋าที่เป็นหนังแท้ต้องอยู่กับความชื้นนานๆ เพราะอาจจะทำให้หนังแท้เสื่อมได้ หรือถ้ากลัวชื้นก็ใส่เม็ดกันชื้นซองเล็กๆ ไว้ในกระเป๋าก็จะช่วยได้ จากนั้นให้ใช้ผ้าหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด พอสะอาดแล้วให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นใช้น้ำยาเคลือบหนังทาบางๆ ประมาณครึ่งชั่วโมง น้ำยานี้จะมีหน้าทที่คล้ายตัวเคลือบกระเป๋า ทาแล้วให้เช็ดออกอีกที และสุดท้ายการเก็บรักษานั้น ควารเก็บไว้ในที่ที่ไม่มีความชื้นมากนัก ง่ายๆคือ การเก็บไว้ในตู้ จะแขวนหรือวางตามรูปทรงของกระเป๋าก็ได้

หนังสังเคราะห์

     กระเป๋าจากหนังสังเคราะห์นั้นจะคืนตัวและมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าหนังแท้ การดูแลง่ายแสนง่าย คือการใช้ผ้าหมาดๆ ค่อยๆ เช็ดให้สะอาด ขั้นตอนนี้ไม่ควรนำไปแช่น้ำหรือซักทั้งกระเป๋า หลังจากทำการเช็ดจนสะอาดแล้ว ให้เช็ดด้วยผ้าหมาดๆ อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นนำไปตากลมไว้จนแห้ง  ข้อห้ามคือ อย่าเอาไปตากแดดเด็ดขาด และสำหรับหนังสังเคราะห์นั้น ไม่ควรใช้น้ำยาขัดเคลือบใดๆทั้งสิ้น เพราะจะทำให้สารที่เคลือบหนังสังเคราะห์เสียสภาพได้  ส่วนใครที่อยากจะกำจัดกลิ่นภายในกระเป๋า ปัจจุบันก็มีถุงผ้าที่ให้กลิ่นหอม วางจำหน่ายในแผนกซุปเปอรืมาร์เกตของห้างสรรพสินค้าทั่วไป

วิธีเก็บรักษากระเป๋า

  กระเป๋าที่ ใช้อยู่เป็นประจำ หรือใช้นาน ๆ นานวันเข้าก็เก่าเป็นธรรมดา วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับวิธีรักษากระเป๋าให้คงสภาพเดิมมาฝาก....
* ควรเก็บกระเป๋าไว้ในถุงผ้า สำหรับเก็บกระเป๋าโดยเฉพาะ เพราะถุงแบบนั้นจะมีข้อดี คือ ลมสามารถผ่านได้ พอประมาณกันฝุ่นได้
* อย่าเก็บกระเป๋าไว้ในถุงพลาสติก โดยเฉพาะกระเป๋าหนัง เพราะอากาศร้อนจะทำให้กระเป๋าหนังกรอบ
* สิ่งที่ควรระวัง คือ ถ้าวางกระเป๋าไว้ในตู้เสื้อผ้า โดยไม่ใส่ถุง อากาศที่อับและร้อน สามารถหลอมละลาย สีเคลือบตู้ให้มาติดบนหนังกระเป๋าได้ โดยเฉพาะหนังแก้ว โปรดเก็บใส่ถุงผ้าก่อน
* ควรนำกระเป๋ามารับออกซิเจนบ้าง นำกระเป๋าออกมาจากถุงผ้า ให้อากาศสัมผัสหนังบ้าง โดยตั้งไว้ในห้อง ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก สิ่งสำคัญ คือ ให้วางในร่มไม่ต้องตากแดด
* ซื้อมาใหม่ ๆ ใช้สเปรย์ หรือครีมรักษาหนัง ป้ายทารักษาไว้ก่อนใช้งาน จะช่วยให้กระเป๋าหนัง มีคุณภาพดี ทนทานต่อริ้วรอยยิ่งขึ้น
* การรักษารูปทรงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญ คือ การยัดไส้กระเป๋าด้วยกระดาษ จะช่วยรักษารูปทรงได้ เพราะไม่ว่าเก็บไว้ในลักษณะนอนหรือตั้ง ก็ทำได้สบาย ไม่เป็นปัญหาต่อรูปทรง

หนังแท้หรือหหนังเทียมจะดูยังไง

อดีตหนังแท้นั้นมีลักษณธที่บ่งบอกได้ชัดเจนอยู่หลายประการ เช่น กลิ่น ลาย พื้้นผิวด้านหลัง ฯลฯ แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาจนทำให้หนังเทียมมีรูปแบบลวดลายใกล้และเหมือนกับหนังแท้มากขึ้น เราจึงต้องมารู้จะลักษณะของหนังแท้และหนังเทียมกันก่อนดังนี้

ลักษณะพื้นฐานของหนังแท้ 

ในอดีตหนังแท้มีลักษณะพื้นฐานทีร่ชี้ชัดได้ง่าย เช่น มีกลิ่น ผิวมีรู ด้สนหลังเป็นขนสักหลาด ซึมซับน้ำหากอากาศเย็นเมื่อสัมฟัสจะรู้สึกอุ่น ขณะที่อากาศร้อนเมื่อสัมฟัสจะรู้สึกเย็น ดูแลทำความสะอาดยาก ลายบนผิวเป็นธรรมชาติไม่มีรอยต่ลาย (Emboss repeat) การพัฒนา ด้านต่างๆในอุตสาหกรรมการฟอกหนังและการตกแต่ง(Finishing) เป็นปัจจุบันที่ทำให้ลักษณธพื้นฐานเปลี่ยไปจนไม่อาจจะใช้เป็นตัวพิจาราณา บ่งบอกความเป็นหนังแท้ได้อีกต่อไป ซึ่งการฟอกย้อมในปัจจุบันมีความพยายามที่จะลดกลิ่นหรือให้เจือจางลงไปมากที่สุด ดังนั้น หนังแท้ที่ดีจึงมักไไม่มีกลิ่น มีการใช้ Water Repel lance เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเกาะ หนังมีฉนวนและถ่ายเทอากาศได้ ก็เป็นเฉพาะหนังประเภท Full Grain หรือ Corrected Grain ที่ผ่านการ Top coating หรือFinishing บางๆเท่านั้น หังแท้ส่วนใหญ่ผิวลาย รอยย่นของผิว (Grain Break) โดยปกติจะมีลักษณะเป็นธรรมชาติเหมือนผิวหนังของคน แต่หนังแท้บางชนิดเนื้อแน่น หรือ แข็ง ที่เป็นหนังคุณภาพดีก็ไม่มีรอยย่นของผิวให้สังเกตุนณะเดียวกันหนังเทียม PU จะมีรอยย่นของผิวใกล้เคียงกับหนังแท้ทั่วไป หนังแท้จะมีขนาด (Shape/Size) แต่ละขชิ้นไม่แน่นอนเพราะเป็นธรรมชาติ หนังแท้จะไม่ติดไฟหรือถ้าติดก็จะดับเอง 

หนังเทียมเหมือนหรือใกล้หนังแท้ขนาดไหน

หลายปีมาแล้วเทคโนโลยยีได้สร้างหนังเทียมที่มีคุณภาพทั้งทางกายภาพและทางด้านเคมีเหมือนหนังแท้ จนสามารถ แยกแยะแม้จะด้วยวิธีการวิเคราะห์ในห้องแล็ป ถึงกระนั้นต้นทุนทีได้มาสูงกว่าราคาหนังแท้มากจนไม่มีความคุ้มค่าเชิง พาณิชย์ อย่างไรก็ตามหนังเทียมทั้ง PU/PVC ก็คงมีลักษณะพื้นฐานหลายอย่างที่แตกต่างจากหนังแท้ และหลายอย่างเหมือนหรือ ใกล้เคียงกับหนังแท้ ตัวอย่างเช่น รอยย่นบนผิวบน ปกติหนังเทียม PVC จะไม่เกิดรอยย่นเมือ่เวลาพันด้านผิวบนเข้าหากันเพราะมีความกระด้างมาก ขณะที่ Semi-PU และหนังเทียม PU จะมีรอยย่นดูคล้ายกัลหนังแท้ ผิวหน้าของหน้าเทียม PU มักมีความหนืดตติดมือ ขณะที่หนังเทียม PVC กลับมีความแห้งลื่นมากก่วาเมื่อเทียบกับหนังแท้ ด้านหลังของหนังเทียม PVC โดยปกติจะเป็นผ้าทอ หากไม่มีหลังผ้าก็จะเห็นเป็นชั้นพลาสติก ขณะที่หนังเทียม PU ทั่วไปก็เช่นกัน เว้นแต่บางเกรด (Coaggulation by Dipping base) ที่ถูกนำไปขัดด้วยกระดาษทรายด้านหลังจนทำให้เป็นขนดูคล้ายหนังกลับหรือเส้นใยหนังแห้ง