23/1/63
3/1/63
.
27/11/62
กรุงเเตก พม่าปล้นเมือง!!
ขู่เอากระทั่งกางเกงที่สวมใส่!!
Ayutthaya online : www.arjanpong.com
Time : 06.00-12.00 น./17.00-21.00 น.
"ฟังเพลงเก่า ข่าวอยุธยา"
...........
จดหมายมองซิเออร์ อาลารี ถึง มองซิเออร์ เดอลาลาน
เขียนบนเรือลำ ๑ ซึ่งเดิรทางในระหว่างเมืองมะริดและเมืองย่างกุ้งวันที่ ๑๗ เดือน มีนาคม ค.ศ. ๑๗๖๕ (พ.ศ. ๒๓๐๗) ว่า
".เมื่อคืนวันที่ ๑๐ ถึง ๑๑ (มกราคม) เวลาประมาณ ๒ ยาม เกิดเสียงคนร้องเอะอะเกรียวกราวขึ้น เข้าใจกันว่าข้าศึกได้เข้าเมือง แล้ว พวกเราจึงได้เดิรไปดูที่ชายตลิ่ง จึงได้ทราบว่าการเอะอะ เกรียวกราวนี้ ก็คือกระบวนเรือของรายาเมืองทวายมาถึงนั้นเอง แต่พวกชาวเมืองซึ่งลงไปอยู่ในเรือเพื่อจะได้หนีง่าย ๆ นั้น ได้ทราบ ข่าวมาว่าพวกข้าศึกได้ยกมาถึงปากน้ำแล้ว แต่อีกสักครู่ ๑ เสียง เล่าลืออันนี้ก็สงบลงไป เมื่อเกิดเสียงเอะอะเกรียวกราวกันนั้น พวกเข้ารีดก็ได้รีบลงไปอยู่ในเรือและพวกชาวบ้านก็ได้ออกจากบ้านหนี เข้าไปอยู่ในป่า ส่วนเรือของเจ้าเมืองทวายนั้นได้ทอดอยู่ริมตลิ่ง ไม่มีใคร ทราบว่าเจ้าเมืองทวายได้หนีขึ้นบกแล้ว หรือได้ลงเรือลำอื่นอย่างไร พวกเราก็เข้านอนโดยไม่ทราบแน่ว่าได้เกิดอะไรกันขึ้นแต่ไม่ช้าก็ ต้องลุกขึ้นจากที่นอนอีก
ครั้นเวลาประมาณ ๑๐ ทุ่ม (๔ ก.ท.) ก็ได้เกิดเสียงเอะอะเกรียวกราวเหมือนเเมื่อ ๒ ยามอีกครั้ง ๑ แต่คราวนี้ไม่ใช่แต่เสียงเกรียวกราวอย่าเดียว แต่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ด้วยซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าพวกพม่า ได้เข้ามาแล้ว
มองซิเออร์ อันดรีออ ซึ่งนอนอยู่ในห้องข้างหน้าได้ มาเรียกให้ข้าพเจ้าลุกขึ้นและบอกว่าข้าศึกมาแล้ว มองซิเออร์ อันดรีเออ จึงฉวยเสื้อยาวสวมตัวแล้วลงไปที่โบสถ์และข้าพเจ้าก็ตามลงไปด้วย พวกเข้ารีดบางคนที่ยังอยู่ ก็ได้ตามเข้าไปในโบสถ์ มองซิเออร์อันดรีเออ จึงได้ชี้แจงให้พวกเข้ารีดตั้งใจสละชีวิตให้แก่พระเปนเจ้าและได้ล้างบาปให้แก่พวกเข้ารีด แล้วมองซิเออร์อันดรีเออกับข้าพเจ้า ก็ได้ไปอยู่ในที่อื่นเพื่อต่างคนจะได้ล้างบาปให้ซึ่งกันและกันแต่การที่จะล้างบาปกันนี้ต้องทำอย่างสั้นที่สุด เพระาไฟที่ข้าศึกได้จุดเผาบ้านราษฎรนั้น ได้ลุกลามไหม้มาเกือบจะถึงเราอยู่แล้ว
ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าเมื่อเวลายังมีอยู่ก็ควรคิดอ่านหนีเอาชีวิตรอดข้าพเจ้าจึงได้รวบรวมเงินที่ยังเหลืออยู่เล็กน้อย ไปส้อนไว้ข้างต้นไม้ต้น ๑ ที่อยู่ใกล้ ๆ เมื่อเพลิงดับหมดแล้วจะได้ย้อนกลับมาเอาเงินรายนี้ได้
แล้วข้าพเจ้าจึงได้เรีบฃยกคนใช้ให้ไปในป่ากับข้าพเจ้าคน ๑ และสั่งให้คนใช้เอาปืนติดตัวไปด้วยเพื่อจะได้เอาไว้ยิงเสือ ในเวลาที่ข้าพเจ้ายืนเรียกคนใช้อยู่ที่เชิงบันไดนั้น พอเหลียวไปดูทางประตูก็ได้เห็นข้าศึกยืนอยู่แน่นที่ประตูแล้ว
พวกข้าศึกจึงเดิรตรงเข้ามาหาข้าพเจ้า บางคนถือหอก บางคนถือไต้ แต่ไต้ที่ถือมานั้นจะสำหรับเผาบ้านหรือสำหรับส่องดูทางก็ไม่ทราบ เพราะเวลานั้นยังมืดอยู่ข้าพเจ้าก็หมดความคิดที่จะหนีต่อไป ข้าพเจ้าจึงเดิรตรงเข้าไปหาข้าศึกที่เดิรนำหน้า เพื่อนคนใช้ของข้าพเจ้าพูดภาษาพม่าได้ ข้าพเจ้าจึงได้ให้บอกกับทหารพม่าว่าข้าพเจ้าไม่ต้องการสู้
ทหารพม่าก็หาได้ทำอะไรไม่ เปนแต่บอกให้ข้าพเจ้าส่งหมวกให้ ข้าพเจ้าห็ถอดหมวกส่งให้ทันที แต่พวกทหารที่ตามหลังมานั้นหาได้มีอัธยาศรัยดีเหมือนคนแรกไม่ เพราะพวกนี้ได้รีบเข้าไปในบ้านเพื่อจะปล้นเอาของ จึงได้ไปพบมองซิเออร์อันดรีเออ ๆ ก็ได้มอบลูกกุญแจให้พวกพม่าเปิดหีบและโต๊ะตู้ตามชอบใจพวกพม่า ได้ฟันหีบสำหรับเก็บถ้วยเงินและเครื่องประดับโบสถ์ และได้เก็บเอาของไปหมดไม่มีเหลือเลย
ข้าพเจ้าก็เดิรเข้าไปในห้องเพื่อไปเปิดหีบให้ข้าศึกดู พอเดิรก้าวเข้าไปในห้อง ทหารพม่าคน ๑ เข้าใจว่าข้าพเจ้าคิดจะไปส้อนของ จึงได้เงื้อหอกจะแทงข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจึงทำกิริยาให้ทหารเห็นว่าข้าพเจ้าจะเก็บของส่งให้
ทหารคนนั้นจึงได้เดิรเข้าไปในห้องพร้อมกับข้าพเจ้า เมื่อพบสิ่งใดก็เก็บเอาไปหมด ส่วนข้าพเจ้าเก็บได้แต่สมุดสวดมนต์ คัมภีร์ใบเบอลกับสมุดอีก ๓ เล่ม เท่านั้น เพราะจะป้องกันไม่ให้หนังสือเหล่านี้ไหม้ไฟ และข้าพเจ้าคิดอ่านจะรักษาเสื้อซึ่งแต่งกายอยู่ในเวลานั้นด้วย
แต่ในทันใดนั้นเองพวกพม่าได้มาถอดเครื่องแต่งตัวออกจากตัวข้าพเจ้า ตั้งแต่ศีร์ษะตลอดถึงท้าว เหลือแต่เสื้อเชิ๊ตติดตัวอยู่กับหมวกกลมติดศีร์ษะอยู่เท่านั้น ข้าพเจ้าได้ร้องว่าการเปลือยกายเช่นนี้เปนการขายหน้าและข้าพเจ้าจะไปไหนโดยแต่งตัวอย่างนี้ไม่ได้ แต่พวกพม่าหาฟังไม่
ข้าพเจ้าจำเปนต้องเดิรออกไปนอกถนนโดยสวมเสื้อเชิ๊ดอยู่ตัวเดียว กางเกงหรือรองท้าวก็ไม่มี บรศีร์ษะก็สวมหมวก มือก็ถือสมุดที่ได้กล่าวมาข้างบนนี้แล้ว
ข้าพเจ้าจึงเข้าใจได้ว่าพวก พม่าข้าศึกคงจะจับเอาเราไปเปนเชลย และการที่พวกพม่าไม่ล้างชีวิตเสียนั้น ก็โดยเขากรุณาพออยู่แล้ว พวกพม่าได้บังคับให้เราเดิรออกหน้า พอเราออกจากบ้านแล้ว พวกพม่าก็ได้เอาไฟเผาบ้าน ทีเดียว..."
#วิทยุออนไลน์ #อยุธยา #เพลงเก่า #ข่าว #ประวัติศาสตร์
17/11/62
ใครหักหลังกรุงศรี?!!..
www.arjanpong.com
ในแผ่นดินของ #พระเทียรราชา พระองค์ต้องทำศึกกับทาง #หงสาวดี อยู่หลายครั้ง หนึ่งในนั้นก็คือ #สงครามช้างเผือก เมื่อพระองค์ได้ครอบครองช้างเผือกถึง ๗ เชือก.....
ซึ่งพงศาวดาร #กรุงศรีอยุธยา ฉบับวัน วลิต ได้เล่าเอาไว้ว่า มีท่านผู้หนึ่งเป็นคนนำความนี้ไปบอกกับพระเจ้าแผ่นดินแห่ง #พะโค หรือหงสาวดี โดยอ้างว่า ช้างบางเชือกจับได้ที่ชายแดนเมืองพะโค พระเจ้าแผ่นดินแห่งพะโค จึงทรงสิทธิ์ที่จะเรียกช้างเผือกคืน หากพระเทียรราชาแห่งกรุงศรีอยุธยาปฏิเสธ ก็ย่อมเป็นเหตุในการประกาศสงคราม.....
แล้วพระเทียรราชาก็ทรงปฏิเสธที่จะทำตามคำเรียกร้องของ #พระเจ้าแผ่นดิน แห่งพะโคตามคาด พระเจ้าแผ่นดินแห่งพะโคจึงตัดสินใจทำสงครามกับอยุธยา ซึ่งต่อมาก็กลายมาเป็นการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 ไปจนได้!!
คนสยามที่ไปกราบทูลพระเจ้าบุเรงนองเกี่ยวกับเรื่องช้างเผือก จนเป็นเหตุให้กรุงศรีอยุธยาแตกในคราวนั้น ถือว่าเป็นคนขายชาติขายแผ่นดินโดยแท้!!..
........
พันท้ายนรสิงห์มีตัวตนหรือไม่?!
ถ้าเป็นประวัติศาสตร์ ทำไมต้องซื้อลิขสิทธิ์สร้างหนังละคร!!
www.arjanpong.com
#พันท้ายนรสิงห์ #พระเจ้าเสือ #อยุธยา
“พันท้ายนรสิงห์” ปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาหลายฉบับ เช่น ฉบับสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส ที่ทรงเรียบเรียงขึ้นเมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ กล่าวถึงเรื่องราวของสมเด็จพระสุริเยนทราธิบดี หรือ พระเจ้าเสือ กษัตริย์พระองค์ที่ ๒๙ ของกรุงศรีอยุธยา ซึ่งทรงโปรดกีฬาชกมวย คล้องช้าง ล่าสัตว์ และตกเบ็ด เสด็จไปทรงเบ็ดที่ปากน้ำเมืองสาครบุรี หรือสมุทรสาครเป็นประจำ พงศาวดารนี้ได้กล่าวถึงการเสด็จประพาสทรงเบ็ดครั้งหนึ่งว่า
“จุลศักราช ๑๐๖๖ (พ.ศ.๒๒๔๗) ปีวอก ขณะนั้นสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินเสด็จด้วยเรือพระที่นั่งเอกชัย จะไปประพาสทรงเบ็ด ณ ปากน้ำเมืองสาครบุรี ครั้นเรือพระที่นั่งไปถึงตำบลโคกขามและคลองที่นั่นคดเคี้ยวมาก และพันท้ายนรสิงห์ซึ่งถือท้ายเรือพระที่นั่งคัดแก้ไขมิทันที ศีรษะเรือพระที่นั่งนั้นโขนกระทบกิ่งไม้อันใหญ่เข้าก็หักตกลงในน้ำ พันท้ายนรสิงห์เห็นดังนั้นก็ตกใจ จึงโดดขึ้นเสียจากเรือพระที่นั่ง และขึ้นอยู่บนฝั่งแล้วร้องกราบทูลพระกรุณาว่า
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าฯ ขอจงทรงพระกรุณาโปรดให้ทำศาลขึ้นที่นี่สูงประมาณเพียงตา แล้วจงตัดศีรษะข้าพระพุทธเจ้ากับศีรษะเรือพระที่นั่งซึ่งหักตกน้ำลงไปนั้นขึ้นบวงสรวงไว้ด้วยกันที่นี้ ตามพระราชกำหนดในบทพระอัยการเถิด
จึงมีพระโองการตัดว่า อ้ายพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งโทษเอ็งถึงตายนั้นก็ชอบอยู่แล้ว แต่ทว่าบัดนี้กูจะยกโทษเสีย ไม่เอาโทษเอ็งแล้ว เอ็งจงคืนมาลงเรือไปด้วยกูเถิด ซึ่งศีรษะเรือที่หักนั้นกูจะทำต่อเอาใหม่แล้ว เอ็งอย่าวิตกเลย
พันท้ายนรสิงห์จึงกราบทูลว่า ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดมิเอาโทษข้าพระพุทธเจ้านั้น พระเดชพระคุณหาที่สุดมิได้ แต่ทว่าจะเสียขนบธรรมเนียมในพระราชกำหนดกฎหมายไป และซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมาละพระราชกำหนดสำหรับแผ่นดินเสียดังนี้ ดูมิบังควรยิ่งนัก นานไปภายหน้าเห็นว่าคนทั้งปวงจะล่วงครหาติเตียนดูหมิ่นได้ และพระเจ้าอยู่หัวอย่าทรงพระอาลัยแก่ข้าพระพุทธเจ้าผู้ถึงแก่มรณโทษนี้เลย จงทรงพระอาลัยถึงพระราชประเพณีอย่าให้เสียขนบธรรมเนียมไปนั้นดีกว่า อันพระราชกำหนดมีมาแต่โบราณนั้นว่า ถ้าและพันท้ายผู้ใดถือท้ายเรือพระที่นั่ง ให้ศีรษะเรือพระที่นั่งนั้นหัก ท่านว่าพันท้ายผู้นั้นถึงมรณโทษให้ตัดศีรษะเสีย และพระเจ้าอยู่หัวจงทรงพระกรุณาโปรดให้ตัดศีรษะข้าพระพุทธเจ้าเสีย ตามโบราณราชประเพณีกำหนดนั้นเถิด
จึงมีพระราชดำรัสสั่งให้ฝีพายทั้งปวงปั้นมูลดินเป็นรูปพันท้ายนรสิงห์ขึ้นแล้ว แล้วดำรัสว่า อ้ายพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งโทษถึงตายแล้วนั้น กูจะประหารชีวิตเอ็งเสียพอเป็นเหตุแทนตัวเอ็งแล้ว เอ็งอย่าตายเลย จงกลับมาลงเรือไปด้วยกับกูเถิด
พันท้ายนรสิงห์เห็นดังนั้นก็มีความละอายนัก ด้วยกลัวจะเสียพระราชกำหนดโดยขนบธรรมเนียมโบราณไป เกรงทั้งปวงจะครหาติเตียนดูหมิ่นในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งตนได้ สู้เสียสละชีวิตของตัวมิได้อาลัย จึงกราบทูลว่า ขอพระราชทานซึ่งทรงพระกรุณาโปรดข้าพระพุทธเจ้าครั้งนี้ พระเดชพระคุณหาที่เปรียบมิได้ แต่ทว่าซึ่งจะตัดศีรษะรูปดินแทนตัวข้าพระพุทธเจ้าดังนี้ ดูเป็นทำเล่นไป คนทั้งหลายจะล่วงครหาติเตียนได้ ขอพระองค์จงทรงพระกรุณาโปรดตัดศีรษะข้าพระพุทธเจ้าโดยฉันจริงเถิด อย่าให้เสียขนบธรรมเนียมในพระราชกำหนดไปเลย ข้าพระพุทธเจ้าจะขอกราบทูลฝากบุตรและภรรยา แล้วก็จะกราบถวายบังคมลาตายไปโดยลักษณะยถาโทษอันกราบทูลไว้นั้น
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฟังดังนั้น ก็ดำรัสวิงวอนไปเป็นหลายครั้ง พันท้ายนรสิงห์ก็มิยินยอมอยู่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาการุณภาพแก่พันท้ายนรสิงห์เป็นอันมาก จนกลั้นน้ำพระเนตรนั้นไว้มิได้ จำเป็นจำทำตามพระราชกำหนด จึงดำรัสสั่งให้นายเพชฌฆาตให้ประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์เสีย แล้วให้ทำศาลขึ้นสูงประมาณเพียงตา และให้เอาศีรษะพันท้ายนรสิงห์กับศีรษะเรือพระที่นั่งซึ่งหักนั้นขึ้นพลีกรรมไว้ด้วยกันบนศาลนั้น แล้วให้ออกเรือพระที่นั่งไปประพาสทรงเบ็ด ณ ปากน้ำเมืองสาครบุรี แล้งเสด็จกลับยังพระนคร และศาลเทพารักษ์ที่ตำบลโตกขามนั้น ก็มีปรากฏมาตราบเท่าทุกวันนี้
จึงพระบาทบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระราชดำริว่า ณ คลองโคกขามนั้นคดเคี้ยวนัก คนทั้งปวงจะเดินเรือเข้าออกก็ยาก ต้องอ้อมวงไปไกลกันดารนัก ควรเราจะให้ขุดลัดตัดเสียให้ตรงจึงจะชอบ
อนึ่งพันท้ายนรสิงห์ซึ่งตายเสียนั้น เป็นคนสัตย์ซื่อมั่นคงนัก สู้เสียสละชีวิตมิได้อาลัย กลัวว่าเราจะเสียพระราชประเพณีไป เรามีความเสียดายนักด้วยเป็นข้าหลวงเดิมมาแต่ก่อน อันจะหาผู้ซึ่งรักโคร่ซื่อตรงต่อเจ้าเหมือนพันท้ายนรสิงห์นี้ยากนัก แล้วดำรัสให้เอากเฬรพันท้ายนรสิงห์มาแต่งการฌาปนกิจพระราชทานเพลิงศพ และบุตรภรรยานั้นพระราชทานเงินทองสิ่งของเป็นอันมาก แล้วมีพระราชโองการตรัสสั่งสมุหนายกให้กะเกณฑ์เลขหัวเมืองให้ได้สามหมื่นให้ขุดคลองโตกขาม และให้ขุดลัดตัดให้ตรงตลอดไป โดยลึกหกศอก ปากคลองกว้างแปดวา พื้นคลองกว้างห้าวา และให้พระราชสงครามเป็นแม่กองคุมพงหัวเมืองทั้งปวง ขุดคลองจงแล้วสำเร็จดุจพระราชกำหนด...”
เนื้อความเรื่องพันท้ายนรสิงห์ในพระราชพงศาวดารมีเท่านี้ ถือว่าเป็นเกล็ดประวัติศาสตร์ และไม่ได้บอกว่าพันท้ายนรสิงห์มีชื่อเดิมว่าอะไร มีเมียชื่ออะไร ทั้งมีเหตุผลที่ทำให้หัวเรือชนกิ่งไม้หักนั้น เนื่องจากคลองคดมาก
ในปี พ.ศ.๒๔๘๘ คณะศิวารมณ์ได้นำพระนิพนธ์เรื่อง “พันท้ายนรสิงห์” ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล มาแสดงที่ศาลาเฉลิมกรุง ที่มีเพลงอมตะ “น้ำตาแสงไต้” เป็นเพลงเอก เรื่องนี้พันท้ายนรสิงห์มีชื่อเดิมว่า สิน มีภรรยาชื่อ นวล ส่วนเหตุผลที่คัดท้ายให้เรือพุ่งชนต้นไม้จนโขนหัวเรือหักนั้น ก็เพราะพันท้ายนรสิงห์รู้ว่ามีคนดักปลงพระชนม์อยู่ข้างหน้า จึงหยุดยั้งขบวนเสด็จไว้เพื่อถวายความปลอดภัย ซึ่งส่วนนี้เป็นงานสร้างสรรค์ของ “เสด็จพระองค์ชายใหญ่” พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล
การนำสร้างพันท้ายนรสิงห์ที่อยู่ในพงศาวดารไม่ว่าฉบับไหนไปสร้างเป็นละครหรือภาพยนตร์ ไม่ต้องซื้อบทประพันธ์จากใคร เพราะเป็นประวัติศาสตร์ แต่ถ้าจะให้พันท้ายนรสิงห์มีชื่อเดิมว่า สิน เมียชื่อ นวล แล้วมีคนดักปลงพระชนม์อยู่ข้างหน้า จึงถวายความปลอดภัยยับยั้งขบวนเสด็จ ก็เป็นพระนิพนธ์ของ “พระองค์ชายใหญ่” ซึ่งมีลิขสิทธิ์
แต่ถ้าจะดัดแปลงอิงประวัติศาสตร์เหมือนกัน ให้พันท้ายนรสิงห์ชื่ออื่น เช่น สิงห์ มีเมียชื่อ น่วม และเหตุที่ชนก็เพราะหลับใน ก็สร้างไปได้เลย ไม่ต้องไปซื้อลิขสิทธิ์ใคร เรื่องประวัติศาสตร์ กับ วรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์ จึงต่างกันตรงนี้.......
Credit : อ.โรม บุนนาค
......
Ayutthaya online : www.arjanpong.com
Time : 06.00-12.00 น./17.00-21.00 น.
"ฟังเพลงเก่า ข่าวอยุธยา"
#เพลงเก่า #ข่าว #ธรรมะ
..14/11/62...
ฆาตกรรม “พระนางเธอลักษมีลาวัณ”มเหสี ร.6 บุบพระเศียรด้วยชะแลง!!
ฆาตกรรม “พระนางเธอลักษมีลาวัณ”
มเหสี ร.6 บุบพระเศียรด้วยชะแลง!!
www.arjanpong.com
#ตำหนักลักษมีวิลาศ #ฆาตกรรม
เป็นข่าวที่ช็อกคนทั้งเมืองเมื่อเจ้านายผู้อาภัพ "พระนางเธอลักษมีลาวัณ" ผู้ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม พระภรรยาเจ้าใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ถูกฆาตกรรมหมกพระศพ!! ซึ่งเกิดเหตุการณ์นี้ ขึ้นในเช้าของวันที่ 3 กันยายน 2504 เมื่อ นสพ.รายวันทุกฉบับ ต่างพาดหัวพร้อมเพรียงในแนวเดียวกันว่า "ฆาตกรรมพระนางเธอลักษมีลาวัณ หมกพระศพเน่าในตำหนักลักษมีวิลาศ" สิริพระชนมายุรวม 62 ชันษา
เมื่อครั้งมีชีวิตพระองค์ทรงมีพระชนม์ที่แสนเศร้าหลังจากทรงได้รับสถาปนาเป็นพระมเหสีแล้วก็ทรงถูกพระราชสวามีตัดสินพระราชหฤทัยแยกกันอยู่ เนื่องจากพระนางมิได้ทรงมีรัชทายาทตามพระราชประสงค์ได้ พระนางทรงตัดสินพระทัยแยกมาอยู่ตามลำพัง ณ พระตำหนักในซอยพร้อมพงศ์ ริมคลองแสนแสบ ท่านกล้าที่จะแสดงออกในวัตรปฏิบัติผิดแผกแตกต่างไปสตรีส่วนใหญ่ในสมัยนั้น ที่อยู่ในกรอบของม่านประเพณีโบราณ
ทรงดำรงพระชนม์อย่างเรียบง่ายและเงียบสงบทรงใช้เวลาว่างไปกับการพระนิพนธ์ต่างๆ ภายหลัง สงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงย้ายไปประทับ ณ พระตำหนักลักษมีวิลาศ ถนนศรีอยุธยา สี่แยกพญาไท และโดยเฉพาะในช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพพระองค์ทรงรักสันโดษและประทับอยู่เพียงพระองค์เดียวในพระตำหนัก จึงเปิดช่องให้ผู้มีจิตต่ำช้าสามาน โดยเฉพาะคนที่รู้ความเคลื่อนไหวในพระตำหนักดี ซึ่งผู้ก่อคดีฆาตกรรมนั่นคือข้าหลวงคนสวน นายวิรัช กับ นายแสง ในพระตำหนักที่พระองค์ไล่ออก โดยก่อคดีดังกล่าวด้วยประสงค์ในทรัพย์สินส่วนพระองค์ เพราะมันรู้ว่าในพระตำหนักมีเพียงเจ้านายสตรีผู้ทรงพระชราภาพประทับอยู่เพียงพระองค์เดียว
และก็รู้ว่าในตู้ชั้นล่างพระตำหนักลักษมีวิลาศมีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เข้าใจว่าเป็นของมีราคาก็กลับเข้ามายัง พระตำหนักลักษมีวิลาศ สี่แยกพญาไท และย่องเข้ามาทางข้างหลังใช้ชะแลงทำร้ายพระเศียรขณะประทับพรวนดินอยู่จนสิ้นพระชนม์ แล้วค้นทรัพย์สินเท่าที่หาได้หนีไป ได้ไปแต่เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แต่ไม่มีทรัพย์สินอย่างอื่นเลย ชายคนสวนผู้นั้น ได้ไปจำนำเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วยไม่รู้จัก เจ้าของโรงรับจำนำเห็นผิดสังเกต จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชายคนสวนผู้นั้นรับสารภาพถึงการฆาตกรรม และกล่าวว่าตนทราบแต่เพียงว่าพระนางทรงเป็นเจ้านาย ไม่คิดว่าจะทรงเป็นเจ้านายใหญ่ถึงเพียงนั้น
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2504 เวลา 15:30 น. พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ (พระเชษฐาต่างพระมารดา) ทรงได้รับโทรศัพท์แจ้งจาก นางสาวแน่งน้อย แย้มศิริ นิสิตบัญชีปี 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เคยถวายงานเป็นข้าใน ในพระตำหนักลักษมีวิลาศ ว่าน่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในพระตำหนัก เนื่องจากเธอได้ไปกดออดเรียก และโทรศัพท์เข้าไปแต่ไม่มีผู้รับสาย
เมื่อเสด็จในกรมฯ ทรงทราบจึงเสด็จโดยรถยนต์ส่วนพระองค์มายังพระตำหนักลักษมีวิลาศ สี่แยกพญาไทโดยด่วน ปรากฏว่าบนพระตำหนักเงียบวังเวงปราศจากผู้คนอาศัยอยู่ ด้วยความร้อนพระทัยจึงได้เสด็จขึ้นไปชั้นบนพระตำหนักเพื่อตามหาพระนางเธอฯ พระขนิษฐา(น้องสาว) เสด็จในกรมฯ ทรงพระวิตกว่าพระนางเธอฯ จะได้รับอันตราย จึงทรงตรวจค้นห้องพระบรรทม พบเครื่องฉลองพระองค์และพระราชทรัพย์ถูกรื้อกระจาย แล้วจึงเสด็จลงมาตรวจบริเวณพระตำหนักอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมเปล่งพระสุรเสียงเรียกพระนางเธอฯ ตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีเสียงขานรับอย่างใด
เสด็จในกรมฯ ไม่ทรงพบใครอยู่ภายในพระตำหนักแต่กลับได้กลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นเน่า จึงเสด็จดำเนินตามกลิ่นไปถึงโรงรถบริเวณหลังพระตำหนัก เมื่อเสด็จถึง ถึงกับทรงตะลึง ทรงพบพระศพของพระนางเธอ ในสภาพเน่าอืด แล้วจึงทรงเร่งมาแจ้ง นายร้อยเวรสถานีตำรวจพญาไท เพื่อให้ชันสูตรพระศพโดยด่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชำนาญได้เริ่มลงมือชันสูตรพระศพซึ่งเริ่มส่งกลิ่น พบว่าที่พระวรกายบริเวณพระอุระพบบาดแผลฉกรรจ์คล้ายถูกแทงอย่างโหดเหี้ยม 4 แผล ที่พระศออีกแผลหนึ่ง ที่พระเศียรด้านหลังนั้นถูกตีจนน่วมมีพระโลหิตไหล สิ้นพระชนม์บนพื้นคอนกรีต เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสิ้นพระชนม์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน แล้วจึงส่งพระศพไปยังแผนกนิติเวช เพื่อชันสูตรอีกชั้นหนึ่ง
จาก นั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาร่องรอย ภายในพระตำหนักอย่างละเอียด พบกรรไกรเปื้อนครอบโลหิตตกอยู่กลางห้องพระบรรทม เงินส่วนพระราชสมบัติหายไปโดยไม่ทิ้งไว้แม้จนบาทเดียว ที่ตู้เซฟเก็บเครื่องฉลองพระองค์ ที่เก็บเครื่องประดับต้นตระกูลแต่ครั้งรัชกาลที่ 1 มูลค่านับล้านบาท ยังคงอยู่ในสภาพปกติ สันนิษฐานว่าคนร้ายไม่อาจหากุญแจไขได้สำเร็จเพราะต้องรีบเตลิดหนีก่อนที่จะมีคนมารู้เห็นเข้า
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้ ทำให้หนังสือพิมพ์ลงข่าวเหตุการณ์เกือบทุกฉบับ ว่า พระนางเธอลักษมีลาวัณถูกลอบปลงพระชนม์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าการที่พบพระศพอยู่บริเวณโรงรถติดกับห้องคนรับใช้ นั้นเป็นการพรางตา คาดว่ากลุ่มฆาตกรน่าจะสังหารตั้งแต่บนห้องบรรทมชั้นบนเพราะพบคราบพระโลหิตติดอยู่
เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วจึงช่วยกันลากพระศพมาทิ้งไว้ที่โรงรถก่อนที่จะหลบหนีไป และภายหลังผู้ต้องหาถูกจับกุมได้โดยได้รับการแจ้งจากร้านทองที่รับจำนำของมีค่า ว่ามีผู้ต้องสงสัยนำเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรี จุลจอมเกล้าและตราอื่นๆ จึงสามารถตามจับกุมได้ ต่อมาถูกพิพากษาให้ประหารชีวิต แต่ทั้งสองได้รับสารภาพ จึงได้รับการหย่อนโทษหนึ่งในสามคือให้จำคุกตลอดชีวิต เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปด้วยพระนางเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้า
ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของ พระนางเธอลักษมีลาวัณ วังได้ถูกทิ้งร้างอยู่นานเป็นปีด้วยเหตุลอบปลงพระชนม์เจ้านายกลายเป็นข่าวหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ยุคนั้น วังจึงถูกทิ้งไว้จนรกร้างวังเวง ประกอบกับมีเรื่องโจษขานถึงวิญญาณของผู้เป็นเจ้าของสถานที่ตามความเชื่อแบบไทยๆ จึงไม่มีทายาทคนใดกล้าเข้ามาพำนักที่วังแห่งนี้! ซึ่งปัจจุบันโดนรื้อถอนไปแล้วอย่างน่าเสียดาย.....
Credit : https://www.sanook.com/horoscope/107169/
......
Ayutthaya online : www.arjanpong.com
Time : 06.00-12.00 น./17.00-21.00 น.
"ฟังเพลงเก่า ข่าวอยุธยา"
#เพลงเก่า #ข่าว #ธรรมะ
13/11/62
บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัทฯ เปิดรับผู้ร่วมงานรุ่นใหม่ไฟแรง มีความมุ่งมั่นตั้งใจเกินร้อย เป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมสร้างประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จกับตัน ภาสกรนที วัดกันทั้งฝีมือ ทัศนคติที่ดีเกินร้อย และความพร้อมที่จะก้าวไปกับ “ตัน ภาสกรนที” “ เรายังคงมองหาและรอคอยคนที่ใช่ หากคุณคิดว่า คุณมี DNA ตรงกับเรา….พร้อมจะเรียนรู้ มีความสุข และ สนุกในการทำงานอยู่เสมอ...โปรดแสดงตัวด่วน”
สวัสดิการ
วันที่ : 12/02/2562 เวลา : 22:45น.รับแจ้งมี เหตุว.40 รถเก๋งเฉี่ยวชนคนเดินเท้า
เส้นทางถนนด้านหลังบริษัทฮอนด้าหน้าโรงแรมวีเอส.อาสาสมัครพุทไธ ได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ.... พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ตกลงไปในคลองตรงข้ามโรงแรมวีเอส.เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย #พุทไธ5867 ได้เคลื่อนร่างของผู้เสียชีวิต นำส่งที่ รพ.อุทัย และ จึงนำส่งต่อที่รพ.ธรรมศาสตร์. เพื่อชันสูตรเพิ่มเติม.
Credit : หน่วยกู้ภัยพุทไธสวรรย์ จุดอุทัย
กอดพระโอรสไว้เเน่น!! พระสุพรรณกัลยา
เหมือนล่วงรู้ชะตากรรมที่จะมาถึง!!
#พระสุพรรณกัลยา #พระนเรศวร #อยุธยา
การสิ้นพระชนม์ของ #พระสุพรรณกัลยา นั้นอาจเกิดจากการทำ สงความยุทธหัตถี ของ สมเด็จพระนเรศวร กับ พระมหาอุปราช ที่ฝ่ายสมเด็จพระนเรศวรเป็นผู้ชนะ ซึ่งมีหลักฐานหลายหลักฐาน ทั้งจาก #พงศาวดาร ไทยหรือแม้แต่หลักฐานของ พม่า ซึ่งหลักฐานแรก คือ...
1.คำให้การขุนหลวงหาวัด ได้กล่าวไว้ใกล้เคียงกันกับ คำให้การของชาวกรุงเก่า ในความที่ได้ยกมาว่า "ฝ่ายพระเจ้าหงสา ทรงพระพิโรธยิ่งนัก ก็เสด็จเข้าไปในพระราชฐานเห็นองค์พระพี่นางพระนเรศวรนั้นบรรทมให้พระราชโอรสเสวยนมอยู่ในพระที่ พระเจ้าหงสาวดีจึงฟันด้วยพระแสง ก็ถูกทั้งพระมารดาและพระโอรสทั้งสองพระองค์ ก็ถึงแก่พิราลัยด้วยกันทั้งสองพระองค์ ด้วย พระเจ้าหงสาวดี ทรงโกรธยิ่งนัก มิทันจะผันผ่อนได้".....
2.พงศาวดารพม่าฉบับหอแก้ว แต่งขึ้นโดยพระบรมราชโองการของกษัตริย์พม่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2372 (ช่วงต้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์) ดังที่ได้ยกความในการกล่าวถึงพระสุพรรณกัลยาว่า....
พระองค์มีคนสนิทคนหนึ่ง มีนามว่า www.arjanpong.comพระองค์จันทร์ ภายหลังพระอุปราชาสิ้นพระชนม์ในการกระทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้น พระเจ้านันทบุเรง มิได้ประหารพระสุพรรณกัลยาทันทีที่ทราบข่าว หากแต่ได้เสวยน้ำจัณฑ์จนเมามายอยู่เป็นเวลานาน แต่ละวันก็พาลหาเรื่องพระสุพรรณกัลยาและขู่อาฆาตบ่อยๆ จนพระนางสังหรณ์พระทัย ได้ทรงเรียกพระองค์จันทร์มาปรับทุกข์หลายครั้ง....
ท้ายที่สุดพระองค์ได้ตัดปอยพระเกศาใส่ผอบเครื่องหอมประทานแก่พระองค์จันทร์ เตรียมนำไปถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ กรุงศรีอยุธยา เผื่อพระองค์จะไม่มีพระชนม์ชีพต่อไป....
ต่อมาวันหนึ่งพระเจ้านันทบุเรงทรงเมามายไม่ได้พระสติ ได้เสด็จไปถึงห้องพระบรรทมของพระสุพรรณกัลยาแล้วใช้พระแสงดาบฟันแทงพระสุพรรณกัลยาสิ้นพระชนม์อยู่บนพระที่นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามพงศาวดารพม่าฉบับหอแก้วได้ระบุว่าพระนางมีพระราชโอรสกับพระเจ้าบุเรงนองหนึ่งพระองค์ และในครรภ์อีก 1 พระองค์....
เมื่อพระเจ้านันทบุเรงทรงคืนพระสติแล้ว ก็ได้มีพระราชโองการจัดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพแก่พระสุพรรณกัลยาอย่างสมพระเกียรติ ส่วนพระองค์จันทร์นั้นได้ลักลอบออกจากวังโดยนำผอบพระเกศาไปกับนายทหารมอญโดยทำทีเป็นสามีภรรยากันตลอดเป็นเวลาสามเดือนเศษจนถึงกรุงศรีอยุธยา และได้นำความกราบบังคมทูลแก่พระญาติวงศ์ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ....
ในครั้งนั้น พระองค์จันทร์ได้รับการสถาปนาเป็น ท้าวจันทร์เทวี เเละหลังจากได้พระราชทานเพลิงพระศพ พระวิสุทธิกษัตรีย์ ซึ่งเป็นพระราชมารดา ทรงสิ้นพระชนม์เนื่องจากตรอมพระทัยในการสูญเสียพระสุพรรณกัลยา ซึ่งเป็นพระราชธิดาไป สมเด็จพระนเรศวรทรงได้ยกทัพไปตีหงสาวดีและตองอูทันที!!......
Credit : http://prasupankunlayaja.blogspot.com/p/blog-page_2574.html
...........
Ayutthaya online : www.arjanpong.com
Time : 06.00-12.00 น./17.00-21.00 น.
"ฟังเพลงเก่า ข่าวอยุธยา"
#เพลงเก่า #ข่าว #ธรรมะ
...12/11/62...
รับสมัครด่วน
รับสมัครทีมงานภาคสนาม จ.อยุธยา
สถานที่ปฏิบัติงาน
อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เงินเดือน
รายได้รวม 15,000 - 19,000 บาท
อัตรา
จำนวนมาก
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มบำรุงกำลัง "คาราบาวแดง" และเครื่องดื่มเกลือแร่ "Carabao Sport" บริษัทฯ มีโรงงานผลิตเครื่องดื่ม และขวดแก้ว และมีหน่วยงานจัดจำหน่ายของตนเอง และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (CBG) บริษัทฯ มีอัตราการเจริญเติบโตทางธุรกิจทั้งรายได้ และกำไรสุทธิที่ดีมาตลอด จึงมีความต้องการหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์มาร่วมงานกับเราสวัสดิการ
1. โบนัสประจำปี
2. ปรับเงินประจำปี
3. ประกันกลุ่มสุขภาพ
4. ประกันชีวิต/ประกันอุบัติเหตุ
5. สิทธิการลากรณีพิเศษ
6. เงินกรณีพิเศษ
7. ตรวจสุขภาพประจำปี
8. งานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปี
9. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ติดต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลบริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด393
อาคารสีลม ชั้น 7-10 ถนนสีลมแขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานครโทรศัพท์ : (สำนักงานสีลม) 02-636-6111,
(โรงงานCBD บางปะกง) 038-989-488 ต่อ 295,
(โรงงาน APG บางปะกง)038-989-499,
(โรงงานACM บางปะกง) 038-088-461
เว็บไซต์ : career.carabaogroup.com
11/11/62
เวลา 10.09 น.
สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา
ศูนย์วิทยุรวมใจบางปะหัน
ความถี่ 168.275MHz
เบอร์โทรศัพท์ 035252462 / 0822323131
#รับแจ้งจาก : สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา
#รับแจ้งมีอุบัติเหตุ : รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ
#สถานที่จุดเกิดเหตุ : หน้าปั้ม ป.ต.ท.ทองโพธิ์
#รายละเอียด : เจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยาจุดบางปะหันออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหญิงจำนวน1ราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยาจุดบางปะหันจึงให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ณ จุดเกิดเหตุ ก่อนรถพยาบาลกู้ภัยบางปะหันจะดำเนินการช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บนำส่งที่โรงพยาบาลบางปะหันเพื่อทำการรักษาและตรวจเช็คร่างกายต่อไป
น.ส.พรทิพย์ ใจผ่อง อายุ 31 ปี
4 ม.7 ต.โพธิ์สามต้น
อ.บางปะหัน
จ.พระนครศรีอยุธยา
-
#จุดเกิดเหตุเขตความรับผิดชอบ
เขต ส.ภ. บางปะหัน
#เจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยาปฎิบัติงานในจุดเกิดเหตุ
บางปะหัน 302 พร้อมกำลัง
11/11/62...
2 โจ๋วัย 14 ควบจยย.ตีคู่กันมา ก่อนเกี่ยวกันเอง
ร่างไถลมุดใต้ท้องรถบัส เหยียบดับ คาที่!!
วันที่ 10 พ.ย. พ.ต.ต.กัมพล อินทีวงศ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์เฉี่ยวชนรถจยย.มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าวัดลอดช่อง หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบศพ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี สภาพมีบาดแผลตามร่างกาย คอหัก ใบหน้ามีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ด้านหลังยังมีรอยล้อรถติดอยู่อย่างเห็นได้ชัด ใกล้กันพบรถจยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน 1กฌ-3012 พระนครศรีอยุธยา และรถจยย.ยามาฮ่า ฟีลาโน่ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขงต-518 พระนครศรีอยุธยา ล้มอยู่กลางถนน ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถทัวร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน 32-8855 กรุงเทพมหานคร จอดชิดซ้ายอยู่ริมถนนหน้าวัดลอดช่อง สภาพมีร่องรอยการเฉี่ยวชนล้อหลังด้านขวา
จากการสอบถาม นายสมปอง บุญไสว อายุ 42 ปี ชาว จ.นครปฐม คนขับรถบัส เล่าว่า ตนได้ขับรถพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาจากวัดไชยวัฒนาราม เพื่อเดินทางกลับ กทม. พอถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นถนนเลนสวน ขณะนั้นตนมองกระจกหลังเห็นรถจยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ที่ผู้ตายขี่อยู่และเพื่อนผู้ตายขี่ตีคู่มาด้วยกัน 2 คันด้วยความเร็ว จากนั้นได้เกี่ยวล้มกันเอง จนร่างผู้ตายกระเด็นไถลเข้ามาใต้ท้องรถบริเวณล้อหลังรถด้านขวาพอดี จนถูกทับร่างเข้าอย่างจังเป็นผลให้เสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนคนขับรถบัสและเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่เป็นเยาวชน อายุ 14 ปี ที่ขี่รถจยย.มาด้วยกัน อย่างละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต่อไป
11/11/62...
เอกสารการสมัครงาน :
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, ทะเบียนบ้าน, วุฒิการศึกษา และรูปถ่าย 1 นิ้ว
เปิดรับสมัครตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น.
ที่ชั้น 2 หน้า The Hall ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค
วันที่: Fri Nov 15 13:05:29 ICT 2024
|
|
|