บุตรคนโตมองเห็นนางยกมือขึ้
แล
ครั้งเมื่อนางหมดสิ้นทุกสิ่
ร่างกายอันเปลือ
ท่ามกลางบริษัทป
พระพุทธองค์ตรัสว่าปล่อยให้
ละอายนั่งลง ใครคนหนึ่งในที่ประชุมนั้นโ
พระเเท่นเเสดงธรรม วัดพระเชตวันมหาวิหาร สถานที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรม
นางนางปฏาจารา ในสภาพปัจจุบัน
"จงกลับได้สติเถิดน้องหญิง"
พระพุทธองค์ตรัสเตือนหญิงบ้า ที่กำลังเเก้ผ้าอาละวาด!!
www.arjanpong.com
" เฮ้ยยย!!!..อย่าให้อีบ้ามันเข้าไป ตีมันเล๊ยยยย..."
เพี้ยยย...
" โอ๊ยยยยย!!!.."
เสียงหวายกระทบหลังดังสนั่น ผสมกับเสียงกรีดร้อง
อย่างโหยหวนของสตรีนางหนึ่ง ที่สกปรกโสโครก
ร่างกายเปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆมาปกปิดร่างกายทั้งสิ้น เธอถูกตีเเล้วฉุดกระชากลากถู ให้พ้นจากสถานที่ ที่พระพุทธองค์กำลังทรงเเสดงธรรม ณ.วัดเชตวันมหาวิหาร
" ลูกเรา 2 คนตายเเล้ว ผัวเราก็ตายในทางเปลี่ยว พ่อ
เเม่ พี่ชาย ก็ถูกเผาที่เชิงตะกอนเดียวกัน หมดเเล้ว ฉันไม่เหลืออะไรอีกต่อไปเเล้ว...
นางบ้าหรือนางปฏาจารา จะเดินบ่นอย่างนี้ไปตลอดทาง จากอดีตลูกสาวคนเดียวของมหาเศรษฐีเเห่งเมืองสัตถา ที่หนีตามไปกับชายหนุ่มผู้ยากจน จนกระทั่งมึลูก 2 คน ก็อยากจะกลับบ้าน
ระหว่างทางผัวถูกงูกัดตาย ลูกก็ถูกเหยี่ยวโฉบเเละก็จมน้ำตายที่ริมฝั่งแม่น้ำจิรวดี
" ให้นางเข้ามาเถิด..เรารอนางอยู่...."
พระพุทธเจ้าทรงตรัสด้วยเสียงที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา ก่อนที่เธอจะถูกนำตัวมาเข้าเฝ้าต่อพระพุทธองค์ พร้อมผ้าขาวที่ปกปิดร่างกาย
" จงกลับได้สติเถิด..น้องหญิง.....เเม่น้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ก็ย้งน้อยกว่า น้ำตาของคนที่ถูกความทุกข์ความเศร้าความโศกครอบงำ..."
“ปฎาจารา ขึ้นชื่อว่าบุตรสุดที่รัก ไม่อาจเป็นที่พึ่ง เป็นที่ต้านทานหรือเป็นที่ป้องกันแก่ ผู้ไปสู่ปรโลกได้ บุตรเหล่านั้น ถึงจะมีอยู่ก็เหมือนไม่มี ส่วนผู้รู้ทั้งหลายรักษาศีลให้บริสุทธิ์แล้ว ควรชำระทางไปสู่พระนิพพานของตนเท่านั้น”
เมื่อจบพระธรรมเทศนา นางปฏาจาราดำรงอยู่ในโสดาปัตผล เป็นพระอริยบุคคลชั้นพระโสดาบัน
แล้วกราบทูลขออุปสมบท พระพุทธองค์ทรงอนุญาตแล้วจึงบวชเป็นภิกษุณี
ไม่นานนัก ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เมื่อนางปฏาจาราได้อุปสมบทแล้ว ปรากฏว่าเป็นพระเถรีผู้มีความรอบรู้ในเรื่องพระวินัยเป็นอย่างดี อาศัยเหตุนี้ พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องเธอไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลายในฝ่าย ผู้ทรงพระวินัย.....
ป้อง...
1/3/62
วันที่: Fri Nov 15 15:51:18 ICT 2024
|
|
|