ชีวิตยิ่งกว่านิยาย สามีเก่าก็นอกใจ สามีใหม่ก็ถูกกระทำจนเเท้งลูก

ประกวดรายการชุมทองเสียงทองปี 2527

ชุดเเรกของเธอ ลาสาวโคราช ที่ใช้ชื่อว่า สุนารี ราชสีมา ออกเมื่อปี 2527 ค่าย RS

"สุนารี ราชสีมา" เคยแต่งงานกับ "นายภาณุมาศ อังกินันทน์" หรือ "ผู้ใหญ่เต๊าะ"

และมีลูกชายด้วยกัน 2 คน คือ "น้องฮีโร่" และ "น้องอาเธอร์"

กับครอบครัวอันอบอุ่นในปัจจุบัน โดยมี วาวเตอร์ หนุ่มจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นคู่ชีวิต

มือถือไมค์ใจร้องไห้..
www.arjanpong.com

"พอกันทีชีวิตเมียน้อย!!..."

หญิงสาวที่หัวใจบอบช้ำคนหนึ่ง พยายามลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่มุมห้องอย่างเงียบๆ เธอพยายามเบี่ยงหน้าหลบเงาจันทร์ ที่ส่องสาดเเสงประกายอาบใบหน้าที่เหือดเเห้งจากคราบน้ำตาของเธอไปนานเเล้ว
"ฉันจะไปตายดาบหน้าที่อเมริกา...."เธอพูดกับตัวเองเบาๆเเล้วจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เก็บเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางที่ไร้ซึ่งจุดหมายอย่างสิ้นเชิง เธอไม่รู้ว่าต่อไปอนาคตของเธอจะเป็นเช่นไร? เเต่เธอก็พร้อมเเล้วที่จะเผชิญกับมัน..ไม่กลัวเลยกับความลำบากยากเเค้นเเม้นจะหนักหนาสาหัสสากรรณ์เพียงไหนใจก็ไม่กลัว...ดีกว่าเก็บตัวอยู่กับหยาดน้ำตาอย่างทุกวันนี้..........

ภาพของเด็กสาวซื่อๆที่ดื้อจะขอเข้ากรุงเทพฯ มาพร้อมกับพี่สาวที่ขายส้มตำอยู่ตลาดสายเนตร รามอินทรา ก.ม 8 ที่เเม่หนูน้อยพยามเข้าไปอ้อนเเม่ยม สอนนา ให้ไปช่วยพูดกับพ่อเทียมให้หน่อย เเม่หนูน้อยไม่กล้าไปขอด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าพ่อนั้นดุมาก คำไหนคำนั้น

"พี่..พรุ่งนี้ฉันว่าจะให้นังทิม ไปช่วยพี่มันขายของที่กรุงเทพฯ.....พี่ว่าไง?...." เงียบ..ไม่มีเสียงตอบ...เเม่หนูน้อยสังเกตุเห็นพ่อเทียมชะงักไปนิดหน่อย เเล้วก็ยังคงนั่งกินข้าวเฉยไม่พูดไม่จาไม่ต่อปากต่อคำใดๆทั้งสิ้น

"มันจบ ป.6 เเล้ว อายุมันก็ 12-13 มันโตเเล้วเเหละ ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก..."
"เเล้วทำไมมึงไม่ไปกับมันด้วยล่ะ?!!..." เสียงผู้เป็นพ่อตอบกลับมาเบาๆในขณะที่ยังคงหันหลังให้ทำทีเหมือนกับไม่สนใจ
"ไปกันให้หมดบ้านเลยไป ไม่ต้องมาห่วงกูหรอก กูอยู่ของกูคนเดียวได้...." น้ำเสียงประชดประชันของพ่อเทียมก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับมือที่หยิบขันน้ำฝนยกขึ้นดื่ม เเล้วหันมามองเเม่หนูน้อยที่นั่งก้มหน้าอยู่หลังตะเกียงด้วยหัวใจที่หวั่นกลัว

"นังทิม..ข้ารู้นิสัยเอ็ง..ก็ได้......ถ้าเอ็งอยากจะไปก็เชิญ เเต่ถ้าวันข้างหน้ายังไม่ได้ดี เอ็งอย่ากลับมาเหยียบบ้านหลังนี้นะ!!........"

นั่นคือคำสั่งประกาศิตจากผู้เป็นพ่อ เเละนี่เองเป็นเเรงพลักดันให้เด็กบ้านนอกคอกนาจากบ้านหนองหอย โนนไทย โคราชคนนี้ได้สู้งานทุกอย่างที่ขวางหน้า งานอะไรก็ได้ที่สุจริต ล้างจาน หรือตัดขี้ด้ายที่โรงงานเย็บผ้า เเม้กระทั่งเป็นลูกมือเเม่ครัวทำอาหารเลี้ยงคนงาน ได้รับค่าเเรงวันละ 20 บาท ก็ยอมอดยอมทนเพื่ออนาคต ทั้งๆที่วันสงกรานต์อยากจะกลับบ้านใจเเทบขาดก็ไปไม่ได้ เพราะเก็บเงินหยอดกระปุกออมสินไว้เท่าไร ก็ไม่เคยเกิน 300 บาทสักกะที.....

โชคชักพาชะตาชักนำ กับการที่เธอชอบร้องเพลงลูกทุ่งเป็นชีวิตจิตใจ เธอก็ไปสมัครร้องเพลงประกวดเเพ้บ้างชนะบ้างจนกระทั่งว่าได้เข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งอย่างไม่รู้ตัว เมื่อมีผู้ที่สนใจพาเธอไปอัดเเผ่นเสียง โดยใช้ชื่อว่า ทับทิม นิยมทอง ปรจำอยู่ที่วง ชาตรี ศรีชล กับ เเสนสุข เเดนดำเนิน

ชีวิตในช่วงนี้ ลำบากยากเเค้นสุดเเสนสาหัส ช่วงเวลาเข้าหน้าฝนวงไม่มีงาน ต้องกินข้าวคลุกน้ำปลาเเทบทุกวัน บ้านเช่าก็ไม่ได้จ่ายค่าเช่าให้เขา ก็เลยถูกตัดน้ำตัดไฟเพราะเจ้าของบ้านไม่ยอมให้ใช้ เเม้กระทั่งจะเข้าส้วมหนักเบาก็ไม่มีน้ำจะล้าง สุดเเสนจะทรมานยิ่งนัก จนกระทั่งได้พบกับ อาจารย์ ชลธี ธารทอง ท่านเห็นสภาพก็ได้เเต่เวทนา จึงเเต่งเพลงให้ชุดหนึ่ง มือถือไมค์ไฟส่องหน้า โดยมีห้างชัวร์ ออดิโอ เป็นผู้ผลิต ซึ่งครั้งเเรกที่นายห้างเห็นตัวศิลปิน ถึงกับส่ายหน้า "จะไหวเหรอ? หน้ายังกะเตารีด ขายังกะต้นกล้วย.." ซึ่งทางทีมงานก็ต้องสร้างความมั่นใจอย่างมากจนกระทั่งนายห้างอนุมัติ

ชะตาชีวิตเหมือนโกหก ชีวิตของเธอโด่งดังคับประเทศ มีชีวิตที่หรูหราไฮโซพร้อมหมดทุกอย่าง วงดนตรีของเธอเมื่อไปเปิดวงทำการเเสดงที่ไหนก็ได้รับเเรงใจจากเเฟนเพลงอย่างล้นหลามทุกที่ จนกระทั่งได้มีโอกาสรู้จักนักร้องรุ่นพี่รูปงามคนหนึ่งที่เข้ามาตีสนิทจนกระทั่งใจอ่อนยอมใช้ชีวิตร่วมกันอย่างลับๆเเล้วก็ท้องอ่อนๆจนได้...ตกลงกันจัดงานผูกข้อไม้ข้อมือกันอย่างเงียบๆ โดยมีญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมรับรู้ ซึ่งการเเต่งงานในครั้งนี้ปิดข่าวเงียบ เพราะเเฟนเพลงในสมัยนั้นยอมรับไม่ได้หากศิลปินในดวงใจจะมีครอบครัวเเล้ว

นี่คือความสุขที่ล้นปรี่ที่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งพึงจะได้รับ มีทั้งชื่อเสียง เงินทอง ครอบครัว มีสามีที่รัก คอยดูแลและปกป้อง เป็นผู้นำครอบครัว และที่สำคัญเธอเริ่มตั้งท้องอ่อนๆ เธอกำลังจะมีลูกคนแรก เสมือนโซ่ทองคล้องใจให้ครอบครอบครัวสมบูรณ์ครบทั้งพ่อ แม่ ลูก เธออยากหยุดเวลาไว้ที่ตรงนั้นตลอดไป....
แต่แล้ววันหนึ่งเธอได้รู้ว่าสามีแอบไปมีเมียไว้อีกคนที่ตั้งท้องเหมือนกับเธอ แถมท้องแก่กว่าเธอเสียอีก

คำถามต่อมาที่เกิดขึ้นในใจก็คือ... นี่ฉันกลายเป็น “เมียน้อย” ไปแล้วหรือ และอีกหลายคำถาม มันผุดขึ้นในหัวสมองเต็มไปหมด เธอมือเท้าสั่น เข่าอ่อนแทบจะยืนไม่อยู่ หัวตื้อ มองทุกอย่างเป็นภาพเบลอไปหมด เธอรู้สึกเหมือนตัวเองจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มือถือไมค์ ไฟส่องหน้า แต่หัวใจต้องร้องไห้ตลอดการแสดงความรู้สึกอยากรัก อยากเลิก มันคาราคาซัง เขาเเละเธอไม่ได้หย่ากัน แต่ชีวิตคู่ระหองระแหงกันมาตลอด ทุกครั้งที่นึกถึงลูก เธอมีกำลังใจ มีแรงฮึดสู้มากมาย........

เมื่อชีวิตไม่เหลืออะไรแล้ว ข้าวของทุกอย่าง บ้าน รถ ให้เขาไปหมด มีแต่ตัวและเงินทุนอยู่แค่สี่แสนบาท ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่ ทั้งครอบครัว ชื่อเสียง และวงดนตรี บินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกาอย่างไม่รู้ชะตากรรม

”ไปตายเอาดาบหน้าที่อเมริกา ดีกว่าจะมาเสียน้ำตาจนตาย........." นั่นคือสำนึกสุดท้ายของเเม่หนู ทิม สอนนา หรือ สุนารี ราชสีมา ก่อนที่จะหันมาเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าต่อไปด้วยหัวใจที่เลื่อนลอย.............

...ป้อง... 
13/1/62