Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

อาถรรพ์!! ฆ้องกระเเตเจ้าคุณปู่!!

ArjanPong | 23-11-2560 | เปิดดู 2281 | ความคิดเห็น 0

 

               

 

 

  

อาถรรพ์!! ฆ้องกระเเตเจ้าคุณปู่!!
www.arjanpong.com
#นายสุดจินดา #กรมพระราชวังบวร #อยุธยา #พลังภูผา

ในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ พระพินิจอักษรเห็นวา กรุงจะต้องแตกเป็นแน่จึง อาจจะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยเป็นแน่ หาทางหลบหนีออกจากพระนครไปก่อน แล้วค่อยร่วมมือกับผู้มีความสามารถมากู้เมืองใหม่ พระพินิจอักษร คุณบุญมา (ภรรยา) และคุณลา ชวนกันหลบหนีไปอยู่เมืองพิษณุโลก เจ้าพระยาพิษณุโลก (เรือง) เจ้าเมืองพิษณุโลกซึ่งเป็นเพื่อนเก่า

ส่วน นายสุดจินดา ยังเป็นโสด ได้ปรึกษากับเพื่อนชายอีก ๓ คน คิดจะหนีออกจากวงล้อมของข้าศึกที่กรุงศรีอยุธยา ไปหาหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี (ทองด้วง) รวบรวมเสบียงอาหารและเสื้อผ้าคนละเล็กคนละน้อยกับฆ้องกระแต ผู้เป็นปู่นามว่าทองอยู่ และตกทอดต่อ ๆ กันมา ลอบเล็ดลอดออกจากกำแพงพระนคร ลงเรือโกลนในตอนพลบค่ำ ช่วยกันพายล่องลงมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา

มาถึงตำบลสีกุก บางไทร ประมาณทุ่มเศษเป็นที่ตั้งค่ายใหญ่ของทัพพม่า ในเรือจุดไฟริบหรี่ไว้ดวงหนึ่งให้เหมือนเรือตรวจของข้าศึก ค่ายใหญ่ของพม่าตีฆ้องเรียกเรือให้หยุดตรวจ นายสุดจินดาปัญญาไว ตีฆ้องกระแตรับ ข้าศึกคิดว่าเป็นเรือพวกเดียวกัน จึงปล่อยให้ผ่านลงไปได้ เมื่อผ่านตำบลใด ถูกข้าศึกตีฆ้องเรียกอีก ก็ตีฆ้องตอบรับอย่างเดียวกัน และดัดเสียงพูดเป็นสำเนียงพม่าเบา ๆ ก็ผ่านลงมาได้ทุกแห่ง

พอว่าเริ่มสาง ก็มาถึงอ้อมเกร็ด บางบัวทอง ก็สว่าง ซ่อนเรือแล้วขึ้นนอนพักในป่าริมตลิ่งเอาแรงเมื่อพลบค่ำจึงลงเรือล่องต่อลงมาเรื่อย ๆ

จนถึงปากคลองบางกอกใหญ่ ปากทางที่จะเข้าคลองไปยังเมืองราชบุรี พบทัพพม่าตั้งด่านคุมปากคลองอยู่บนป้อมธนบุรีแข็งแรง การใช้วิธีเดิม ๆ คงผ่านไปได้ยากแล้ว จะต้องคิดหาวิธีการให้แนบเนียนเสียก่อน จึงจอดหรือเข้าไปในป่าลำพู ซึ่งมีพงหญ้าขึ้นสูงอยู่ริมน้ำหน้าวัดสลัก (วัดมหาธาตุ เดี๋ยวนี้) ขณะหลบรอโอกาสอยู่นั้น มีหมู่เรือของข้าศึกแจวทวนน้ำขึ้นไปยังกรุงศรีอยุธยา จะหนีก็ไม่ทัน จึงชวนกันลงน้ำพลิกหรือคว่ำคลุมหัว พอเรือข้าศึกผ่านไปหมดแล้วก็พลิกกู้เรือขึ้น เสื้อผ้าเงินทองและเสบียงอาหารหายสิ้น เหลือแต่ฆ้องกระแตดิดกระทงเรืออยู่อย่างเดียวน่าอัศจรรย์

รอเวลาพอประมาณ ๒ ยาม เดือนตกและน้ำกำลังไหลขึ้น จึงช่วยกันพายเรือข้ามฟากไปยังฝั่งวัดแจ้ง แล้วล่มเรือเอาสวะคลุมหัว พยุงหรือตามกระแสน้ำขึ้นผ่านเข้าไปในคลองบางกอกใหญ่ ข้าศึกบนป้อมไม่สงสัย เมื่อถึงหน้าวัดสังข์กระจาย จึงกู้เรือขึ้นพายต่อไป

เดินทางหลบซ่อนอย่างนี้เรื่อยไป จนกระทั่งออกปากคลองมหาไชย พอสว่างถึงบ้านท่าจีน ปรากฏว่าหมู่บ้านนั้นไม่มีคนเลย ร้างไปหมดแล้ว จึงได้ขึ้นนอนพักเอาแรง ค่ำลงแล้วจึงลงเรือพายต่อไป พอเข้าบ้านนาเกลือ ฝนตกหนัก ฟ้าผ่าลงมาเจาะท้องเรือทะลุ ต้องช่วยกันอุดยาจึงพายต่อไปได้

พอเข้าตำบลหมาหอน พบผู้ร้าย ๖ คน คอยดักปล้นเรือที่ผ่าน จึงตีฆ้องกระแตขึ้นและพูดให้เป็นสำเนียงพม่า พวกผู้ร้ายตกใจ คิดว่า เป็นทหารพม่าจึงหนีไป ทั้งปืนคาบศิลาไว้ ๔ กระบอก ดาบและมีดหัวตัดอย่างละเล่ม (ทราบว่าดาบนั้น ต่อมาสมเด็จกรมพระราชวังบวร ฯ ทรงทำด้ามและฝักทองเป็นอาวุธประจำพระองค์) ทั้งสี่ได้ช่วยกันพายเรือต่อไปจนกระทั่งออกแม่น้ำแม่กลอง เข้าเมืองราชบุรี ทุกคนหิวมาก ด้วยเมืองที่เกือบร้างหาอาหารกินไม่ได้ เมื่อถึงบ้านอัมพวาไม่พบหลวงยกกระบัตร ฯ พี่ชายเสียอีก ต้องสอบถามเรื่องราวจากพระสงฆ์ที่กล้าอยู่ตามวัด พอได้เรื่องราว แต่ก็ต้องเสียเวลาติดตามค้นหาอยู่หลายวัน จึงพบครอบครัวหลวงยกกระบัตร ฯ ซึ่งอพยพเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในป่าลึก ห่างจากบ้านเดิมที่ริมแม่น้ำมาก พบกันแล้วต่างก็สอบถามข่าวคราวซึ่งกันและกัน

หลวงยกกระบัตร ฯ ถามถึงบิดา มารดา พี่หญิงและน้องชายว่าได้หลบหนีไปอยู่ที่ใด นายสุดจินดาตอบว่าไม่ทราบ หลวงยกกระบัตร ฯ คุณแก้ว และนายสุดจินดาสามพี่น้อง จึงกอดคอกันร้องไห้เป็นห่วงบุคคลเหล่านั้น จากนั้น นายสุดจินดากับเพื่อนอีก ๓ คน ได้ลาลงเรือใหญ่ลำใหม่ที่พี่ชายให้พร้อมด้วยเสบียง ผ้าผ่อน เงินทอง เพื่อเดินทางไปร่วมกันกู้บ้านกู้เมืองกับพระยาตากสินที่เมืองชลบุรี ก่อนจะจากไป หลวงยกกระบัตร ฯ ได้ฝากแหวน ๒ วง กับดาบโบราณคร่ำทองเล่มหนึ่งไปให้พระยาตากสินในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทสนมและคิดถึงกัน ทั้งได้แนะให้นายสุดจินดาแวะไปรับเอามารดาของพระยาตากที่บ้านแหลมไปให้แก่พระยาตากด้วย ซึ่งจะทำให้พระยาตากชอบใจยิ่งกว่าอื่นใด

แล้วเหตุการณ์ก็ได้เป็นไปเหมือนกับที่หลวงยกกระบัตรคาดทุกอย่าง นายสุดจินดา ได้รับความขอบใจและรักใคร่จากพระยาตากอย่างมาก ทั้งได้รับเข้าทำราชการด้วย และตั้งตำแหน่งให้เป็น พระมหามนตรี เจ้ากรมตำรวจในขวา ศักดินา ๒๐๐๐ ขณะนั้น พระมหามนตรี มีอายุเพียง ๒๔ ปีเท่านั้น

Credit : จุติ จันทร์คณา เรื่องเล่าจากวังหลวง

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 15:55:15 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>