" ไอ้ชายมันจะออกจากครูมงคลเเล้วว่ะไอ้เเก้ว...."
" ห๊าาาาา จริงเหรอครับครู?!!....."
เสียงของ เเก้ว สาริกา ลูกศิษย์ก้นกุฎิของครูฉลอง วุฒิวัย ร้องออกมาอย่างตกอกตกใจ กับข่าวที่ครู
ฉลองเอ่ยบอกกับเขาเมื่อสักครู่ มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ที่ชาย เมืองสิงห์ จะออกจากวงจุฬารัตน์ใน
ขณะนี้ อีกอย่างก็ไม่เห็นจะมีวี่เเววอะไรเลย เมื่อวานตัวเขาเองก็ไปช่วยพี่ชาย เก็บขี้กระต่ายที่บ้านข
องเเกในวัดเชิงหวาย เพราะเเกเลี้ยงกระต่ายเป็นร้อยๆตัวเลย ก็ไม่เห็นว่าพี่เเกจะพูดอะไรเกี่ยวกับ
เรื่องนี้เลยสักนิด
" พี่ชายเขาจะลาออกจากวงเรื่องอะไรล่ะครู "
" กูจะไปรู้เร๊อะ?!!...มึงก็ไปถามมันดูซิวะไอ้นี่!!...."
ครูฉลองขึ้นเสียงกับศิษย์รักอย่างมีน้ำโห.....
เจ้าเเก้วเองก็รู้นิสัยครูดี ดุไปอย่างงั้นเอง เเต่ในใจไม่มีอะไร เขาจะเลือกที่จะหลบออกไปหลังบ้านจับ
โน่นถูนี่ไปตามประสา เเต่ใจก็อดนึกคิดถึงเรื่องต่างๆนาๆไปไม่ได้
ปี พ.ศ 2509 นี้ จะมีวงดนตรีลูกทุ่งวงไหนล่ะ? ที่จะกล้าเทียบชั้นกับวงจุฬารัตน์ได้ ตำนานความยิ่ง
ใหญ่ของวงนี้ ก็เริ่มมาจากครูมงคล อมาตยกุล ได้ชักชวน นคร ถนอมทรัพย์ ซึ่งถือว่าเป็นศิษย์ผู้น้อง
ได้ร่วมกันก่อร่างสร้างวงดนตรีจุฬารัตน์ขึ้นมา โดยได้มีโอกาสต้อนรับเด็กหนุ่มอดีตนักมวยจากขอน
เเก่น ที่มีพรสวรรค์เเพรวพราวไม่ว่าจะเป่าเเคนหรือเลียนเสียงสัตว์ได้เเทบชนิดเเถมเสียงยังหวาน
บาดใจในนาม ปอง ปรีดา มาเข้าร่วมวง ก็ถือว่าเป็นสีสันของวงอย่างมากเลยทีเดียว
โชคยังคงเข้าข้างครูมงคลอยู่ตลอด...ไม่นาน ครูเบญจมินทร์ก็พาเด็กหนุ่มจากมหาชัยมาฝาก ทำไง
ก็ได้ของให้เด็กมันดังซะที เพราะครูเบญจมินทร์กดไปหลายชุดเเล้ว ก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างเลย ก็เลยได้
ทูล ทองใจ มาประดับวงเป็นทหารเสือคนที่สามต่อจากปอง ปรีดา อย่างไม่นึกไม่ฝัน เเต่ครูก็ยังไม่
หยุดที่จะสร้างวงดนตรีจุฬารัตน์ให้ยิ่งใหญ่ต่อไป
จนกระทั่งครูสัมพันธ์ อุมากูล ได้ชวนครูมงคลไปดูลิเกคณะหอมหวลที่วิกตลาดนานาบางลำภู เพราะ
มีเสียงร่ำลือกันเหลือเกิน กับผู้เเสดงที่เป็นจะเด็ด ในเรื่องผู้ชนะสิบทิศ พระเอกลิเกคณะนี้พ่อยกเเม่
ยกล้นทะลักเเทบตบเเทบตีกันตาย ก็เลยเเอบย่องมาเป็นเเมวมองอยู่ซะหลายคืน จนตัดสินใจเชิญ
พ่อพระเอกลิเกรูปหล่อจากเมืองกรุงเก่าอยุธยา มากินข้าวต้มข้างร้านนพรัตน์บางลำภู เเล้วชวนมาอัด
เเผ่นเสียงในคืนนั้นเลย โดยบอกให้พระเอกลิเกรูปหล่อ เขียนชื่อที่ตัวเองชอบมาห้าชื่อ โดยครูเลือก
เอาชื่อ พร ภิรมย์ ที่พ่อหนุ่มพระเอกลิเกเขียนมาให้เลือกเอามาเป็นชื่อนักร้องของตัวเอง ซึ่งชื่อนี้เป็น
ชื่อของนักพากย์หนังคนหนึ่งที่ตายไปเเล้วนั่นเอง
จนกระทั่งได้เสือตัวที่ห้าก็คือ ชาย เมืองสิงห์ นี่เเหละ ที่เข้ามาช่วยเสริมช่วยส่งให้ทีมงานของครู
มงคลโลดเเล่นอยู่เเถวหน้าได้อย่างไม่อายใคร ไม่มีวงดนตรีวงไหนที่จะหาญกล้ามาท้าประชันด้วย
" ไอ้เเก้ว..มึงมานี่ซิ....."
เสียงครูฉลอง วุฒิวัย หรือ เด่น ดวงดี เจ้าของวงดนตรีฟ้าบางกอก เรียกลูกศิษย์คนโปรดเข้ามาใกล้ๆ
เเล้วก็ถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ
" ไอ้เเก้ว..."
" ครับครู...."
" ถ้า ชาย เมืองสิงห์ มาอยู่กับวงเรา มึงเอามั๊ย?!!....."
เเก้ว สาริกา มองหน้าครูที่เคารพด้วยใบหน้าที่ตกใจที่สุดอย่างเเทบไม่เชื่อกับหูของตัวเองถึงเรื่องที่
ได้ยินเมื่อสักครู่...หยาดน้ำตาของลูกผู้ชายมันกำลังจะเอ่อไหลออกมาด้วยความสงสารครูมงคล
อมาตยกุล อย่างเหลือล้นเกินที่จะบรรยายเป็นที่สุด....นี่เเหละหรือคือสิ่งตอบเเทนของชีวิตครูผู้มีเเต่
ให้...........