Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

เกาหลีเหนือ จะเปิดศึก!!..

ArjanPong | 28-03-2556 | เปิดดู 2756 | ความคิดเห็น 0

 

                                                        สะใจมั๊ย?!...

 

 

                                      

 

 

 

 

....ยุติธรรม เเล้วใช่ไหม? ใจอยากถาม

 

เป็นไปตาม ที่สวรรค์ บัญชาหรือ?

 

สิ่งที่ได้ ตอบเเทนนั้น มันก็คือ

 

ชายเเสนซื่อ ร้ายบัดซบ ที่พบมา

 

 

 

....ห้องหัวใจ มีเท่าไร ถวายหมด

 

ถูกลิ้มรส หอมหวานไป ไม่เดียงสา

 

เศษเสี้ยวดิน สิ้นด้อย น้อยราคา

 

ปาดน้ำตา ถามฟ้าหนอ พอใจยัง?!!....

 

 

*******************************************

 

 

 

 

 

       นักวิเคราะห์บอกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือทดลองเมื่อเร็วๆนี้

                     แม้มีขนาดเล็กลงแต่แรงระเบิดสูงขึ้นมาก

 

 

 

 

 

 

 

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือทดลองเมื่อเร็วๆนี้ แม้จะมีขนาดเล็กลงแต่แรงระเบิดสูงขึ้นมาก นับเป็นความก้าวหน้าสู่เป้าหมายของเกาหลีเหนือที่จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ไว้โจมตีสหรัฐให้ได้

เกาหลีเหนือแถลงเมื่อวันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ว่า ในการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดินเป็นครั้งที่สามนี้ ได้ใช้ระเบิดที่มีขนาดเล็กลงและเบากว่าที่เคยทดลองในปี ค.ศ. 2006 และ 2009 และว่ารายงานที่ได้รับในชั้นต้น ระบุว่าอำนาจระเบิดร้ายแรงมากกว่าระเบิดที่ทดลองก่อนหน้านั้น

แม้จะยืนยันลักษณะและความสำเร็จในการทดลองระเบิดของเกาหลีเหนือไม่ได้ แต่พัฒนาการนี้ชี้ให้เห็นว่า เปียงยางกำลังมีความก้าวหน้าอย่างจริงจังในการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ให้มีขนาดเล็กลงพอที่จะบรรจุเป็นหัวรบให้กับขีปนาวุธข้ามทวีปได้

ความวิตกกังวลมีมากขึ้นเมื่อคำนึงถึงความสำเร็จของเกาหลีเหนือเมื่อไม่นานมานี้ในการยิงจรวดรัศมีทำการระยะไกล นำดาวเทียมขึ้นไปโคจรรอบโลกได้สำเร็จ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า จรวดดังกล่าวออกแบบไว้เป็นพิเศษสำหรับการบรรจุหัวรบนิวเคลียร์ด้วย

Andrei Lankov นักวิเคราะห์เกาหลีเหนือบอกว่า เป้าหมายของเกาหลีเหนือนั้นชัดเจน คือ หัวรบนิวเคลียร์และจรวดที่จะพาหัวรบไปถึงเป้าหมายในสหรัฐและประเทศอื่นๆได้ และเกาหลีเหนือมีความก้าวหน้าไปไกลกว่าที่ใครๆคาดคิดไว้

แต่นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกไว้ด้วยว่า เกาหลีเหนือยังจะต้องทำการวิจัย และการทดลองอีกหลายปี กว่าจะมีอาวุธที่จะข่มขู่สหรัฐได้อย่างจริงจัง และว่าเป้าหมายต่อไปของเกาหลีเหนือ คือการออกแบบยานอวกาศที่จะนำขีปนาวุธข้ามทวีปเดินทางกลับเข้าสู่บรรยากาศโลกได้ โดยให้การคุ้มครองหัวรบจากอุณหภูมิสูงและความกดดันของการเดินทางกลับเข้าสู่บรรยากาศโลก ซึ่งเป็นงานที่แม้จะทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายสูง ใช้เวลานาน และต้องทดสอบกันหลายครั้ง ในขณะเดียวกัน ก็ต้องพัฒนาระเบิดให้ทำงานอย่างเชื่อถือได้ควบคู่กันไปด้วย

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ Andrei Lankov ไม่เชื่อว่าเกาหลีเหนือจะเป็นฝ่ายโจมตีสหรัฐก่อน เพราะแม้จะมีการบรรยายผู้ปกครองเกาหลีเหนือกันไว้ว่าเป็นคนคลุ้มคลั่ง แต่จริงๆแล้ว คนเหล่านั้นเป็นเพียงผู้เผด็จการที่กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอด และจะไม่โจมตีใคร นอกเสียจากว่าจะถูกยั่วยุเท่านั้น

นักวิเคราะห์ Rory Medcalf ของ Lowy Institute for International Policy ในนครซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย บอกว่าสหรัฐและพันธมิตรก็จะไม่โจมตีเกาหลีเหนือก่อนเช่นกัน และว่า แม้จะมีโอกาส ก็จะไม่มีใครทำเช่นนั้น และโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ก้าวหน้าไปมาก นอกจากนี้ก็มีความเสี่ยงด้วยว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เกาหลีใต้จะตกเป็นผู้รับเคราะห์เสียมากกว่า

ผู้เชี่ยวชาญของออสเตรเลียคนนี้ให้ความเห็นส่งท้ายว่า เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องสะกัดกั้นสหรัฐมากกว่า และว่า ถ้าสหรัฐจะหาทางกีดกั้นเกาหลีเหนือมิให้ทำอะไรสักอย่าง เกาหลีเหนือก็จะมีเครื่องมือตอบโต้สหรัฐได้ ซึ่งจะทำความเสียหายให้กับความน่าเชื่อถือของสหรัฐในการคุ้มครองญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้ด้วย

 

 

 

  

 
 

สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ว่า ทางการเกาหลีเหนือออกคำสั่งด่วนให้มีการติดตั้งจรวดพร้อมบนฐานยิง เพื่อเตรียมโจมตีแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ และฐานทัพอเมริกันทุกแห่งบนมหาสมุทรแปซิฟิกและในเกาหลีใต้


สำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงหนึ่งเดียวของรัฐบาลเปียงยาง รายงานโดยอ้างผลการประชุมฉุกเฉินที่ยาวนานข้ามคืนของเหล่านายทหารระดับสูง โดยมีนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของประเทศเป็นประธาน ซึ่งคิมได้สั่งการให้กองทัพประชาชนเกาหลี ( เคพีเอ ) เคลื่อนย้ายจรวดที่มีอยู่ทั้งหมดมาติดตั้งบนฐานยิง พร้อมกับรอรับคำสั่งอนุมัติการโจมตีจากเขา ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนในเร็ววันนี้


คำสั่งดังกล่าวมีขึ้น เพื่อเป็นการตอบโต้พฤติกรรมอัน “ยั่วยุ” ของสหรัฐ ที่ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน “บี-2 สปิริต” 2 ลำ ขึ้นบินตรวจการณ์เหนือน่านฟ้าฝั่งใต้ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลเปียงยางถือว่าเป็นการ “ข่มขู่” ที่จะรุกล้ำอธิปไตยของประเทศ กระตุ้นให้ต้องมีการโจมตีอย่างไร้ซึ่งความปรานี ต่อฐานทัพอเมริกันทุกแห่งบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ไม่ว่าจะตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่สหรัฐ เกาะฮาวาย เกาะกวม หรือแม้แต่ในเขตแดนของเกาหลีใต้ก็ตาม


ด้านนายชัค ฮาเกล รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงด่วนเช่นกันว่า การออกบินลาดตระเวนของเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-2 สปิริตทั้ง 2 ลำ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจทางทหารที่มีการลงนามร่วมกับเกาหลีใต้ รัฐบาลวอชิงตันไม่มีเจตนาที่จะใช้อากาศยานทั้ง 2 ลำดังกล่าวเป็นเครื่องมือข่มขู่ฝั่งเหนือ
 

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นของรัฐบาลเปียงยางถือเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจนอย่างมาก ว่าสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีใกล้ทะลุจุดเดือดเต็มที่ ทางการสหรัฐขอยืนยันว่า จะตอบโต้อย่างถึงที่สุดเช่นกัน หากเกาหลีเหนือเป็นฝ่ายรุกรานอธิปไตยของวอชิงตัน รวมถึงสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐ


ขณะที่ผู้สันทัดกรณีหลายรายต่างแสดงทรรศนะไปในทางเดียวกันว่า เทคโนโลยีด้านการพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือยังห่างชั้นกับสหรัฐอยู่มาก เรียกได้ว่าแทบจะไม่สามารถไปต่อกรกันได้เลย แต่การที่รัฐบาลเปียงยางสะสมจรวดพิสัยใกล้และไกลไว้ในคลังสรรพาวุธเป็นจำนวนมาก ก็อาจทำให้สหรัฐต้องหนาวๆร้อนๆบ้างเหมือนกัน

 

 

         ทำไม จีนไม่สกัดฤทธิ์หักเขี้ยวเล็บเกาหลีเหนือ

 

 

ชาวเกาหลีถือป้ายยับยั้งสงคราม พร้อมเทียนจุดสว่าง เรียกร้องสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีในกรุงโซล เมื่อวันที่ 29 พ.ย. (แฟ้มภาพ รอยเตอร์)

 

แม้นานาชาติประสานเสียงเรียกร้องให้ผู้นำจีนช่วยควบคุมพฤติกรรมเกาหลีเหนือ ด้วยเห็นว่าจีนเป็นมิตรสนิทผู้อุปถัมภ์รายเดียวของเกาหลีเหนือ แม้กระทั่งผู้นำจีนเองก็ชักเอือมเกาหลีเหนือแล้วก็ตาม แต่ในที่สุดผู้นำในปักกิ่งก็ยังไม่ใช้ไม้ตายสกัดฤทธิ์เดชของผู้นำโสมแดง เนื่องจากยังถือเสถียรภาพของเกาหลีเหนือมีความสำคัญยิ่งกว่าความโกรธเคืองของนานาชาติต่อกรณีที่โสมแดงยิงถล่มเพื่อนบ้านโสมขาวเมื่อปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

การสำแดงฤทธิ์ของโสมแดงหนล่าสุดนี้ ได้สร้างความหวั่นไหวแก่ผู้นำจีนบางกลุ่ม ถึงกับมีการถกเถียงกันว่าจีนจะปกป้องผู้นำในกรุงเปียงยางไปถึงไหนกัน โดยกลุ่มผู้นำจีนที่ลุกขึ้นมาตั้งคำถามนี้ ชี้ว่าจีนควรหันมาพิจารณาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องความมั่นคง นั่นก็หมายถึงว่าจีนจะต้องโน้มเอียงมาทางเกาหลีใต้ และชาติตะวันตกมากขึ้น และเพลาให้การสนับสนุนเกาหลีเหนือ...แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาที่ผู้นำจีนจะทอดทิ้งโสมแดงไปได้

นี่คือ แนวการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญศูยน์วิจัยเกาหลี สังกัดมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นแห่งนครเซี่ยงไฮ้ ดร. ไช่ เจี้ยน

“จีนต้องจัดการอย่างระมัดระวังมาก เพื่อให้เกาหลีเหนือมีเสถียรภาพ ซึ่งหากกดดันแรงเกินไป เกาหลีเหนือก็จะล่มสลายอย่างรวดเร็ว” ไช่ เจี้ยน ชี้

แม้ว่าชาติอำนาจทั่วโลกจับตามองจีนอย่างคาดคั้นให้โต้ตอบผู้นำในกรุงเปียงยาง แต่จีนก็ยังคงยืนหยัดเป็นมิตรที่มั่นคงหนึ่งเดียวในโลกของโสมแดง ทั้งเป็นมิตรที่ทรงอิทธิพล เป็นหนึ่งในห้ายักษ์ใหญ่ของคณะกรรมการประจำคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ที่มีอำนาจวีโต้มติใดๆของนานาชาติ หลายปีมานี้ เกาหลีเหนือได้ทำฤทธิ์กวัดแกว่งอาวุธอย่างน่าหวาดเสียว ทั้งทำให้ผู้นำในปักกิ่งอับอายขายหน้า ทั้งกรณีทดลองเครื่องยิงอาวุธนิวเคลียร์ กรณีจมเรือเกาหลีใต้เมื่อต้นปี และล่าสุดก็ยิงถล่มเกาะยอนพยองสังหารประชาชนไปสี่คน

แต่จีนก็ยังอุปภัมถ์ส่งเสบียงอาหารและเชื้อเพลิงแก่พันธมิตรโสมแดงผู้ยากไร้ สกัดมาตรการคว่ำบาตรที่แข็งกร้าวของยูเอ็น ขณะเดียวกันก็ยังจับมือกับสหรัฐอเมริกาบนเวทีการทูต

 

 

 

 

ชาวเกาหลีเหนือกำลังเดินผ่านโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อในกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 29 พ.ย. (2553) ขณะที่ประธานาธิบดี ลี ยอง-บัก แห่งเกาหลีใต้ ประณามกรณีกองทัพโสมแดงยิงปืนใหญ่ 8 นัด ถล่มเกาะยอนพยองของโสมขาวเมื่อวันที่ 28 พ.ย. เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิต 2 คน และทหารเสียชีวิต 2 คน ทำลายบ้านเรือนหลายหลัง พร้อมทั้งชี้ว่าผู้นำเกาหลีเหนือจะต้องชดใช้การกระทำยั่วยุในครั้งนี้ (แฟ้มภาพ รอยเตอร์)

 

 

ข้อมูลจากวิกิลีกส์ ที่รั่วไหลออกมา ระบุว่าเจ้าหน้าที่การทูตอาวุโสท่านหนึ่งของจีนบอกกับเจ้าหน้าที่อเมริกันด้วยความขุ่นเคืองว่า พญามังกรกางปีกป้องโสมแดง เหมือนพ่อแม่ประคบประหงมลูกจน “เสียคน”

ดร.เดนนี่ รอย ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือ แห่งศูนย์ตะวันตก-ตะวันออก (East-West Centre)ในมลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ชี้ว่าจีนมีอิทธิพล สามารถล้มรัฐบาลโสมแดงโดยการเลิกส่งซับพลายสิ่งของจำเป็น

“แต่การปกป้องระบอบเกาหลีเหนือ มิให้ล้มครืน ก็เป็นเป้าหมายหมายเลขหนึ่งของจีน” ดร. รอย กล่าว พร้อมชี้ต่อว่า เกาหลีเหนือมีประโยชน์อย่างยิ่งยวดสำหรับจีน โดยเป็นเครื่องมือคานดุลอำนาจกับพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับวอชิงตันมากที่สุดในภูมิภาค คือ เกาหลีใต้ และตราบเท่าที่โสมแดงรักษาเขี้ยวเล็บทางทหารอย่างคมกริบไว้ จีนก็อุ่นใจเช่นกันว่าจะไม่มีศัตรูหน้าไหนมาล้มเกาหลีเหนือได้ ซึ่งในความเป็นจริง กองทัพโสมแดงก็คือแนวหน้าการปกป้องของจีนด้วยนั่นเอง

“จีนเป็นพันธมิตรสนิทกับเกาหลีเหนือ มิใช่ว่าเรารักในระบอบของเกาหลีเหนือ แต่เราต้องรักษาสมดุลอำนาจในคาบสมุทรเกาหลี และผู้นำในปักกิ่งก็ไม่มีทางเลือก จึงต้องสนับสนุนเกาหลีเหนือต่อไป” ดร.ไช่ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก็มีสัญญาณเผยให้เห็นว่าจีนก็ชักหมดความอดทนกับมิตรรักโสมแดงเช่นกัน ได้แก่การที่จีนร่วมมือกับนานาชาติประณามการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่สองของเกาหลีเหนือเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้จีนยังเป็นประธานการเจรจา 6 ฝ่าย เพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์โสมเหนือ ร่วมกับสหรัฐฯ รัสเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยการเจรจา 6 ฝ่ายนี้ ถือเป็นหนทางสุดท้ายที่จะปลดเขี้ยวเล็บอาวุธร้ายแรงของโสมแดง

 

 

 

เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน ของกองทัพนาวีสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการซ้อมรบกับกองทัพเกาหลีใต้ที่ ทะเลตะวันตก (West Sea) เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ท่ามกลางไฟขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีลุกโหมขึ้นอีก หลังจากที่ทหารเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเกาะยอนพยองของเกาหลีใต้ (แฟ้มภาพ รอยเตอร์)

 

และจากข้อมูลวิกิลีกส์ ที่รั่วไหลออกมา ก็ระบุอีกว่า ระหว่างการสนทนาระหว่างเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงโซล กับรองนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ รองนายกฯโสมขาวก็ได้เผยว่าเจ้าหน้าที่จีนระดับอาวุโสสองท่านบอกกับเขา (รองนายกฯฃเกาหลีใต้) ว่าจีนไม่ขัดขวางการรวมชาติเกาหลีภายใต้รัฐบาลเกาหลีใต้

ดร.ไช่ เปิดเผยอีกว่า ผลประโยชน์ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของจีนนั้น ขึ้นอยู่กับเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ มากกว่าเกาหลีเหนืออย่างมิต้องสงสัย ด้วยเงื่อนไขดังกล่าวนี้เอง จึงมีการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนระหว่างเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศและกลุ่มนักวิชาการในจีนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในที่สุด กลุ่มผู้นำหัวเก่า ที่ยึดถือความมั่นคงเป็นหลัก ก็ชนะการถกเถียง

อย่างไรก็ตาม ดร.รอย ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงระบอบเกาหลีเหนือ อาจสร้างปัญหาเพียงในระยะสั้นแก่จีน อาทิกระแสผู้อพยพจากเกาหลีเหนือที่จะหลั่งไหลมายังจีน ขณะเดียวกัน จีนก็จะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ระยะยาวคือความไม่แน่นอนจากการวมชาติเกาหลี จะมีผลเชิงยุทธศาสตร์อย่างไรต่อจีน ยิ่งไปกว่านี้ การล้มโสมแดง ยังแสดงถึงการทรยศต่อความผูกพันทางอุดมการณ์ และความรู้สึกสำนึกในบุญคุณแรงสนับสนุนของผู้นำจีนรุ่นอาวุโสที่มีต่อผู้นำในเปียงยาง

“เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วความเสียเปรียบหลายๆอย่างที่ว่านี้ มีน้ำหนักมากพอที่จีนจะทนแม้กระทั่งพฤติกรรมแย่ๆที่เราเห็นเมื่อเร็วๆนี้” ดร.รอย กล่าว

 

 

************************************************************

 

 

 

 

 

 

เอาล่ะเหวย....นายกปูเธอไม่ธรรมดาล่ะนะ....พวกที่ชอบเล่นแต่การเมืองเตรียมขุดหลุมให้ตัวเองได้ละ !!

กระทู้สนทนา
"ดิฉันเห็นว่า การนำคำพูดของดิฉันไปบิดเบือน เพื่อใช้เป็นประเด็นทางการเมือง
เหนือประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประชาชน เป็นเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์
เป็นการดูถูกเกษตรกรที่ควรจะได้ลืมตาอ้าปากเสียที รถไฟความเร็วสูง
จึงเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนไทยมีโอกาสอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง"

=================================( คำพูดนายกปู จากเฟชบุคนายกครับ )

เป็นไงหล่ะแม่บัวเรียว..
โดนคนมาดนิ่ม ๆ ด่ากราดแบบผู้ดีเข้าให้ แล้วหน้าชากันมั่งป่ะ

ห่ะ ๆๆ

สนุกสนานกันใหญ่ กับรถไฟฟ้าความเร็วสูงขนผัก
โอววว....อย่าว่าแต่รถไฟฟ้าเลย เครื่องบินบินบนฟ้าเค้ายังใช้ขนผักกันเลย

ก็มันมัวแต่บ้องตื้น ตีกินกับคำพูด
หยิยยกประเด็นเอามาเป็นวิวาทะทางการเมืองเพื่อดิสเครดิต
และพูดความจริงข้างเดียว.....ว่า นายกจะขนผักกาด ทางรถไฟฟ้า
โอยยยยย...ไม่ใช่แมงสาบ คงไม่คิดกันแบบนี้

ผมจำคำพูดของเจ้านายผมเรื่องนึง
ว่าทำอะไรก็ทำได้แต่ขอให้มันเหมาะสม และคุ้มที่จะทำ
ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ให้มันเหมาะสมต่อระบบและเกิดผลดีที่สุด
ยกตัวอย่าง หากเราค้าขายผลไม้ ก็อย่าไปซื้อรถเบ้นท์มาขนสัปรด
นี่ผมยังจำแม่นถึงวันนี้

เคสรถไฟขนผักของนายก...
มันก็ทำได้และมีความเหมาะสมกับสินค้าเกษตรกรรมที่ราคาสูง
รึต้องการความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด หากช้ามันเสียหาย ราคาตก
และการลงทุนด้วยการขนส่งแบบนี้ ก็ยังคงคุ้มในต้นทุนที่เพิ่มมา
แต่หากมันสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวผักผลไม้ตัวนั้นได้คุ้มทุน มันก็เหมาะสมส่งกันทางรถไฟฟ้านี่แหละ

ก็คงไม่มีเษตรกรคนไหนที่ขนแตงโมทางรถไฟฟ้า ที่มันทั้งหนัก ทั้งกินพื้นที่เยอะน่ะนะ
แต่มูลค่าในตัวสินค้านิดเดียว...
ที่ผมมอง ๆ ไว้ คงเป็นสินค้าเกษตรจากโครงการหลวง
ที่ทุกวันนี้ ต้องส่งกันด้วยรถคอนเทรลเลอร์ ที่ควบคุมความเย็น

เอ้อออ.....คนเราก็นะ
วัน ๆ มัวแต่หยิบเอาประเด็นตอดเล็กตอดน้อย แบบไม่ทันได้คิดถึงความเป็นไปได้ และสิ่งที่เหมาะสม
ก็แบบงี้......สมแล้วที่จะเป็นฝ่านค้านดีเด่น
ขอให้เป็นฝ่ายค้านที่ตีแบบนี้ไปอีกสัก 100 ปีละกัน หุหุ


....................ขอยกภาพประกอบสุดคลาสสิคถาพนี้ครับ................แอ่นแอ้นนน

พวกเขารู้ครับ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้

ไม่อย่างนั้นเขาจะเอาเรื่องอะไรมาคัดค้านโครงการนี้ล่ะ?

นั่งฟังอภิปรายมาสองวัน ไม่เห็นมีเหตุผล อะไรที่จับต้องได้เลย นอกจาก โกงแน่นอน เป็นหนี้ชั่วลูกชั่วหลาน พรรคเราทำมาก่อน ฯลฯ

ถ้านึกอะไรไม่ออกก็ไม่พอเพียง ไม่เชื่อพ่อ

วนเวียนอยู่แค่นี้ละ

ฮ่วย เสียเวลาชิบ!!!!

 

(จาก น้าเจท ลำปาง พันทิปบอร์ด..)

 

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 18:28:59 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>