Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

มือฆ่าบินลาเดน...

ArjanPong | 12-02-2556 | เปิดดู 3783 | ความคิดเห็น 0

 

 

              "เล่นอยู่นั่นเเหละ..."

 

 

 

       

 

 

 

 

....มัวเเต่เล่น อยู่ได้ ทำรัยอยู่?

 

เนี่ยไม่รู้ เลยหรือไร? ไหวไหมหนอ?

 

ทำเป็นหยอก ทำเป็นเย้า พะเน้าพะนอ

 

ปล่อยลงท่อ ชลประทาน บานบุรี

 

 

 

 

....เเทนที่จะ ช่วยขึ้นมา อย่าช้าชัก

 

มือจะหัก ไหล่หลุดหาย กลายเป็นผี

 

หนึ่งสองสาม ไม่ขึ้นมา จะเห็นดี

 

ปล่อยเดี๋ยวนี้ จมข้างหมา หายบ้าเลย......

 

 

 

 

********************************************************************

 

 

 

 

 

*****************************************************

 

 

มือฆ่าบินลาเดนเล่าวินาทีสังหาร

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 16:38 น.

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวันนี้ว่า อดีตหน่วยซีลกล่าวถึงนายโอซามา บินลาเดน ว่า อดีตผู้นำอัลกออิดะห์ดูสับสน และมีรูปร่างสูงกว่าที่คาดไว้ เมื่อคอมมานโดบุกขึ้นไปบนชั้น 3 ของบ้านพักในเมืองอับบอตตาบัดของปากีสถาน จึงได้พบกับบินลาเดน ซึ่งอยู่กับภรรยาคนเล็กในความมืด เขาไม่รู้ว่า ภรรยาของบินลาเดนมีเสื้อติดระเบิดหรือไม่ แต่เธอถูกบินลาเดนผลักออกมาเพื่อพลีชีพ ขณะที่ บินลาเดนคว้าปืนเอเค-47 ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้เขาตัดสินใจยิงที่ศีรษะบินลาเดน เพื่อปิดโอกาสในการฆ่าตัวตาย จากนั้นเขาลั่นไกอีก 2 นัดที่บริเวณหน้าผากของบินลาเดน จนล้มลงไปกองกับพื้นหน้าเตียงนอนอย่างแน่นิ่ง เขาจึงเข้าไปยิงซ้ำตรงจุดเดิมอีกครั้ง จนแน่ใจว่า บินลาเดนตาย ซึ่งลิ้นห้อยออกมา
 

ส่วนบทสัมภาษณ์ของอดีตหน่วยซีลลงนิตยสารเอสไควร์ฉบับเดือนมีนาคมภายใต้ชื่อเรื่อง”คนที่ฆ่าบินลาเดนถูกทอดทิ้ง” ถึงแม้เขาเป็นวีรบุรุษที่ลั่นไกสังหารบินลาเดน แต่ก็ไม่ได้รับเบี้ยบำนาญ ประกันสุขภาพ หรือความมั่นคงเป็นพิเศษสำหรับครอบครัวของเขา ภายหลังลาออกจากหน่วยซีล บทสัมภาษณ์นี้มีขึ้นหลังจากสมาชิกหน่วยซีลอีกคนออกหนังสือเมื่อปีที่แล้วเรื่อง โน อีซี เดย์

 

 

มือสังหารบิน ลาเดนออกมาให้สัมภาษณ์...ถูกทางการทอดทิ้ง......

 

 

 

มือสังหารบิน ลาเดนออกมาให้สัมภาษณ์...ถูกทางการทอดทิ้ง......

 

U.S. Navy Seal คนที่ลั่นกระสุนสังหารบินลาเดนเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2011 ในที่ที่บินลาเดนหลบซ่อนตัวอยู่ ได้เปิดปากพูดเป็นครั้งแรกโดยการให้

สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Esquire โดยให้ชื่อว่า “The Shooter” เพื่อความปลอดภัย เขาบอกว่าเขาถูกทางการสหรัฐทอดทิ้งตั้งแต่เขาออกจากทหารเมื่อฤดูใบไม่ร่วงเมื่อปีที่แล้ว

เขาบอกกับ Esquire ว่าการที่เขาออกมาพูดเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับบิน ลาเดนและต้องการจะบอกว่าทหารที่ได้รับการฝึกอย่างหนักและทำงานที่ได้รับ

มอบหมายสำเร็จถูกทอดทิ้งละเลยอย่างไรหลังจากลาออกมาจากการเป็นทหารแล้ว

แม้ว่าการที่เขาฆ่าผู้ก่อการร้ายที่โลกต้องการมากที่สุด เขาก็ไม่ได้รับเบี้ยหวัดบำนาญ การประกันสุขภาพหรือหลักประกันต่อชีวิตเขาและครอบครัว

หัวหน้าหน่วย Seal บอกเขาว่าสามารถหางานโดยเป็นพนักงานขับรถขนส่งเบียร์ใน Milwaukee ให้เขาได้และยังบอกอีกว่าการประกันสุขภาพของครอบครัวเขาไม่มี...ยุติแล้ว

เขาถามหัวหน้าหน่วยว่าจะย้ายประกันจาก Tricare ไปยัง Blue Cross Blue Shield ได้หรือเปล่าก็ได้คำตอบว่าไม่ โดยได้รับการบอกกล่าวว่าเมื่อออกจากการเป็นทหารแล้วหลักประกันก็หมดไป ขอบคุณสำหรับ 16 ปีที่มาเป็นทหารต่อไปก็ต้องช่วยตัวเอง

หนังสือแมกกาซีน Esquire บอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นของ “The Shooter” ก็คือเขาไม่ได้รับราชการทหารครบกำหนดคือออกมาก่อนที่จะครบ 20ปี ถ้าอยู่จบครบก็จะได้รับผลประโยชน์ทุกอย่างที่ระบุไว้

ข่าวจาก Esquire บอกว่าปกติรัฐบาลจะอนุญาตให้ 180 วันสำหรับการย้ายประกันสุขภาพแต่นาย The Shooter ไม่ได้รับเพราะเขาไม่ตกลงที่จะรับราชการต่อหรืออาสาเป็นกองหนุน

นาย Shooterได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เขายิงบิน ลาเดนในวันนั้นว่า ในวินาทีนั้นเขายิงบิน ลาเดน 2 ครั้งที่หน้าผาก พอยิงครั้งที่สองเขาก็ล้มลงบนพื้นที่หน้าเตียงของเขา ตายสนิท เขาเห็นบินลาเดนหายใจเฮือกสุดท้ายและในขณะที่เขาเฝ้าดูนั้นเขาคิดถามตัวเอง นี่เป็นการกระทำที่ดีหรือเลวที่สุดของเขา

เขาไม่ได้คลั่งศาสนาและก็คิดอยู่เสมอว่าเขาเกิดมาเพื่อที่จะต้องทำอะไรซักอย่างหนึ่งหลังจากปฎิบัติการครั้งนั้นแล้วเขาคิดว่านั่นใช่แล้วหละ

เขาก็ได้ดูรายการข่าวครบรอบปีจากการตายของบิน ลาเดน..จาก CNN เหมือนกัน

มีคนถามว่าเขาจำได้ไหมเมื่อเขาพบว่าบิน ลาเดนตายแล้ว เขาก็ตอบว่าแน่นอนเพราะเขาอยู่ในห้องนอนของบิน ลาเดนที่บิน ลาเดนนอนตายอยู่

เมื่อเดือนกันยายน 2012 Matt Bissonnette ซึ่งเป็น 1 ใน Seal Team 6 ที่ไปสังหาร บินลาเดนได้พิมพ์หนังสือออกขาย “No Easy Day” หรือ มันไม่ใช่วันง่ายๆ เป็นเรื่องเหตุการณ์เกี่ยวกับวันนั้น....วันไปสังหาร บิน ลาเดน

 

โฆษกของ Esquire บอกว่าไม่ได้จ่ายค่าสำภาษณ์กับนาย “The Shooter” แต่อย่างใด

 

 

ใครจะคิดว่าเด็กหนุ่มอายุ 19 ถูกแฟนตัดรัก...ก็เลยไปสมัครเป็นทหารเรือ....เติบโตมาในสาย Seal ผ่านการรบมาหลายสมรภูมิในที่สุดกลายมาเป็นมือสังหารเด็ดชีพ บิน ลาเดน....แต่ตอนนี้มีชีวิตแบบกระเสือกกระสน.....

มันช่วยไม่ได้...เขาเลือกทางเดินผิดเอง.....

 

ค่าหัว 25 ล้านUS .... ก็ไม่มีใครได้รับ เพราะว่า สำเร็จด้วยเทคโนโลยี

เอากับมันสิ....

 

 



ครบรอบวาระ 11 ปีเหตุวินาศกรรม 11 กันยาฯ หรือ 9/11

รายการ 60 นาที (60 Minutes) แพร่ภาพการเปิดตัวและเปิดใจเจ้าหน้าที่หน่วยซีล ผู้ร่วมปฏิบัติการปลิดชีพ โอซามา บิน ลาเดน ผู้ที่สหรัฐอเมริกาเชื่อว่า บงการก่อเหตุวินาศกรรมสะท้านโลกดังกล่าว

เจ้าหน้าที่รายนี้เปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังเหตุการณ์ในวันปลิดชีพบิน ลาเดน เมื่อ 2 พ.ค. 2554 หรือช่วง 10 ปีหลังจากเหตุการณ์ 9/11 ในหนังสือต้องห้ามชื่อ No Easy Day (โน อีซี่ เดย์ - ไม่มีวันง่าย)


นับจากที่หนังสือเล่มดังกล่าวปรากฏเป็นข่าว รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีผู้ใช้นามปากกาว่า ′มาร์ก โอเว่น′ ในข้อหาเปิดเผยความลับทางทหาร และละเมิดข้อตกลงของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ โดยไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลที่เกี่ยวข้องได้อ่านก่อน

ไม่ว่า กระทรวงกลาโหมหรือเพนตากอน หน่วยข่าวกรองแห่งชาติหรือซีไอเอ รวมไปถึงทำเนียบขาว

เจ้าหน้าที่เพนตากอนจึงส่งหนังสือแจ้งผู้เขียนไปว่า ′ตามการพิจารณาตัดสินของกระทรวงกลาโหม ท่านละเมิดกฎระเบียบข้อบังคับในข้อตกลงที่ท่านลงนามไว้ ดังนั้นเพนตากอนจะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมาย′


ขณะที่ มาร์ก โอเว่น กลับเปิดเผยชื่อจริงของตัวเองว่า ′แม็ต บิสซอนเน็ตต์′ พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นร้อนกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ผ่านรายการ 60 นาทีทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส


บิสซอนเน็ตต์ยืนยันว่าทุกข้อความในหนังสือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงช่วงนาทีชีวิตที่บิน ลาเดนถูกสังหาร

ย้อนกลับไปในปีที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐเผยแพร่รูปทีมบัญชาการของประธานาธิบดีบารัก โอบามา นั่งชมปฏิบัติการปลิดชีพครั้งนี้จากทำเนียบขาว สีหน้าแต่ละคนโดยเฉพาะนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐดูตื่นเต้นและเครียด


ข่าวในตอนนั้น ฝ่ายรัฐบาลเผยว่า หน่วยซีลบุกเข้าไปในบ้านของบิน ลาเดน ที่เมืองอับบอตตาบัด ประเทศปากีสถาน โดยยิงบิน ลาเดน นัดแรกเมื่อหัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายหลบเข้าไปในห้องนอน เพราะเกรงว่าจะหยิบอาวุธออกมาต่อสู้

 

 

 

 




บางกระแสข่าวแรกๆ ลือถึงขั้นว่า บิน ลาเดนใช้ผู้หญิงเป็นโล่กำบังตัว


แต่บิสซอนเน็ตต์เผยว่า จริงๆ แล้ว ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายระดับโลกถูกยิงโป้งแรก ทันทีที่ชะโงกมานอกห้องนอน


หลังถูกยิงนัดแรกไปแล้ว ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ หน่วยซีลจึงรุดเข้าไปห้องนอน และยิงซ้ำอีกครั้งเป็นนัดที่สอง เพราะมองไม่เห็นมือ กลัวว่าอาจถือระเบิด หรือซ่อนอะไรบางอย่างไว้ที่หน้าอก


′เหนี่ยวไกปืนถือเป็นเรื่องง่าย เพราะมันไม่เกี่ยวกับคนที่เราจะสังหาร แต่มันเกี่ยวกับทีมที่ทำงานร่วมกันในภารกิจ ใครจะสนว่าใครคือคนที่ยิงบิน ลาเดน ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญ′ บิสซอนเน็ตต์กล่าว หลังปฏิเสธที่จะบอก ประธานาธิบดีบารัก โอบามา หลังภารกิจเสร็จสิ้นลงว่า เจ้าหน้าที่หน่วยซีลคนใดในทีมที่ปลิดชีพบิน ลาเดน

เจ้าของหนังสือโน อีซี่ เดย์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ลุกขึ้นมาเขียนหนังสือเล่มนี้ ก็เพราะเห็นว่าเรื่องราวเกี่ยวกับสังหารบิน ลาเดน คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปมาก


ด้านทนายของบิสซอนเน็ตต์ยืนยันหนักแน่นว่า เนื้อหาในหนังสือไม่เข้าข่ายตามข้อตกลงที่ลูกความทำไว้กับต้นสังกัด และเหตุผลที่ บิสซอนเน็ตต์เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา


ขณะที่ นายจอร์จ ลิตเติล โฆษกเพนตากอนแถลงว่า หนังสือโน อีซี่ เดย์ เปิดเผยข้อมูลลับที่ล่อแหลม


เมื่อถามว่า รัฐบาลสหรัฐจะดำเนินคดีกับผู้เขียนหรือไม่ ลิตเติลตอบว่า เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาทุกทางเลือก


′ผมยังไม่ขอพูดถึงสิ่งที่เราอาจตัดสินใจในทางใดทางหนึ่ง′
 

 

 

(ที่มา:ข่าวสดรายวัน 12 กันยายน 2555)

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 17:31:54 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>