Support
Arjan Pong
035 323239, 035 323240, 089 8129392
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

มันบ้าไปเเล้ว

ArjanPong | 18-12-2555 | เปิดดู 2467 | ความคิดเห็น 0

 

   

   เผยมือปืนกราดยิง ร.ร.คอนเนตทิคัตเคยเป็นนักเรียนดีเด่น คาดป่วยทางจิตรุนแรง

 

 

อดัม แลนซา วัย 20 ปี ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุสังหารแม่ของตัวเอง และกราดยิงโรงเรียนประถมแซนดี ฮุค ในคอนเนตทิคัต

 

เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่ตำรวจเผย มือปืนกราดยิงโรงเรียนประถมในเมืองนิวตัน มลรัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งคร่าชีวิตเด็กไป 20 ราย และผู้ใหญ่อีก 8 คน นั้นเคยเป็นถึงนักเรียนดีเด่น อาศัยอยู่กับมารดาในย่านคนรวย ทว่า กลับเป็นเด็กซึมเศร้า เก็บกด และน่าจะมีปัญหาทางจิตขั้นร้ายแรง

อดัม แลนซา วัย 20 ปี ตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุสังหารแม่ของตัวเอง และกราดยิงโรงเรียนประถมแซนดี ฮุค ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย ในจำนวนนั้นเป็นเด็กถึง 20 คน ก่อนจะปลิดชีพตัวเองตายตามไป

เจ้าหน้าที่บังคับคดีกล่าวว่า แลนซา อาจมีปัญหาความผิดปกติทางบุคลิกภาพ โดยพวกเขาจะพยายามสืบสวนความจริงเกี่ยวกับตัวมือปืนรายนี้ให้ได้มากที่สุด และสอบปากคำพี่ชายของเขา ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีสะเทือนขวัญครั้งนี้แต่อย่างใด

แลนซาสังหารแม่ของตัวเองที่บ้านของเขาก่อนที่จะขับรถของเธอไปยังโรงเรียนประถมดังกล่าว พร้อมอาวุธปืนพกอย่างน้อย 2 กระบอก เพื่อก่อเหตุสังหารหมู่ในวันศุกร์ (14) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระบุ โดยเสริมว่ายังพบปืนกระบอกที่ 3 ซึ่งเป็นปืนไรเฟิล .223 ในรถ และปืนอีกหลายกระบอกภายในสถานที่เกิดเหตุด้วย

จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยเกี่ยวกับแรงจูงใจในการก่อเหตุของผู้ต้องสงสัยรายนี้แต่อย่างใด โดยพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างบอกว่า มือปืนไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

ทั้งนี้ แลนซา และแม่ของเขา แนนซี อาศัยอยู่ในย่านผู้มีอันจะกินของเมืองนิวตัน ชุมชนซึ่งมีผู้อาศัยอยู่ราว 27,000 คน ห่างจากมหานครนิวยอร์กไปเพียง 60 ไมล์ ขณะที่ โดโรธี แฮนสัน วัย 78 ปี ยายของคนร้าย ซึ่งอยู่ ณ เมืองบรูกส์วิลล์ ฟลอริดา ก็โศกเศร้าเสียใจมากเกินกว่าที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว

ด้าน แคเธอรีน เออร์โซ ซึ่งเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยในเย็นวันศุกร์ เผยว่า ลูกชายของเธอรู้จักกับฆาตกร และจำเขาได้จากลักษณะที่โดดเด่น ทั้งร่างกายที่ผอมมากๆ ไม่สุงสิงกับใคร และเป็นสาวกเพลงร็อก

เจ้าหน้าที่บังคับคดีรายหนึ่งกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่าแลนซาเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้เมื่อหลายปีก่อน แต่ปัจจุบันไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสถานที่แห่งนี้แล้ว ส่วนแม่ของเขา ผู้ปกครองของเด็กรายหนึ่งบอกว่า เธอเป็นครูชั่วคราว แต่ไม่อยู่ในรายชื่อพนักงาน ทำให้ยังไม่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโรงเรียนแห่งนี้ได้

สำหรับ ไรอัน แลนซา วัย 24 ปี พี่ชายของมือปืนคลั่ง ซึ่งอยู่ในนิวเจอร์ซีย์ ก็ถูกเจ้าหน้าที่สอบปากคำอยู่ โดยเจ้าตัวเชื่อว่า น้องชายของเขามีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผย โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่เขาก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม และยังไม่ชัดเจนว่า แลนซามีความผิดปกติประเภทใดกันแน่

ยิ่งไปกว่านั้น สื่อท้องถิ่นหลายสำนักได้ตัดคลิป ที่อ้างชื่อของ อดัม แลนซา ปรากฏในทำเนียบนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนมัธยม นิวตัน ไฮสกูล ที่เขาร่ำเรียนอยู่ ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาด้วย

ขณะที่เพื่อนบ้านของครอบครัวแลนซาเผยว่า แม่ของคนร้ายเป็นคนนิสัยดี เป็นที่ชื่นชอบของคนในละแวกบ้านทั้งหมด และก็ไม่เคยมีใครรู้เกี่ยวกับปัญหาภายในบ้านหลังนี้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม ญาติรายหนึ่งเผยกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ว่า อดัม "ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด" ส่วนเพื่อนๆ ของครอบครัวหลายคนก็บอกว่า เด็กหนุ่มน่าจะเก็บกด เนื่องจากแม่ของเขาเป็นคนเข้มงวดมากๆ

ส่วน ปีเตอร์ แลนซา ผู้เป็นพ่อซึ่งหย่ากับแม่ของเขาในปี 2009 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานจีอี แคปิตอล และเป็นพาร์ทเนอร์ของบริษัทตรวจสอบบัญชียักษ์ใหญ่ เอิร์นต์ แอนด์ ก็ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในนิวเจอร์ซีย และเอฟบีไอแล้ว

 

ไรอัน แลนซา พี่ชายของมือปืนถูกตำรวจรวบตัวไว้สอบปากคำ

 

 

 

คุณเป็นพ่อแม่ประเภทไหน


 

 

 

สิ่งแวดล้อมและการอบรมเลี้ยงดูลูกตลอดจนทัศนคติของพ่อแม่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของลูกมาก ฉะนั้นการที่เด็กจะเติบโตขึ้นมีบุคลิกภาพเช่นใดนั้น นอกจากพันธุกรรมแล้ว การอบรมเลี้ยงดูเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมาก เด็กถูกเลี้ยงดูมาอย่างถูกต้องและเหมาะสม ทำให้เขามีบุคลิกภาพที่ดีมีการปรับตัวต่อปัญหาต่างๆ ได้ มีอารมณ์ที่มั่นคงแต่ในทางตรงกันข้ามถ้าเด็กถูกเลี้ยงดูอย่างไม่เหมาะสมก็ทำให้เด็กมีพัฒนาการ และบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสม จะเป็นปัญหาต่อการปรับตัว และเป็นผลทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตได้ง่าย มาดูว่าคุณเข้าข่ายเป็นพ่อ-แม่ แบบนี้หรือเปล่า….


 

    • พ่อแม่ที่รักมากและปกป้องมากเกินไป
คือการให้ความรักแก่ลูกมาก ทะนุถนอมมากเกินไปปฏิบัติตัวเหมือนเป็นเด็กเล็กๆ ทั้งที่ลูกก็โตแล้ว พ่อแม่ก็นั่งประคบประหงมเหมือนไข่ในหิน ไม่ยอมให้ห่างสายตา ไม่ยอมให้ทำอะไรเลย เพราะกลัวจะเป็นอันตราย ลูกไม่ต้องคิดหรือตัดสินใจทำอะไรเลย พ่อแม่จะเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด

 

เกิดอะไรขึ้น การเลี้ยงดูลูกแบบนี้ ทำให้ทักษะในการช่วยเหลือตัวเองช้า การที่จะพัฒนาไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจในตัวเองมีน้อยมาก เพราะไม่เคยตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองเลย ทำให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนเด็กคือเลี้ยงเท่าไรก็ไม่รู้จักโต

 


 

    • พ่อแม่ที่ไม่ต้องการลูก
      •  
    พ่อแม่ที่มีทัศนคติแบบนี้ก็จะไม่รักลูก และพาลเกลียดลูก ซึ่งอาจเนื่องมาจากการมีลูกทำให้พ่อแม่ต้องลำบากยิ่งขึ้นอีก หรือขณะแม่ตั้งครรภ์มีอาการไม่สบายมากทำงานไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าลูกคนนี้นำความทุกข์มาให้ อาจจะเกิดตั้งแต่ตั้งครรภ์ หรือภายหลังคลอดลูกแล้วก็ได้ พ่อแม่ก็ซัดทอดว่าเป็นเพราะลูกคนนี้ทำให้ครอบครัวลำบาก นอกจากนี้พ่อแม่อาจจะเกลียดลูกซึ่งตนโทษว่าเป็นเหตุให้แม่หรือพ่อบังเอิญมาตายระหว่างตั้งครรภ์

     

    เกิดอะไรขึ้น พ่อแม่ที่มีความรู้สึก เช่นนี้ ก็จะปฏิบัติกับลูกด้วยความรุนแรง ทั้งวาจา พฤติกรรม และสีหน้า และไม่สนใจลูกทำให้ลูกพัฒนาไปเป็นเด็กที่กระด้าง ก้าวร้าว ชอบทะเลาะอาละวาด หงุดหงิด และมีลักษณะต่อต้านสังคม อาจเกิดปัญหาสุขภาพจิต ติดยาเสพติด ติดเหล้า ติดการพนัน ลักขโมย เป็นต้น


     

      • พ่อแม่เจ้าระเบียบจัด
    พ่อแม่แบบนี้จะเป็นคนระเบียบจัดต้องการให้ทุกอย่างเรียบร้อย เป็นระเบียบถูกต้อง ทุกอย่างไม่รู้จักผ่อนปรนให้ ต้องคอยชี้แจงซ้ำซากตลอดเวลา ถ้าลูกทำไม่ได้ดังใจก็จะโกรธและตำหนิรุนแรง และคอยจุกจิก จู้จี้กับลูก แม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

     

    เกิดอะไรขึ้น การเลี้ยงลูกแบบนี้จะทำให้เด็กพัฒนาไปเป็นเด็กที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง และมีปมด้อย เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดี ไม่มีความสามารถ เพราะทำอะไรไม่เคยถูกใจพ่อแม่เลย


     

      • พ่อแม่ที่ตามใจมากจนไม่มีขอบเขต
    พ่อแม่มักจะตามใจลูกทุกอย่าง โดยเฉพาะทางวัตถุ ลูกจะได้ทุกอย่างตามที่เขาต้องการเท่าที่ฐานะทางเศรษฐกิจของพ่อแม่จะอำนวย และไม่รู้จักอบรมลูกว่าสิ่งใดผิดสิ่งใดถูกอะไรควรอะไรไม่ควรปฏิบัติ ปล่อยให้ลูกทำตามใจตัวเองตามความพอใจ

     

    เกิดอะไรขึ้น ผลเสียก็คือ เมื่อลูกออกสู่สังคมนอกบ้าน ก็จะอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ยากทำให้เกิดปัญหาในปรับตัว เอาแต่ใจตัวเองและขาดความอดทน มีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นที่ไม่ราบรื่น เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย


     

      • พ่อแม่ที่วิตกกังวลหวาดกลัวมากเกินกว่าเหตุ
    พ่อแม่ที่มักจะตีตนไปก่อนไข้แสดงความวิตกกังวลในตัวลูกมากเกินกว่าเหตุ เช่น กลัวว่าลูกจะได้รับอุบัติเหตุ ลูกจะถูกหลอกไป ไม่ค่อยยอมให้ออกไปเที่ยวข้างนอกกลัวโดนแดดหรือกรำฝนจะไม่สบาย เวลาลูกไม่สบายเจ็บป่วยเพียงน้อยก็แสดงความวิตกกังวลมากย้ำถามย้ำปฏิบัติ

     

    เกิดอะไรขึ้น การเลี้ยงลูกแบบนี้จะทำให้ลูกเติบโตเป็นเด็กที่มีความวิตกกังวลหวาดกลัว ห่วงใยในเหตุการณ์ต่างๆ จนไม่มีความสุข และขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง

     

    การที่พ่อแม่จะอบรมเลี้ยงดูอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพอารมณ์ของพ่อแม่ ความสัมพันธ์ในชีวิตสมรสของพ่อแม่ ลักษณะเฉพาะของลูกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตครอบครัวนั้นๆ ประสบการณ์ที่พ่อแม่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูและการเลี้ยงดูลูกคนแรกด้วยปัจจัยดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเด็กแต่ละคนจะมีพัฒนาทางบุคลิกภาพไม่เหมือนกัน เนื่องจากสาเหตุดังกล่าว ฉะนั้น วิธีการอบรมเลี้ยงดูลูกที่ถูกต้องของพ่อแม่เป็นปัจจัยอันหนึ่งที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการทางบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสมพ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการอบรมเลี้ยงดูลูกที่จะทำให้เกิดผลเสียดังกล่าว แต่ควรปฏิบัติเลี้ยงดูโดยทางสายกลางเป็นสิ่งที่ดีที่สุด คือไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป ควรอบรมเลี้ยงดูลูกให้เหมาะสมกับความสามารถและวัยของเด็ก ไม่ควรใช้อารมณ์ แต่ควรอบรมสั่งสอนลูกอย่างมีเหตุผลมีวินัยที่ดี แต่ต้องไม่เข้มงวดจนเกินไป และไม่ควรตามใจเกินไปหรือปล่อยปละละเลยจนเกินไป

     

    พ่อแม่ควรให้ความรักอย่างเหมาะสมและมีเหตุผลไม่ใช่รักมากอย่างไม่มีขอบเขตตลอดจนพ่อแม่ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กได้เลียนแบบ ความผาสุกในชีวิตแต่งงานของพ่อแม่ การปฏิบัติต่อกันของพ่อแม่ด้วยความรัก ความเข้าใจเห็นอกเห็นใจกัน จะทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่น มั่นคง อันจะเป็นรากฐานของการที่เด็กจะเจริญเติบโตมาด้วยความผาสุข และความพอใจอันจะมีผลดีทั้งต่อตัวเด็กเอง และสังคมต่อไปในอนาคต.

 

 

 

กทม.เผย บัตรประชาชนหมดสต็อก!! ใช้ใบเหลืองแทนไม่มีกำหนด

http://st2.mthcdn.com/mthai2012/bof/uploaded/20121218/02ece096b179dff1806681fd639931091c4b7708.jpg

สำนักข่าวไทย รายงานว่า นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับหัวหน้าฝ่ายปกครองและหัวหน้าฝ่ายทะเบียน 50 เขตของ กทม.ว่า

ได้รับแจ้งจากกรมการปกครองเมื่อเวลา 09.30 น. ยืนยันว่าไม่สามารถจัดสรรบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ กทม.ได้ เนื่องจากบริษัทเอกชนส่งมอบบัตรให้แก่กรมการปกครองไม่ทันตามกำหนดวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้บัตรหมดสต็อกแล้ว ซึ่งทางกรมการปกครองได้พยายามจัดสรรให้กับ กทม.อย่างเต็มที่มาโดยตลอด เพราะเป็นศูนย์กลางที่มีความต้องการใช้อย่างมาก

ในวันนี้จะมีการส่งมอบบัตรให้ 15 เขต เขตละ 100 ใบ เป็นครั้งสุดท้ายของล็อตนี้ โดยภายหลังบัตรที่เก็บอยู่ที่สำนักงานเขตต่าง ๆ หมดลง ก็จะย้อนกลับไปสู่การใช้ใบแทนบัตรประชาชน หรือใบเหลืองไปก่อน จนกว่าจะได้รับบัตรประชาชนมาจากกรมการปกครอง

 

เริ่มแล้ว ครับ

 

55555555555

 

 

หาทางแก้แล้วกัน พรรคเพื่อไทย

มุขนี้ ใช้ได้มาหลายครั้งแล้ว 

... พอใกล้เลือกตั้งปุ๊บ บัตรหมดทันทีเลยนะ แค่บัตรพลาสติค  กทม.ยังไม่มีปัญญา หามาให้ประชาชนใช้ อนาถหนอ

 

ความคิดเห็น

วันที่: Fri Nov 15 16:22:34 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

 <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/_jUHKM1YHcc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>