พ่อครับ ผมขอโทษ...
หลังวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่เหมือนคนทั่วไป
“กุหลาบ ช็อคโกแลต คำบอกรัก"
สามสิ่งนี้ต้องเวียนเข้ามาหาชีวิตผม
เพื่อให้คนคนหนึ่งใน ทุก ๆ ปีของวันนี้
. . . ก่อนวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ผมเดินออกจากบ้าน
ในมือมีผ้าเช็ดหน้าสีชมพูที่ต้องการเอาให้แฟนของผม
เธอเป็นหญิงสวยมาก เป็นดาวคณะของมหาลัยของเรา
ก่อนผมจะออกไปพบเธอ เธอโทรมาหาผม
ผมจึงวางผ้าเช็ดหน้าที่ผมบรรจงพับไว้บนโต๊ะ
หลังจากการพร่ำบอกรักกันด้วยถ้อยคำหวานหูเป็นเวลานานทีเดียว
ผมปรี่ออกจากบ้านไปหาเธอ
โดยไม่ลืมผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น
แต่แล้ว!!
ผมก็เห็นพ่อของผมถือมันออกมา ในผ้าผืนนั้นมีรอยเลือด
"พ่อ ทำอะไรหนะ" ผมโพล่งถามด้วยความโมโห
พ่อหน้าซีดทันที
"เหมียวหนะ มันโดนกัด พ่อเลยเอาผ้าไปเช็ดเลือด"
"พ่อรู้ไหม ผมกำลังจะเอาไปให้แฟน"
พ่อเงียบ . . . ผมเกลียดจริงๆ เวลาพ่อเงียบเมื่อจนกับปัญหา
ความโหโหสั่งผมให้ทำได้แม้กระทั่งจะตบหน้าพ่อ
พ่อเบือนหน้า
"พ่อขอโทษ มานี่ . . . " พ่อยื่นมือมารับผ้าเช็ดหน้า
"พ่อจะเอาไปซักให้เอง"
ผมงอนพ่อถึงกับไม่ยอมคุยกับพ่อเป็นเวลานานพอควร
ไม่ยอมลงจากบ้าน
เป็นเวลาเกือบทั้งสองวันที่ผมไม่เจอหน้าใคร
หมกตัวอยู่กับห้อง มีเพียงแม่เท่านั้นที่คอยส่งข้าวให้ผม
ยามเมื่อผมมองตาแม่ครั้งใดทุกครั้ง ดวงตาแม่จะแดงปรี่ด้วยน้ำตา
ผมเริ่มรู้สึกว่า บางทีผมอาจจะทำเกินไป
. . . 14 กุมภาพันธ์
ตั้งแต่ครั้งที่ผมเห็นแม่เสียใจ
ผมก็รู้สึกว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า
ผมยอมออกมาจากห้อง
ผมไม่เห็นพ่อ
เดินออกมาที่บริเวณลานซักผ้า กาละมังยังมีผ้าที่ยังไม่ซักหลายผืน
ข้างๆ มีกองเลือดอยู่ และที่ราวตากผ้ามี ผ้าเช็ดหน้าของผม
ถึงจะล้างรอยเลือดไม่หมด ก็ยังดีที่พ่อยังห่วงใยผม ยังแคร์ผมอยู่
"พ่อ ผมอยากขอโทษครับ"
พอผมหันหน้าจะกลับเข้าบ้าน ก็พบกับแม่ แม่ร้องไห้มาแต่ไกล
แม่วิ่งมากอดผม "พ่อเสียแล้วนะ"
ผมอึ้ง!!
แม่ลำดับเหตุการณ์ และทำให้ผมทราบว่า
พ่อป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจติดเชื้อ
รอยเลือดที่เห็นนั้นคือเลือดที่พ่อจามออกมา พ่อมองไม่เห็น
"พ่อกำชับแม่มาตอนที่ลูกโกรธว่า อย่าบอกลูกเด็ดขาดว่าพ่อป่วย "
"ทำไมล่ะครับ"
"พ่อกลัวเราจะเสียใจ แล้วไม่ได้ออกไปเที่ยวกับแฟน"
ผมอึ้งเป็นครั้งที่สอง!
"พ่อบอกแม่ด้วยว่า ถ้าพ่อเสียวันนี้ อย่าเพิ่งบอกลูก
ให้ลูกไปเที่ยวกับแฟนก่อน
พ่อไม่อยากให้ลูกเป็นทุกข์ พลาดโอกาสอย่างนี้เพราะพ่อคนเดียว
พ่อบอกด้วยว่าพ่อซักผ้าเช็ดหน้าให้แล้ว มันไม่สะอาดหรอก
แต่พ่อบอกว่าพ่อของลูกทำดีที่สุดแล้ว"
ผมกอดแม่ ร้องไห้
วันนี้จะเป็นวันวาเลนไทน์ที่อยู่ในความทรงจำตลอดไป
"พ่อครับ ผมขอโทษ . . . "
ข่าวจากเดลินิวส์...
ทนรับค่าแรงไม่ไหว พาพรรคพวกไปพม่า ตายเอาดาบหน้า
(4 ธ.ค. 55)--นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจะจัดคณะผู้นำทางธุรกิจรายใหญ่ 20 ราย เช่น เครือสหพัฒน์, กลุ่มมิตรผล, ไทยเบฟเวอเรจ และธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น เตรียมเดินทางไปเยือนพม่าระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค.55 เพื่อพบกับประธานและผู้แทนระดับสูงของหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งพม่า ในการกระชับความสัมพันธ์และขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
นอกจากนี้ ยังจะไปศึกษาลู่ทางย้ายฐานการลงทุนไปยังพม่า เพื่อหาทางลดผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาททั่วประเทศในปีหน้า เพราะพม่าน่าลงทุนมากที่สุดในอาเซียนขณะนี้ นอกจากมีทรัพยากรธรรมชาติมากแล้วยังมีค่าจ้างแรงงานที่ต่ำมากเพียงวันละ 75-120 บาท ส่วนอัตราค่าจ้างในระดับปริญญาตรีเดือนละ 3,000-6,000 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกันยังได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GDP)ในการส่งออกสินค้าเข้าสู่ประเทศพัฒนาแล้วโดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าด้วย
ประธานกรรมการหอการค้าไทย ยังกล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยปี 55 โดยคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัว 5.5% เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป และสหรัฐฯ รวมถึงปัญหาอุทกภัย ส่วนแนวโน้มในปี 56 ยังน่าเป็นห่วงโดยคาดจะขยายตัวที่ 4-5% จากความต้องการภายในที่สูงขึ้น
ขณะที่ด้านส่งออกคาดจะขยายตัวได้ไม่เกิน 5% โดยสินค้าที่จะขยายตัวได้ดี เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ, เครื่องนุ่งห่ม, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ส่วนสินค้าที่ชะลอตัว ได้แก่ ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ อาหารทะเลแช่แข็ง, เฟอร์นิเจอร์, ยางพารา เป็นต้น
นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ในวันที่ 6 ธ.ค. จะหารือเพื่อสรุปมาตรการลดผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(SMEs)อีกครั้ง ก่อนส่งให้ ครม.พิจารณาในวันที่ 11 ธ.ค.นี้
เบื้องต้นจะเสนอมีเรื่องการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและการหักค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร การเสนอให้รัฐบาลตั้งงบประมาณเพื่อใช้เป็นกองทุนจ่ายชดเชยส่วนต่างค่าแรงขั้นต่ำให้กับ SMEs เป็นต้น
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าระบบประมาณปีละ 100,000-150,000 ล้านบาท ซึ่งจะผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ 1% แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่สภาพการเมืองภายในประเทศนิ่ง และเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอยไปกว่านี้
พม่ายังไม่มีกฏหมาย ใช้ การลงทุนเหยียบตาปลา ทหารเมื่อใด ยึด ครับ
ไฟฟ้าไม่มี ถนนไม่มี พวกนี้ไปอย่างดีก็ชายแดนไทย ครับ
คงไม่กล้าไปหรอกครับ ทำฟอร์มลีลาแค่นั้นแหละ อย่าลืมว่าค่าครองชีพพม่าพอๆกับไทยนะครับ
บางคนอาจจะคิดว่าถูกกว่า ผิดครับ ข้าวราดแกงจานละ40บาทเหมือนกัน และที่สำคัญระบบสาธาณูปโภค
แทบไม่มีเลย ใครอยากไปก็ให้มันไปเหอะ
ไฟฟ้าดับ วันละ 2 ชั่วโมง ...
ปีเดียว พวกท่านก็เจ๊ง วิ่งหนีกลับกันหมด แล้ว ...
ขนาดกู้เงิน ธกส.มายังสามารถจ้างคนเกี่ยวข้าว วันละ 300-350 บาท แถมเลี้ยงข้าวกลางวัน ตบตูดด้วยกาแฟเครื่องดื่มชูกำลังอีกต่างหาก และต้องรอคิวอีกด้วย ในเมื่อปี 2558 เขาจะไร้พรมแดนกันแล้ว ต้องมีการเคลื่อนย้ายตลาดแรงงานกันอย่างเสรีในกลุ่ม ASIAN สมมุติว่า ปี 2558 ค่าแรงงานของไทยอยู่ที่วันละ 400 บาท พม่าอยู่ที่วันละ 200 บาท แล้วพวกท่านจะไปจ้างใครมาทำงาน เพราะกรรมกรพม่าคงย้ายมาทำงานในไทยกันหมดแล้ว
วันที่: Fri Nov 15 14:37:35 ICT 2024
|
|
|