ต้นกำเนิดแห่งการเกิดสิว
1. เกิดความผิดปกติในการสร้างเซลล์ผิวชั้นเคราทิน โดยเซลล์ผิวหนังเกาะตัวกันเหนียวหนืดมากขึ้น ก่อให้เกิดการอุดตัน
2. ต่อมไขมันผลิตซีบัม หรือไขมันมากเกินความจำเป็นแต่ไม่สามารถลำเลียงสู่ผิวชั้นบนได้เนื่องจากเกิดการอุดตันบริเวณท่อเปิด นานวันไขมันก็ถูกสร้างและสะสมกันเป็นก้อน
3. เชื้อแบคทีเรีย p.acnes การแบ่งตัวเติบโตของเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ก่อให้เกิดการอักเสบ
4. การอักเสบ อาจเกิดจากการถูกกระตุ้นโดยเชื้อแบคทีเรียหรือสาเหตุอื่นๆ ทำให้ลุกลามขยายตัว ส่งผลให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง กลายเป็นแผล
สาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดสิว แตกต่างกันไปแต่ละคน ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม อารมณ์ ความเครียด ฮอร์โมน เครื่องสำอาง ภมิอากาศ การเสียดสี ยา (โดยเฉพาะกลุ่มสเตรียรอยด์ ยากันชัก ไอโอดีน)
สิวแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
1. สิวอุดตันหัวปิด ลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆคล้ายผดสีเนื้อ ไม่มีรูเปิด บางครั้งมองไม่ชัดแต่หากใช้มือลูบจะสัมผัสได้ถึงไขมันมราฝังตัวอยู่ใต้ผิว
2. สิวอุดตันหัวเปิด หรือที่เรียกกันว่าสิวหัวดำ ละกษณะเป็นรูเปิดเล็กๆ และมีจุดดำตรงกลาง ซึ่งจุดดำที่เห็นคือไขมันนั่นเอง
3. สิวอักเสบ ลักษณะเป็นสิวเม็ดแดง บวม กดเจ็บ มักพัฒนาจากสิวอุดตัน เกืดการแบ่งตัวของเชื้อแบคทีเรีย p.acnes
4. สิวหัวช้างคือสิวอักเสบที่เม็ดใหญ่มากๆ อาจมีหนองสีเหลืองด้านบน มักมีอาการปวดร่วมด้วย เป็นสิวที่มีโอกาสฝากรอยแผลเป็นไว้บนหน้ามากที่สุด
นอกจากนี้ยังสามารถแยกย่อยเป็นกลุ่มพิเศษได้อีกหลายชนิด เช่น
- สิวเขตร้อน พบมากในประเทศเขตร้อน ลักษณะเป็นผดเล็กๆบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก จัดเป็นสิวเทียมหายได้เมื่ออากาศเย็นลง
- สิวเสียดสี เกิดจากการกระตุ้นด้วยแรงกดหรือแรงเสียดทานต่อผิว อาจพบเป็นสิวผดเล็กๆบริเวณที่เกิดการเสียดสีบ่อยๆ
- สิวที่เกิดจากสารเคมี ใบหน้าจะมีสิวอุดตัน โดยเฉพาะหัวดำรวมตัวกันหนาแน่น มักพบในคนที่ทำงานสัมผัสกับสารเคมีที่ก่อให้เกิดสิว เช่นน้ำมัน ปิโตรเลี่ยม สารกลุ่มไฮโดรคาร์บอน คลอรีน สารกลุ่มสเตียรอยด์
ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือเคล็ดลับผิวใสสไตล์ญี่ปุ่น